ศาล ACT ตัดสินรอลงอาญาเจ้าของซ่องชาวไทยความผิดจ้างหญิงสาวต่างด้าวทำงานบริการทางเพศ

าง Jamaree Suksom (จามรี สุขสม) เจ้าของซ่องโสเภณี : ภาพป๊อปอาร์ตเนื่องจากภาพจริงติดลิขสิทธิ์

20 ก.ย. 2019 ข่าวนี้แม้เธอจะกระทำผิดกฎหมายแต่แก่นแท้แล้วเธอคงไม่ใช่คนเลวร้ายเท่าใดนักสำหรับเจ้าของซ่องโสเภณีชาวไทย ผู้ถูกตั้งข้อหาจัดหาหญิงไทยทำงานในซ่องของเธอที่ย่าน Fyshwick ทางใต้ของกรุงแคนเบอร์ร่า นับจากวันนี้ไปเธอจะไม่ต้องกลับเข้าคุกอีกหลังศาลให้ความเมตตา

ตำรวจแคนเบอร์ร่าสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์พรมแดน (ABF)และเจ้าหน้าที่สำนักงานความปลอดภัยในการทำงานแห่งออสเตรเลียนแคพิตอลเทร์ริทอรีหรือ Worksafe ACT ได้บุกเข้าตรวจค้นซ่อง Pink Girls และร้านนวด Chok Dee Massage เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา (2018) พบแรงงานผิดกฎหมายจากประเทศไทย 5 คนและสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัย

นาง Jamaree Suksom (จามรี สุขสม) วัย 58 ปีเจ้าของซ่องทั้งสองแห่งถูกตั้งข้อหาว่าจ้างแรงงานต่างชาติทำงานและใช้เอกสารปลอมเพื่อให้บุคคลต่างด้าวเข้ามาในประเทศ

เธอได้ยอมรับสารภาพผิดและศาลแขวงออสเตรเลียนแคพิตอลเทร์ริทอรีได้ติดสินลงโทษเมื่อวานนี้ (พฤหัสฯที่ 19 กันยายน 2019)

ก่อนรายงานคำตัดสินโทษจิงโจ้นิวส์ขออนุญาตย้อนกลับไปในวันพิจารณาก่อนตัดสินโทษ (pre-sentence) วันที่ 11 กรกฎาคม 2019 ศาลพบว่านางจามรีเป็นบุคคลที่มีความเสี่ยงต่อการจะกลับมากระทำผิดอีกในระดับต่ำ

นาย James Maher เนติบัณฑิตผู้กล่าวว่าต่างในชั้นศาลแทนจำเลยอ้างว่านางจามรีได้แสดงความเสียใจและรับรู้ถึงผลกระทบจากการกระทำของเธอต่อบุคคลอื่นและต่อองค์กรของรัฐ

เขากล่าวว่านางจามรีเกิดในประเทศไทยเป็นหนึ่งในบุตร 10 คนของครอบครัวยากจน เธอต้องออกจากโรงเรียนหลังจบชั้นประถมปีที่ 7 (สมัยนั้นระบบการเรียนประถมศึกษาของไทยมีตั้งแต่ป.1 ถึง ป.7) เพื่อออกมาทำงานช่วยเหลือพ่อแม่

เธอเดินทางมาประเทศออสเตรเลียเพื่อแสวงหาโอกาสที่ดีกว่า ด้วยการทำงานที่ร้านอาหารไทย ก่อนที่จะทำงานด้านบริการทางเพศในนครบริสเบน

เธอย้ายมาทำงานที่กรุงแคนเบอร์รา จนกระทั่งปี 2014 จึงได้เป็นเจ้าของใบอนุญาตประกอบกิจการซ่องโสเภณี

นับจากถูกจับกุมและได้รับการประกันตัวออกมา เธอกลายเป็นคนว่างงาน และไม่ประสงค์ที่จะกลับไปทำธุรกิจซ่องโสเภณีอีกต่อไป

นาย Maher อ้างว่าไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่นางจามรีจะเอาเปรียบพนักงานของเธอ, ไม่มีการจ่ายค่าแรงต่ำกว่าที่พนักงานควรได้รับ และไม่มีการหาผลประโยชน์จากแรงงานอย่างไม่ชอบธรรม

หลังจากนางจามรีถูกจับกุมในวันที่ 24 กรกฎาคมปี 2018 เธอถูกกักขังในเรือนจำเป็นเวลา 29 วันก่อนได้รับการประกันตัวออกมา หลังจากคำคัดค้านของอัยการฝ่ายโจทก์ที่ว่า จำเลยเอาเปรียบทางการเงินจากแรงงานไทย 1 ใน 5 คนที่เป็นเหตุให้ศาลปฏิเสธการให้ประกันตัวในขั้นต้น มีหลักฐานไม่เพียงพอ

ภาพประกอบข่าวการตัดสินโทษนางจามรี สุขสม (Jamaree Suksom) โดยสื่อต่าง ๆ : ภาพจาก google image

กลับเข้ามาสู่วันตัดสินโทษเมื่อวานนี้ที่ 19 กันยายนผู้พิพากษาหญิง Bernadette Boss พบว่าความผิดของคดีนี้มีระดับความร้ายแรงตั้งแต่ต่ำไปสู่ระดับสูง

ศาลพบว่า การก่ออาชญากรรมได้ถูกกระทำเพื่อประโยชน์ทางการเงิน และธรรมชาติของการกระทำผิดได้ปล่อยให้มีการบิดเบือนต่อระบบการพิทักษ์พรมแดนของประเทศและสภาพความเป็นอยู่ของบุคคลที่เข้ามาอยู่อาศัยในออสเตรเลีย

ในขณะที่จำเลยถูกพบว่า “มีส่วนในการวางแผนที่ซับซ้อน” แต่แรงงานผิดกฎหมายที่เธอว่างจ้าง “ดูจะไม่มีเรื่องของสภาพการไร้มนุษยธรรมเกิดขึ้น”

ผู้พิพากษา Boss (ผู้พิพากษาคนนี้จบปริญาเอกทางด้านกฎหมาย) ได้ตัดสินลงโทษจำคุกนางจามรีในสถานเบาด้วยโทษจำคุก 8 เดือน โดยให้นับรวมโทษที่จำเลยถูกจำคุกไปก่อนหน้านี้ แต่ให้พักโทษเต็มจำนวน โดยให้รอลงอาญาเป็นเวลา 1 ปี พร้อมจ่ายเงินวางประกัน 500 เหรียญ

หมายเหตุ ข่าวนี้ต่อจากข่าว “ตำรวจจับกุมแม่เล้าชาวไทย จ้างต่างชาติอยู่ไม่ถูกต้องมาเป็นโสเภณี” ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2018

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวคนไทยในออสเตรเลีย, ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , , , , , ,

Leave a Reply

Discover more from jingjonews

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading