18 ม.ค. 2023 จิงโจ้นิวส์ให้ความสนใจกับข่าวนี้ เพราะมีประสบการณ์กับการเป็นตะคริวฉับพลันในขณะขับรถเมื่อ 6 ปีก่อน โชคดีที่สามารถควบคุมรถให้จอดข้างทางและขับต่อไปได้เมื่ออาการปวดทุเลาลง
นับจากนั้นก็ตัดสินใจไม่เพิ่มความเสี่ยงให้กับผู้ขับรถคันอื่นๆ ด้วยการเลิกขับรถในระยะทางไกล จะขับรถเพียงไม่เกิน 5 กม.จากบ้าน แม้ว่าอาการตะคริวขณะขับรถจะไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลยก็ตาม
ผู้เป็นข่าวตามสื่อมวลชนรายนี้คือนาง Catherine Kronfeld จากย่าน Queenscliff เขต Northern Beaches ทางฝั่งเหนือของนครซิดนีย์ เธอเกิดอาการเป็นตะคริวที่ขาซ้ายขณะขับรถในเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา
น.ส. Natasha Kronfeld บุตรสาวเล่าถึงอาการของมารดาว่า เธอเป็นตะคริวอย่างรุนแรงจนไม่สามารถขับรถต่อไปได้ และไม่สามารถเดินได้ เธอถูกนำส่งโรงพยาบาลในย่าน Concord ทันที
อาการตะคริวของนาง Kronfeld หนักกว่าที่คิด นับจากนั้นมาเธอก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย อาการของเธอเริ่มเสื่อมลง ภายในหนึ่งสัปดาห์เธอมีอาการชัก ตะคริวซึ่งเริ่มขึ้นที่ขา ได้เปลี่ยนมาเล่นงานที่แขน และต่อมามันทำให้เธอเป็นอัมพาตบางส่วน
เธอต้องกลายเป็นคนนอนติดเตียง โดยเป็นอัมพาตทางซีกซ้ายของร่างกาย
หลังจากนอนอยู่โรงพยาบาลสองเดือนผลการตรวจ MRI (Magnetic Resonance Imaging เป็นเครื่องมือในการตรวจหาความผิดปกติของร่างกายโดยใช้เครื่องสนามแม่เหล็กและคลื่นความถี่วิทยุ) ออกมาว่าอาการตะคริวของเธอเป็นผลมาจากเนื้องอกสมองชนิด glioblastoma multiforme (GBM) ซึ่งเป็นมะเร็งในสมองชนิดหนึ่ง ที่การผ่าตัดแทบไม่สามารถตัดเนื้อมะเร็งออกได้หมด เพราะการตัดเนื้อสมองออกทำได้เพียงบางตำแหน่งเท่านั้น
แพทย์ผู้ทำการรักษาบอกกับนาง Kronfeld ซึ่งเธออนุญาตให้บุตรสาวฟังด้วยว่า เธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีกประมาณ 6 เดือนเท่านั้น (คือไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ 2023)
(ขออนุญาตเสริม ในออสเตรเลียแพทย์สามารถบอกอาการของคนไข้ได้เฉพาะกับคนไข้เท่านั้น ไม่สามารถบอกกับคนอื่น แม้กระทั่งญาติสนิทของคนไข้)
ก่อนที่จะทราบว่ามารดาของเธอเป็นมะเร็งน.ส. Kronfeld เธอได้ตัดสินใจลาออกจากการทำงานที่ร้านการกุศล Lifeline ในย่าน Manly เพื่อมาดูแลมารดา ซึ่งได้ย้ายมาอยู่ที่สถานดูแลคนชราในย่าน Randwick โดยมี David พี่ชายคนเดียวของเธอเป็นคนทำงานหาเงินมาสนับสนุนทั้งสอง
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply