26 ต.ค. 2020 ผู้โดยสารชาวออสเตรเลียถูกสั่งให้ลงจากเครื่องบินในประเทศการ์ตาแล้วให้ถอดกางเกงในเพื่อตรวจสอบ ไม่เพียงดูด้วยตาแต่ยังใช้มือจับ ถูกมองว่าเป็นการ “ละเมิดกฎหมายขั้นพื้นฐาน” ด้านสิทธิส่วนบุคคล
รัฐบาลกลางออสเตรเลียได้แสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาลของการ์ตา หลังจากสตรี 13 คนถูกบังคับให้ลงจากเครื่องบินที่สนามบิน Hamad International เพื่อทำการตรวจอวัยวะภายในอันเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนคดีอาชญากรรมท้องถิ่น หลังจากพบทารกคลอดก่อนกำหนดเสียชีวิตถูกทิ้งไว้ในห้องน้ำของโรงแรม
ทางการการ์ตาได้สั่งให้สตรีทุกคนที่คอยอยู่บนเครื่องลงมาจากเครื่องบินที่รวมถึงชาวออสเตรเลีย มายังรถพยาบาลที่จอดรออยู่ที่ถนนลาดยางมะตอยภายในสนามบิน
จากนั้นสตรีเหล่านี้ได้ตกเป็นเหยื่อของการเหยียดหยามศักดิ์ครี ที่รวมถึงการตรวจดูช่องคลอดและการใช้มือสัมผัสช่องท้อง
ในขณะทำการตรวจสอบสตรีเหล่านี้ไม่มีใครได้รับบอกกล่าวถึงสาเหตุว่าทำไมจึงถูกตรวจสอบร่างกาย และไม่มีการขอความยินยอมใด ๆ และผู้โดยสารหญิงเหล่านี้ไม่มีโอกาสที่จะหลีกเลี่ยงแต่อย่างใด
หลังจากกลับมาถึงออสเตรเลียสตรีผู้โดยสาร (ส่วนใหญ่เป็นชาวออสเตรเลีย) ได้ถูกกักกันที่โรงแรมตามกฎข้อบังคับ และได้ทำเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการต่อเจ้าหน้าที่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศการ์ตา
เมื่อวานนี้ (25 ตุลาคม) โฆษกของรัฐบาลกลางออกมากล่าวว่า รัฐบาลทราบเรื่องการปฏิบัติต่อสตรีผู้โดยสารที่สนามบินในกรุงโดฮาแล้ว
โฆษกกล่าวว่ารัฐบาลได้แจ้งถึงความกังวลอย่างร้ายแรงกับทางการการ์ตา หากได้รับคำชี้แจ้งจากทางฝ่ายการ์ตาก็จะนำเสนอทันที
เครื่องบินที่เกิดเหตุคือสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบิน QR908 จากกรุงโดฮามายังนครซิดนีย์ โดยเกิดเหตุในวันที่ 2 ตุลาคม
อย่างไรก็ตามตำรวจออสเตรเลียไม่มีอำนาจในการทำการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กรณีนี้ได้กระทำในระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล โดยผ่านกระทรวงการต่างประเทศและการค้า (DFAT)
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply