.
สู่เดือนธันวาคม ๒๕๖๑
หน้าร้อน ของแพง หญ้าขึ้นเร็ว
ภาพที่ปรากฎข้างบนเป็นภาพดอก gardenia หรือดอกพุดที่ส่งกลิ่นหอมเย็นชื่นใจ ต้นนี้ถ่ายจากหลังบ้านในเวลาประมาณ 2 ทุ่มเป็นการรีบถ่ายก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน มีทั้งดอกกำลังตูม บานเต็มที่ และดอกเหี่ยวเฉา จำต้องนำภาพมาลงแบบฉุกเฉิน แม้จะไม่สวยแต่ก็ถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือจากฝีมือของผมเองครับ
เดือนธันวาคมเป็นเดือนแรกของฤดูร้อน สำหรับผมแล้วไม่ชอบฤดูนี้เอามาก ๆ เพราะเป็นคนขี้ร้อน สู้ฤดูหนาวไม่ได้ เพียงแค่สวมใส่ผ้าหนา ๆ ก็อุ่นแล้ว ไม่จำเป็นต้องพึ่งฮีตเตอร์ อีกทั้งที่บ้านไม่มีเครื่องปรับอากาศ เพราะค่าไฟแพง (จนแล้วต้องเจียมตัว) แต่การติดตั้งฉนวนกันความร้อนคุณภาพดี ต่อให้อุณหภูมิภายนอกร้อนเกิน 40 องศาเซลเซียส แต่ภายในบ้านก็ไม่เคยเกิน 28 องศา แค่พัดลมตัวเดียวก็เอาอยู่ แถมลดการปล่อยมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศอีกด้วย
ผมไม่ชอบเดือนธันวาคมเพราะหญ้าและวัชพืชขึ้นเร็วมาก ต้องตัดกันทุกสองสัปดาห์มิฉะนั้นเพื่อนบ้านที่แสนดีทางด้านซ้ายจะมาอาสาตัดให้ เพราะเขารู้ว่าผมมีปัญหาที่ไหล่ขวาใช้งานหนักไม่ได้ และอีกอย่างคนไทยเรามีคำว่า “เกรงใจ” ครับ คำนี้ฝรั่งไม่มีหากตีความหมายเป็นภาษาอังกฤษน่าจะอธิบายได้ว่า to consider about someone’s feeling จะใช้ว่า to be considerate ก็ได้แต่ไม่ตรงประเด็นเต็มร้อย แค่ 60 หรือ 70 เท่านั้น
ส่วนเพื่อนบ้านด้านขวามือก็ไม่ค่อยสนิทแค่ยิ้มและทักทาย Hello กันเท่านั้น เพราะผู้อยู่อาศัยเป็นผู้เช่าแบบแชร์กันอยู่ มีผู้แชร์บางคน (บางตัว) ดูบุหรี่แล้วแอบทิ้งซองบุหรี่เข้ามาในรั่วทำให้ต้องเก็บกัน ผมพยายามคิดว่าอย่างไรก็ดีกว่ามีเพื่อนบ้านทิ้งเข็มฉีดยาเข้ามาในรั่วบ้านเป็นไหน ๆ นี่คือผลพวงของกฎหมายปรับผังเมืองให้ละแวกบ้านของผมที่รัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์แก้ไขให้เป็นพื้นที่ชุมชนอยู่อาศัยหนาแน่นนั่นเอง
หน้าร้อนยังทำให้ของแพง ผลไม้หลายชนิดหมดไปตามฤดูกาล ผมชอบกินส้มแมนดารินมากกว่าส้มออสเตรเลีย เพราะเปลือกล่อนปลอกง่ายภายในหนึ่งหรือสองวินาที ส้มแมนดาริมกิโลกรัมละต่ำกว่า 3 เหรียญได้หมดไปตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน หากหาซื้อตอนนี้ยากเต็มทีแถมราคาเป็นเท่าตัว อ้อ…สตรอเบอรีก็เหมือนกันกล่องเล็ก ๆ ตอนนี้ 3.50 เหรียญ เมื่อช่วงก่อนวิกฤติการณ์ซ่อนเข็มในสตรอเบอรี่ราคาเพียงกล่องละ 1.50 เหรียญเท่านั้น
มะนาว (lime) ก็แพงหูฉี่กิโลกรัมละ 30 กว่าเหรียญ
แต่ดีหน่อยที่ผลเชอรีต้นเดือนธันวาคม ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตข้างบ้านขายกิโลกรัมละ 12 เหรียญ ถือว่าไม่แพง วันนี้เลยหยิบใส่ตะกร้ามา 2 กิโล
อ้อ..ข้าวหอมมะลิจากประเทศไทยก็แพงขึ้นเยอะ ผมซื้อข้าวตราสิงโตหรือนางรำ ที่ชื้อสองยี่ห้อนี้เพราะบอกคนขายซึ่งมักเป็นผู้อพยพใหม่ว่า lion หรือ dancing girl เขาจะเข้าใจทันที ไม่ต้องประสบปัญหาการสื่อสาร
ข้าวหอมมะลิขนาด 25 กก.ผมเคยซื้อในราคากระสอบละ 45 ถึง 48 เหรียญ ล่าสุดราคาถีบตัวไปถึงกระสอบละ 58 เหรียญ
ข้าวซันลองของออสเตรเลียซึ่งครั้งหนึ่งเคยใช้คำว่า “jasmine rice” เพราะเขาพัฒนาสายพันธุ์ข้าวจนใกล้เคียงข้าวหอมมะลิของไทย ที่ Woolies ในช่วงเซลขายขนาด 10 กก.ราคา 12 เหรียญหรือเทียบเท่ากับ 30 เหรียญต่อ 25 กก.
จึงไม่แปลกใจที่ร้านอาหารส่วนใหญ่เลือกใช้ข้าวเวียดนามหรือไม่ก็ข้าวซันลอง ทำให้ผมต้องกลับมากินข้าวบ้านเพราะอร่อยกว่ากันเยอะเลย
ที่ทราบราคาดีเพราะ อยู่ออสเตรเลียผมต้องซื้อของรับประทานเอง จึงเริ่มเห็นเงินทุกเหรียญทุกเซนต์มีค่าครับ
สภาพอากาศเดือนธันวาคม 2018
การพยากรณ์อากาศของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาประจำเดือนธันวาคม 2018 อย่างคราว ๆ ด้วยภาพกร๊าฟและสรุปโดยย่อดังนี้ครับ
(เนื่องจากหัวข้อนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยม แต่ยังมีท่านผู้อ่านถามหา จึงขออนุญาตนำเสนอเฉพาะในพื้นที่ของนครซิดนีย์ ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของคนไทยส่วนใหญ่)
อุณหภูมิคาดการณ์ของนครซิดนีย์
อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 24 ถึง 25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุด 16 ถึง 17 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิคาดการณ์สูงสุด 32 องศาเซลเซียส วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม
อุณหภูมิคาดการณ์ต่ำสุด 16 องศาเซลเซียส วันอาทิตย์ที่ 2 และวันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม
คาดว่าฝนตกวันที่ 12 (r) และ 15 (r)* (เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาสำนักงานอุตุนิยมวิทยาหน้าแตกมากับการพยากรณ์ฝนตกมาแล้ว โดยเฉพาะการเกิดฝน 100 ปี แต่ต้องให้อภัยกันเพราะเป็นการพยากรณ์ระยะหนึ่งเดือน ที่เอาแน่นอนกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาไม่ได้)
ชั่วโมงรับแสงแดดเฉลี่ยวันละ 9 หรือ 10 ชั่วโมง
อุณหภูมิน้ำทะเล 21 องศาเซสเซียส
หมายเหตุ *r = rain หรือฝนตกเป็นห่าฝน ส่วน s = shower เป็นฝนตกโปรยหรือฝนไล่ช้าง และ t = thunderstorm หรือพายุฝนฟ้าคะนองครับ
ตารางแสดงอุณหภูมิพยากรณ์เดือนพฤศจิกายน 2018
ตารางแสดงอุณหภูมิที่เกิดขึ้นจริงของเดือนพฤศจิกายน 2018 ถือว่ายังอยู่ในเทรนด์ ยกเว้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com
จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตุถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย, บทความทั่วไป
Leave a Reply