สรุปสถานการณ์ไวรัส COVID-19 วันที่ 16 เม.ย. / อีกสี่สัปดาห์ผับ-บาร์-คาเฟ่อาจกลับมาเปิดได้

ข่าวออนไลน์นสพ. The Courier Mail วันที่ 17 เม.ย. 2020 เสนอข่าวนายก ScoMo แถลงแบบจำลองผลกระทบปัจจุบันของไวรัส COVID-19 ในออสเตรเลีย พร้อมแผนยกเลิกล็อกดาวน์ในอีกสี่สัปดาห์ข้างหน้า หากประชาชนให้ความร่วมมือกันต่อต้านไวรัสร้ายจนสำเร็จ แล้วผับ, บาร์, ร้านอาหารและคาเฟ่จะสามารถกลับมาเปิดใหม่อย่างไร้ข้อจำกัด

16 เม.ย. 2020 นาย Scott Morrison นายกรัฐมนตรีได้เปิดแถลงสถานการณ์ข้อมูลการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ที่รัฐสภากรุงแคนเบอร์ร่าออกมาดีมากโดยวันนี้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 21 รายไม่มีผู้เสียชีวิต

แต่ย้ำว่ามาตรการคุมเข้มจะยังคงดำเนินต่อไปอย่างน้อยอีก 4 สัปดาห์ โดยจะไม่ยกเลิกจนกว่าออสเตรเลียสามารถเพิ่มพูนการทดสอบ (ถึงวันนี้ได้กว่า 371,000 คน), การตามติดการติดเชื้อและเพิ่มความสามารถในการตอบสนองต่อการระบาดในท้องถิ่น

นาย Morrison ยังยืนยันว่ารัฐบาลยังคงใช้กรอบเวลา 6 เดือนในการทำงานรับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่สอดรับกับมาตรการทางเศรษฐกิจ

รัฐสภาจะมีการประชมุวาระพิเศษอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม แต่ยังไม่ได้ปรึกษากับพรรคฝ่ายค้าน ถึงมาตการในการรับมือกับไวรัส COVID-19 และจะเป็นการประชุมโดยส.ส.และส.ว.ไม่เต็มรัฐสภาเช่นเดียวกับที่ผ่านมา เนื่องจากยังอยู่ภายใต้กฎการทิ้งระยะห่างทางสังคม

หากสถานการณ์รับมือกับไวรัส COVID-19 ได้รับความร่วมมือจากประชาชนด้วยดี และการกระจายเชื้อไวรัสอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จ  นั่นหมายความว่ากิจการร้านค้าที่ถูกปิดตัวชั่วคราวจะสามารถกลับมาเปิดได้ตามปกติอีกครั้งในสี่สัปดาห์ข้างหน้า

ข่าวออนไลน์นสพ. Courier Mail วันที่ 16 เม.ย. 2020 เสนอข่าวนาย Paul Scurrah คนในภาพบิ๊กบอสของสายการบิน Virgin Australian ออกมาขู่ว่าสายการบินอาจเข้าสู่การชำระบัญชีเพื่อปิดกิจการโดยสมัครใจในเร็ววันนี้ ถ้ารัฐบาลกลางไม่เข้ามาช่วยพยุงฐานะของสายการบิน ปัญหาของรัฐบาลก็คือหากรัฐบาลเข้าพยุงฐานะกิจการก็จะมีบริษัทอื่น ๆ ทยอยมาขอความช่วยเหลือเช่นกัน

สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกล่าสุด

ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมทั่วโลก 50 ประเทศแรก ณ เวลา 21.00 น. ของวันที่ 16 เมษายน 2020 จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้ว 2,090,110 คน แยกเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา 640,291 คน, สเปน 182,816 คน, อิตาลี 165,633 คน, เยอรมนี 135,633 คน, ฝรั่งเศส 134,598 คน, สหราชอาณาจักร 104,133 คน, จีน 83,403 คน,  อิหร่าน 77,995 คน, ตุรกี 69,392 คน, เบลเยี่ยม 34,809 คน, เนเธอร์แลนด์ 29,381 คน, บราซิล 29,165 คน, แคนาดา 28,379 คน, รัสเซีย 27,938 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 26,732 คน, โปรตุเกส 18,841 คน, ออสเตรีย 14,453 คน, อินเดีย 12,759 คน, อิสราเอล 12,591 คน, ไอร์แลนด์ 12,547 คน, สวีเดน 12,540 คน, เปรู 11,475 คน, เกาหลีใต้ 10,631 คน, ชิลี 8,807 คน, ญี่ปุ่น 8,626 คน, เอกวาดอร์ 7,858 คน, โปแลนด์ 7,771 คน, โรมาเนีย 7,707 คน, เดนมาร์ก 7,074 คน, ปากีสถาน 6,919  คน, นอรเวย์ 6,789 คน, ออสเตรเลีย 6,462 คน, ซาอุดิอาระเบีย 6,380 คน, สาธารณรัฐเช็ก 6,303 คน, เม็กซิโก 5,847 คน, ฟิลิปปินส์ 5,660 คน,  อินโดนีเซีย 5,516 คน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5,365 คน, มาเลเซีย 5,184 คน, เซอร์เบีย 4,873 คน, เบลารูส 4,208 คน, ยูเครน 4,161 คน, กาตาร์ 4,103 คน, สาธารณรัฐโดมินิกัน 3,775 คน, ปานามา 3,751 คน, สิงคโปร์ 3,699 คน, ลักเซมเบิร์ก 3,373 คน, ฟินแลนด์ 3,369 คน, โคลัมเบีย 2,105 คน,และ ประเทศไทย 2,672 คน

และผู้เสียชีวิตจากข้อมูลของมหาวิทยลัยจอห์นฮอปกินส์มีทั้งสิ้น 139,469 คน แยกผู้เสียชีวิตจากมากไปหาน้อยดังนี้ อิตาลี 21,645 คน, สเปน 19,130 คน, ฝรั่งเศส 17,167 คน, สหราชอาณาจักร 13,729 คน, นิวยอร์กซิตี้-นิวยอร์ก-สหรัฐ 10,899 คน, อิหร่าน 4,869 คน, เบลเยี่ยม 4,857 คน, เยอรมนี 3,856 คน, เนเธอร์แลนด์ 3,315 คน, มณฑลหูเป่ย-จีน 3,222 คน, บราซิล 1,764 คน, ตุรกี 1,518 คน, สวีเดน 1,333 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 1,269 คน,  แนสซอ-นิวยอร์ก-สหรัฐ 1,057 คน, เวน-มิชิแกน-สหรัฐ 884 คน, โซัฟโฟล์ค-นิวยอร์ก-สหรัฐ 653 คน, เวสต์เชสเตอร์-นิวยอร์ก-สหรัฐ 640 คน, คุก-อิรินอย-สหรัฐ 630 คน, โปรตุเกส 629 คน, เบอร์เจน-นิวเจอร์ซีย์-สหรัฐ 608 คน, เอสเซก-นิวเจอร์ซีย์-สหรัฐ 590 คน, อินโดนีเซีย 496 คน, ควิเบก-แคนาดา 487 คน, เม็กซิโก 449 คน, ไอร์แลนด์ 444 คน, อินเดีย 423 คน, ลอสแอนเจลิส-แคลิฟอร์เนีย-สหรัฐ 405 คน, ออสเตรีย 393 คน, โรมาเนีย 392 คน, โอ๊คแลนด์-มิชิแกน-สหรัฐ 392 คน, เอกวาดอร์ 388 คน,    ฟิออนตาริโอ-แคนาดา 385 คน, แฟร์ฟิลด์-รัฐคอนเนตทิคัต-สหรัฐ 365 คน/ ออสเตรเลีย 63 คน (น.ซ.ว. 25 คน, วิกตอเรีย 14 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 6 คน, แทสเมเนีย 6 คน, ควีนสแลนด์ 5 คน, เซาท์ออสเตรเลีย 4 คนและ ACT 3 คน) และประเทศไทย 46 คน  (สรุปผู้เสียชีวิตในสหรัฐทั้งประเทศ 29,216 คน, และจีนทั้งประเทศ 3,342 คน) 

มีผู้ป่วยได้รับการรักษาจนหายแล้วข้อมูลจากสารนุกรมเสรีวิกิพีเดียมีทั้งสิ้น  501,758 คน เรียงจากมากไปหาน้อย จีน 77,816 คน, สเปน 70,853 คน, เยอรมนี 62,027 คน, สหรัฐอเมริกา 49,970 คน, อิตาลี 37,130 คน, อิหร่าน 49,933 คน, ฝรั่งเศส 28,805 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 14,700 คน, บราซิล 14,026 คน, แคนาดา 8,569 คน, ออสเตรีย 7,633 คน, เกาหลีใต้ 7,616 คน, เบลเยี่ยม 7,107 คน, ตุรกี 4,799 คน, ออสเตรเลีย 3,686 คน, ชิลี 2,937 คน, เปรู 2,869 คน, มาเลเซีย 2,647 คน, เดนมาร์ก 2,515 คน,  อิสราเอล 2,309 คน, เม็กซิโก 2,125 คน, รัสเซีย 1,896 คน, ประเทศไทย 1,497 คน, ปากีสถาน 1,446 คน, อินเดีย 1,344 คน, โรมาเนีย 1,217 คน, ไอซ์แลนด์ 1,077 คน,และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 933 คน

ข่าวออนไลน์นสพ. The Mercury วันที่ 16 เม.ย. 2020 เสนอข่าวเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลผู้ติดเชื้อไวรัส ถูกพบว่าได้ทำงานที่โรงพยาบาล North West Regional Hospital และโรงพยาบาล North Private Hospital แล้วยังขยันรับงานพิเศษตามสถานดูแลคนชราอีก 3 แห่ง มีส่วนทำให้พื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐแทสเมเนียเป็นแหล่งกระจ่ายเชื้อไวรัส COVID-19 จนทางการต้องมีคำสั่งล็อกดาวน์พื้นที่ครอบคลุมประชากร 5,000 คน

รายงานยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในออสเตรเลีย

ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากตัวเลขล่าสุดโดยกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย ณ 15.00 น. ของวันที่ 16 เมษายน 2020 มีผู้ติดเชื้อ 6,468 คน  โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 21 คนนับจากเวลา 15.00 น.ของเมื่อวานนี้สามารถแยกผู้ป่วยเป็น (ม.จอห์นฮอปกินส์ระบุออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อ 6,462 คน ส่วนวิกีพีเดียระบุ 6,468 คน)

รัฐน.ซ.ว. 2,897 คน, รัฐวิกตอเรีย 1,301 คน, รัฐควีนสแลนด์ 1,001 คน, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย 535 คน, รัฐเซาท์ออสเตรเลีย 434 คน, รัฐแทสเมเนีย 170 คน, ออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี 103 คน,  นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี 27 คน 

ในจำนวนนี้เสียชีวิต 63 คน มีการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศแล้วกว่า 371,000 คน 

ในจำนวนผู้ติดเชื้อรวมถึงผู้มาจากเรือสำราญ Diamond Princess จำนวน 10 คน แยกเป็นรัฐวิกตอเรีย 4 คน, ควีนสแลนด์ 3 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 2 คน และเซาท์ออสเตรเลีย 1 คน

หนังสือพิมพ์ The Daily Telegraph ฉบับ 16 เม.ย. 2020 ประธานธิบดี Donald Trump ออกมากล่าวตำหนิองค์การอนามัยโลกให้คำแนะนำผิดพลาดจนเป็นสาเหตุทำสหรัฐเกิดการระบาดของไวรัส COVID-19 อย่างหนักมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 600,000 คน พร้อมถือโอกาสตัดเงินอุดหนุนองค์การ จนถูกทั่วโลกออกมาโจมตีนาย Trump กันทั่วหน้านานาชาติ

ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศนิวซีแลนด์และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนยอดผู้ติดเชื้อในนิวซีแลนด์ในวันนี้เพิ่มมาอยู่ที่ 1,401 คน มีผู้เสียชีวิต 5 คน และรักษาหายแล้ว 546 คน

ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สะสมเรียงจากมากไปหาน้อยดังนี้ ฟิลิปปินส์ 5,660 คน, อินโดนีเซีย 5,516 คน, มาเลเซีย 5,182 คน, สิงคโปร์ 3,699 คน, ไทย 2,672 คน, เวียดนาม 268 คน, บรูไน 136 คน, กัมพูชา 122 คน, พม่า 85 คน, ลาว 19 คน,และติมอร์-เลสเต 18 คน

ยอดผู้เสียชีวิตในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วยอินโดนีเซีย 496 คน, ฟิลิปปินส์ 362 คน, มาเลเซีย 84 คน, ประเทศไทยไทย 46 คน, สิงคโปร์ 10 คน, พม่า 4 คน, บรูไน 1 คน, เวียดนาม 0 คน, กัมพูชา 0 คน, ลาว 0 คนและติมอร์-เลสเต 0 คน

และควรจับตาดูประเทศเบลารุส ประธานธิบดี Alexander Lukashenko ของประเทศนี้ได้ประกาศไม่ก้มหัวให้กับไวรัสโคโรนา 2019 สั่งให้ยังคงจัดงานทุกงาน, แนะประชาชนออกไปเชียร์การแข่งขันกีฬา, กินเที่ยวเต็มที่, ใช้ชีวิตปกติและเมินต่อการทิ้งระยะห่างทางสังคม นับจากประกาศในวันที่ 16 มีนาคมตอนนั้นประเทศมีผู้ติดเชื้อ 27 คนถึงวันนี้เบลารุสมียอดผู้ติดเชื้อแล้ว 4,204 คน โดยเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 476 คนและมีผู้เสียชีวิตแล้ว 36 คน

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , ,

Leave a Reply

Discover more from jingjonews

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading