5 ก.ค. 2020 ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมในออสเตรเลียในช่วงสองวันนี้เพิ่มขึ้น 194 คนรวมเป็น 8,449 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 104 คน และผลการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศทำไปแล้ว 2,713,435 คน พบอัตราการติดเชื้อโดยเฉลี่ยที่ 0.3%
ในวันนี้เหลือผู้ป่วยติดเชื้อทั้งสิ้น 946 คน เป็นผู้เข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ 30 คน รักษาตัวในห้องไอซียู 4 คน ส่วนที่เหลือเก็บตัวพักฟื้นอยู่ตามศูนย์กักตัวและสถานที่พักส่วนบุคคล
สั่งล็อคดาวน์อาคารสงเคราะห์ในเมลเบิร์นตอนใน 9 อาคาร
รัฐบาลรัฐวิกตอเรียสั่งล็อคดาวน์อาคารสงเคราะห์ในนครเมลเบิร์นจำนวน 9 แห่งที่มีผู้เปราะบางทางสังคมประมาณ 3,000 คนอยู่อาศัยในจำนวน 1,345 ยูนิต โดยคาดว่าจะปิดล็อคการเข้าออกในระหว่าง 5 ถึง 14 วัน
การสั่งล็อคดาวน์เกิดขึ้นหลังจากมีผู้อยู่อาศัย 23 คนในอาคารสงเคราะห์ 4 แห่งที่ Flemington และ 5 แห่งที่ North Melbourne ของพื้นที่นครเมลเบิร์นตอนในเกิดติดเชื้อ COVID-19 และเชื่อว่ายังมีอีกจำนวนพอสมควรที่ยังไม่ได้แสดงอาการ
ก่อนหน้านี้รัฐบาลรัฐวิกตอเรียได้ใช้กฎ “อยู่บ้าน” หรือ “stay-at-home” กับพื้นที่ฮอตสปอต 12 ย่านโดยอนุญาตให้ออกจากบ้านได้เพียง 4 เหตุผลคือไปทำงานหรือไปเรียนหนังสือ, ไปออกกำลังกาย, ไปหาหมอหรือเข้ารับการดูแลทางสุขภาพและออกไปซื้อสิ่งของจำเป็น
แต่สำหรับอาคารสงเคราะห์ทั้ง 9 แห่งจะเป็นการล็อคดาวน์ชนิดเข้มงวด (hard lockdown) ผู้อยู่อาศัยจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกตัวอาคารไม่ว่ากรณีใด ๆ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างน้อย 500 นายเข้าดูแลความสงบเรียบร้อย
สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกล่าสุด
ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมทั่วโลก 50 ประเทศแรก ณ เวลา 23.00 น. ของวันที่ 5 กรกฎาคม 2020 จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้ว 11,317,637 คน แยกเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา 2,8414,124 คน, บราซิล 1,577,004 คน, รัสเซีย 680,283 คน, อินเดีย 673,165 คน, เปรู 299,080 คน, ชิลี 291,847 คน, สหราชอาณาจักร 286,415 คน, เม็กซิโก 252,165 คน, สเปน 250,545 คน, อิตาลี 241,419 คน, อิหร่าน 240,438 คน, ปากีสถาน 228,474 คน, ซาอุดิอาระเบีย 209,509 คน, ตุรกี 204,610 คน, ฝรั่งเศส 204,222 คน, เยอรมนี 197,399 คน, แอฟริกาใต้ 187,977 คน, บังคลาเทศ 162,417 คน, โคลัมเบีย 109,793 คน, แคนาดา 107,185 คน, กาตาร์ 99,799 คน, จีน 84,858 คน, อาร์เจนตินา 75,376 คน, อียิปต์ 74,035 คน, สวีเดน 71,419 คน, อินโดนีเซีย 63,749 คน, เบลารูส 63,554 คน, เบลเยี่ยม 61,838 คน, เอกวาดอร์ 61,535 คน, อิรัก 60,479 คน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 51,540 คน, เนเธอร์แลนด์ 50,548 คน, คูเวต 49,941 คน, ยูเครน 49,468 คน, คาซัคสถาน 47,171 คน, โอมาน 46,178 คน, สิงคโปร์ 44,800 คน, ฟิลิปปินส์ 44,254 คน, โปรตุเกส 43,897 คน, โบลิเวีย 38,071 คน, ปานามา 36,983 คน, สาธารณรัฐโดมินิกัน 36,184 คน, โปแลนด์ 35,950 คน, อัฟกานิสถาน 32,951 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 32,268 คน, อิสราเอล 29,366 คน, โรมาเนีย 28,973 คน, บาห์เรน 28,857 คน, อาร์มาเนีย 28,606 คน,และไนจีเรีย 28,167 คน,/ ออสเตรเลีย 8,499 คน,และประเทศไทย 3,190 คน (ไทยอยู่อันดับที่ 97 ของโลก ในสองวันนี้มีผู้ป่วยเพิ่ม 10 คน เป็นผู้ป่วยมาจากต่างประเทศในโรงแรมที่กักกันทั้งสิ้น ทำให้ประเทศไทยไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศมาเป็นเวลา 41 วันติดต่อกัน)
และผู้เสียชีวิตจากข้อมูลของมหาวิทยลัยจอห์นฮอปกินส์มีทั้งสิ้น 531,659 คน แยกผู้เสียชีวิตจากมากไปหาน้อยดังนี้ สหรัฐ 129,718 คน, บราซิล 64,265 คน, สหราชอาณาจักร 44,305 คน, อิตาลี 34,861 คน, เม็กซิโก 30,366 คน, ฝรั่งเศส 29,896 คน, สเปน 28,385 คน, อินเดีย 19,268 คน, อิหร่าน 11,571 คน, เปรู 10,412 คน, รัสเซีย 10,145 คน, เบลเยี่ยม 9,771 คน, เยอรมนี 9,023 คน, แคนาดา 8,732 คน, ชิลี 6,192 คน, เนเธอร์แลนด์ 6,132 คน, สวีเดน 5,420 คน, ตุรกี 5,206 คน, เอกวาดอร์ 4,769 คน, ปากีสถาน 4,712 คน, จีน 4,641 คน, โคลัมเบีย 4,001 คน, อียิปต์ 3,280 คน, อินโดนีเซีย 3,171 คน, แอฟริกาใต้ 3,062 คน, อิรัก 2,473 คน, บังคลาเทศ 2,052 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 1,965 คน, ซาอุดิอาระเบีย 1,916 คน, โรมาเนีย 1,750 คน, ไอร์แลนด์ 1,741 คน, โปรตุเกส 1,614 คน, โปแลนด์ 1,517 คน, อาร์เจนตินา 1,490 คน,และโบลิเวีย 1,378 คน,/ ออสเตรเลีย 104 คน (แยกเป็นน.ซ.ว. 49 คน, วิกตอเรีย 20 คน, แทสเมเนีย 13 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 9 คน, ควีนสแลนด์ 6 คน, เซาท์ออสเตรเลีย 4 คนและ ACT 3 คน) และประเทศไทย 58 คน
มีผู้ป่วยได้รับการรักษาจนหายแล้วข้อมูลจากสารนุกรมเสรีวิกิพีเดียมีทั้งสิ้น 6,111,195 คน เรียงจากมากไปหาน้อย บราซิล 978,615 คน, สหรัฐอเมริกา 874,141 คน, รัสเซีย 450,750 คน, อินเดีย 409,082 คน, ชิลี 257,445 คน, อิหร่าน 201,330 คน, อิตาลี 191,944 คน, เปรู 189,621 คน, เยอรมนี 181,651 คน, ตุรกี 179,492 คน, เม็กซิโก 152,309 คน, สเปน 150,376 คน (ยอดไม่เคลื่อนไหวมาเป็นเดือนแล้ว), ซาอุดิอาระเบีย 145,235 คน, ปากีสถาน 129,830 คน, การ์ต้า 92,284 คน, แอฟริกาใต้ 91,227 คน, จีน 78,516 คน (เหลือผู้ป่วย 403 คน), บังคลาเทศ 72,652 คน, แคนาดา 69,173 คน, เบลารุส 50,871 คน, โคลัมเบีย 44,531 คน, คูเวต 39,276 คน, สิงคโปร์ 39,011 คน, สหรัฐอาหรับอิมิเรทต์ 38,664 คน, อิรัก 29,600 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 29,200 คน, โอมาน 27,917 คน, โปรตุเกส 27,798 คน, อินโดนีเซีย 27,568 คน, อาร์เจนตินา 25,917 คน, ไอร์แลนด์ 23,349 คน (เหลือผู้ป่วย 437),/ ญี่ปุ่น 17,050 คน (เหลือผู้ป่วย 1,495 คน), เกาหลีใต้ 11,832 คน (เหลือผู้ป่วย 976 คน), ออสเตรเลีย 7,399 คน (เหลือผู้ป่วย 946 คน), ประเทศไทย 3,071 คน (เหลือผู้ป่วย 61คน), (หมายเหตุ ที่มีวงเล็บต่อท้ายเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยจนเหลือต่ำกว่า 2,500 คน และสหราชอาณาจักรเป็นประเทศเดียวที่ไม่มีรายงานผู้หายป่วยมาตั้งแต่แรก)
รายงานยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในออสเตรเลีย
ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากตัวเลขล่าสุดโดยกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย ณ 15.00 น. ของวันที่ 5 กรกฎาคม 2020 มีผู้ติดเชื้อสะสม 8,449 คน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในช่วงสองวัน 194 คนนับจากเวลา 15.00 น.ของเมื่อวานนี้สามารถแยกผู้ป่วยเป็น
รัฐน.ซ.ว. 3,419 คน (เพิ่มขึ้น 19 คน), รัฐวิกตอเรีย 2,536 คน (เพิ่มขึ้น 168 คน), รัฐควีนสแลนด์ 1,067 คน, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย 618(เพิ่มขึ้น 7 คน), รัฐเซาท์ออสเตรเลีย 443 คน, รัฐแทสเมเนีย 228 คน, ออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี 108 คน, นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี 30 คน (เพิ่มขึ้น 1 คน)
ยอดผู้เสียชีวิตสะสมที่ 104 คน มีผู้รักษาหาย 7,399 ราย, มีการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศแล้วกว่า 2,713,000 คน โดยพบผู้ติดเชื้อในอัตรา 0.3%
ในจำนวนผู้ติดเชื้อรวมถึงผู้มาจากเรือสำราญ Diamond Princess จำนวน 10 คน แยกเป็นรัฐวิกตอเรีย 4 คน, ควีนสแลนด์ 3 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 2 คน และเซาท์ออสเตรเลีย 1 คน
และผู้ป่วยจากเรือสำราญ Ruby Princess จำนวน 189 คน, เรือสำราญ Ovation of the Seas 66 คน, Voyager of the Seas เรือสำราญ 26 คน, และจากเรือสำราญ Celebrity Solstice 2 คนให้ถือเป็นผู้ป่วยสะสมในรัฐนิวเซาท์เวลส์
ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศนิวซีแลนด์และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ส่วนยอดผู้ติดเชื้อในนิวซีแลนด์ในวันนี้อยู่ที่ 1,533 คน มีผู้เสียชีวิต 22 คน และรักษาหายแล้ว 1,490 คน
ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สะสมเรียงจากมากไปหาน้อยดังนี้ อินโดนีเซีย 63,749 คน, สิงคโปร์ 44,800 คน, ฟิลิปปินส์ 44,254 คน, มาเลเซีย 8,662 คน, ไทย 3,190 คน, เวียดนาม 355 คน, พม่า 313 คน, บรูไน 141 คน, กัมพูชา 141 คน, ติมอร์-เลสเต 24 คน,และลาว 19 คน (ลาวมีผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์มา 81 วันติดต่อกัน ปลอดผู้ติดเชื้อ 100% มาตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน)
ยอดผู้เสียชีวิตในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วยอินโดนีเซีย 3,171 คน, ฟิลิปปินส์ 1,297 คน, มาเลเซีย 121 คน, ประเทศไทย 58 คน, สิงคโปร์ 26 คน, พม่า 6 คน, บรูไน 3 คน, เวียดนาม 0 คน, กัมพูชา 0 คน, ลาว 0 คนและติมอร์-เลสเต 0 คน
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply