พนักงานไชลด์แคร์ฉ้อฉลเงิน Centrelink ถูกจับได้เลือกลาออกจากงานเพื่อกินเงินโดล์

ข่าวออนไลน์นสพ. The Daily Mail วันที่ 6 ก.ค. 2019 รายงานข่าวหญิงผู้ลี้ภัยถูกจับได้ว่าแอบกินเงินสวัสดิการ ทั้งที่ทำงานมีรายได้ สิ่งที่เธอเลือกทำคือลาออกจากงานและหันมากินเงินสวัสดิการอย่างเดียว

6 ก.ค. 2019 พนักงานศูนย์ดูแลเด็กเล็ก (childcare Centre) ผู้มีรายได้กว่า 80,000 เหรียญต่อปี ไปพร้อมกับแอบรับเงินสวัสดิการมารดาเลี้ยงเดี่ยวอยู่บ้านดูแลบุตร เพื่อเธอจะได้มีเงินใช้จ่ายวันละ 1,000 เหรียญ

จำเลยในคดีนี้คือนาง Ikraam Mohamud วัย 31 จากย่าน Reservoir เขต City of Darebin ทางเหนือของนครเมลเบิร์น หลังจากถูกจับได้ว่าขโมยเงินภาษีของประชาชนไป 88,051 เหรียญ เธอตอบอย่างหน้าตาเฉยว่า เธอจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว

แต่ตำรวจไม่เชื่อในข้ออ้างของเธอ

จากหลักฐานการเคลื่อนไหวบัญชีธนาคารของนาง Mohamud พบว่าเธอได้เบิกเงินในจำนวนต่าง ๆ ในแต่ละวัน แต่ส่วนใหญ่เป็นครั้งละ 1,000 เหรียญ ส่วนเธอเอาเงินไปใช้จ่ายอะไร ยังคงเป็นปริศนาสำหรับตำรวจเจ้าของคดี

เมื่อตำรวจเข้าจับกุมนาง Mohamud เธอถึงกับร้องไห้ตีโพยตีพายว่าเธอทำไปเพราะความจนและกลัวลูก ๆ ของเธอจะไม่มีที่กินที่อยู่

แต่แท้จริงแล้วเธอมีงานทำที่มีรายได้ดีพอสมควรมาตลอด แต่ยังคงรับเงินสวัสดิการจากรัฐบาล แม้ทาง Centrelink เตือนเธอแล้วให้แสดงหลักฐานการมีรายได้ แต่เธอก็เมินเฉยมาตลอด

ในระหว่างเดือนกันยายน 2012 ถึงเดือนมิถุนายน 2017 นาง Mohamud ทำงานที่ศูนย์ดูแลเด็กเล็กหลายแห่ง พร้อมกับรับเงินสวัสดิการเลี้ยงดูบุตรในฐานะมารดาเลี้ยงเดี่ยวที่มีบุตรอายุต่ำกว่า 8 ปี

ภาพประกอบข่าวจาก Google image สตรีในชุดสีดำคือนาง Ikraam Mohamud จำเลยในคดีนี้

นาง Mohamud เป็นผู้ลี้ภัยจากประเทศโซมาเลียได้แต่งงานกับชายคนหนึ่งในประเทศเคนยาในปี 2008 พร้อมตั้งครรภ์อย่างรวดเร็ว หลังจากสามีของเธอทำเรื่องขอวีซ่าได้แล้วจึงเดินทางตามมาอยู่กับเธอที่นครเมลเบิร์นในปี 2010

แต่อยู่ได้ไม่นานทั้งสองก็แยกทางกัน ต่อมานาง Mohamud ได้คลอดบุตรคนที่สองกับสามีคนใหม่ แล้วก็แยกทางเดินกันอีก

เธออ้างถึงสาเหตุของการแยกทางกัน เพราะอดีตสามีของเธอทั้งสองคนใช้ความรุนแรงกับเธอจนเธอทนไม่ไหว จากนั้นความกลัวจะยากจนและไม่มีที่อยู่อาศัยทำให้เธอออกหางานทำนับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา แต่ยังคงรับเงินสวัสดิการจากรัฐบาลเรื่อยมาจนถูกจับได้ในกลางปี 2017

เธอรู้ว่าเธอกระทำผิด แต่การได้รับเงินสวัสดิการ 710 เหรียญในทุกสองสัปดาห์นอกเหนือจากเงินเดือนถือเป็นรายได้ที่เย้ายวน

แต่เมื่อถูกจับได้ สิ่งที่เธอตัดสินใจทำทันทีก็คือเธอลาออกจากงานศูนย์ดูแลเด็ก เพื่อรับเงินสวัสดิการอย่างเดียว โดยจะถูกหักเงิน 15 เหรียญในทุก ๆ สองสัปดาห์เป็นค่าชดใช้คืนเงินที่เธอฉ้อฉลไป (ต้องใช้เวลา 11,740 สัปดาห์หรือ 225 ปีจึงจะชำระหนี้หมด)

นาง Mohamud ได้ยอมรับสารภาพผิดต่อศาลขั้นต้น (County Court ) ของรัฐวิกตอเรียในข้อหารับผลประโยชน์ทางการเงินด้วยการหลอกลวงเครือรัฐออสเตรเลีย ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี

เป็นที่เชื่อว่าเธอมีโอกาสถูกศาลตัดสินจำคุกประมาณ 2 ปีหรือต่ำกว่านั้น เมื่อพ้นโทษออกมาเธอก็จะได้รับเงินสวัสดิการจาก Centrelink ต่อไปเต็มจำนวน (หนี้สินที่เหลือน่าจะยกเลิกกันไป)

ทางด้านเนติบัณฑิตผู้กล่าวว่าต่างในชั้นศาลแทนนาง Mohamud ได้ขอความเห็นใจจากผู้พิพากษา Richard Smith ให้ลงโทษสถานเบาเนื่องจากลูกความของเขาตั้งครรภ์บุตรคนที่สาม (น่าจะกับสามีคนล่าสุด) และรู้สึกละอายต่อสิ่งที่เธอทำลงไป

แต่ทางด้านอัยการโจทก์ขอให้ผู้พิพากษาลงโทษจำเลยสถานหนัก เพราะเธอใช้จ่ายเงินวันละ 1,000 เหรียญ ที่ไม่ใช่เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว

ผู้พิพากษา Smith ได้กำหนดวันตัดสินโทษในสัปดาห์ข้างหน้า

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , , ,

Leave a Reply

Discover more from jingjonews

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading