นสพ. Herald Sun และ Daily Telegraph ฉบับ 10 พ.ย. 2018 เป็นสองในหนังสือพิมพ์หลักเกือบทุกฉบับทั่วประเทศเสนอข่าวเหตุการณ์ก่อการร้ายที่ Bourke St. Mall
10 พ.ย. 2018 ได้เกิดเหตุเชื่อว่าเป็นการก่อการร้ายเดี่ยวที่ย่าน Bourke Street Mall ในนครเมลเบิร์น และเป็นครั้งแรกที่ไซเรนส่งสัญญาณเตือนเหตุร้ายได้ดังขึ้น ซึ่งนำมาติดตั้งหลังจากเหตุการณ์ก่อการร้ายเมื่อต้นปีที่ผ่านมาโดยครั้งนั้นนาย James Gargasoulas ขับรถพุ่งชนคนเดินถนน 33 คนได้รับบาดเจ็บในจำนวนนี้ 6 คนเสียชีวิต
เหตุการณ์ล่าสุดชายผู้ก่อเหตุเป็นคนเชื้อสายโซมาเลียวัย 30 ปี ผู้ที่เป็นที่รู้จักดีของตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายสังกัดตำรวจสอบสวนกลาง (AFP) และองค์กรความมั่นคงและงานข่าวกรองแห่งออสเตรเลีย (ASIO) ได้ขับรถกระบะบรรทุกถังแก๊ส (มี s แสดงว่ามากกว่า 1 ถัง) เข้ามาที่ถนน Bourke Street แต่ไม่สามารถผ่านเข้าไปใน the Mall ได้เนื่องจากได้มีการติดตั้งแท่งเหล็กป้องกัน ผู้ก่อเหตุร้ายจึงตัดสินใจพุ่งชนขอบทางที่จุดห่างจากทางเข้า the Mall ประมาณ 100 เมตร เขาจุดไฟติดท้ายรถกระบะจนเกิดระเบิดเสียงดังหนึ่งครั้ง ไฟได้ลุกไหม้ท่วมรถกระบะ โดยเหตุเกิดขึ้นหลังเวลา 16.00 น.ของวันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน
จากนั้นชายผู้ก่อเหตุร้ายได้ใช้มีดไล่แทงประชาชนที่อยู่บริเวณนั้น ตำรวจปราบปรามการก่อการร้ายถูกเรียกมาที่เกิดเหตุ แต่ผู้เข้ามาเผชิญกับเขาทันทีเป็นตำรวจลาดตระเวนตรวจความเรียบร้อยบริเวณนั้น 2 นาย นายตำรวจพยามใช้มือเปล่าแย่งมีดจากชายผู้ก่อเหตุ
มีชายคนหนึ่งได้เข้าช่วยตำรวจด้วยการใช้รถเข็นของศูนย์การค้าชนชายผู้ก่อเหตุ และอีกคนหนึ่งฉวยเอาเก้าอี้จากร้านอาหารใกล้ที่เกิดเหตุเข้าช่วยเหลือตำรวจ ชายผู้เข็นรถเข็นได้ล้มลง แต่เขาก็ลุกขึ้นเข็นรถเข็นช่วยตำรวจต่อไป
ถึงขณะนี้ตำรวจยังไม่ทราบว่าพลเมืองดีทั้งสองเป็นใคร
พลเมืองดีใช้รถเข็นชนผู้ก่อเหตุร้ายจนเสียหลักล้มหงายท้อง ก่อนลุกขึ้นมาช่วยตำรวจต่อ : ภาพจากสำนักข่าว SBS ต้นฉบับทวิตเตอร์
จิงโจ้นิวส์ได้ดูคลิปวิดีโอตำรวจสองนายใช้มือเปล่าต่อสู้กับคนร้ายที่พยายามใช้มีดแทง ซึ่งการต่อสู้ใช้เวลาประมาณ 2 ถึง 3 นาที ยอมรับว่ามีความรู้สึกเดียวกับพยานผู้อยู่ในเหตุการณ์หลายคน ซึ่งนาย Markel Villasin พนักงาน KFC ผู้อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุกล่าวว่าเขาเห็นผู้เห็นเหตุการณ์ตะโกนให้ตำรวจยิงผู้ก่อเหตุร้าย
นาย Villasin กล่าวว่า “พวกเขา (ตำรวจสองนาย) พยายามที่จะแย่งมีดจากมือของเขา (ผู้ก่อเหตุ) ผมแน่ใจว่ามันเป็นมีดทำครัว”
“ผมไม่รู้ว่าตำรวจคิดจะทำอะไร ในช่วงเวลา 2 หรือ 3 นาทีพวกเขา (ตำรวจ) พยายามที่จะจับเขา (ผู้ก่อเหตุ) หรือเหวี่ยงเขาลงกับพื้น ในขณะที่คนหลายคนตะโกนออกมาให้ยิง (ผู้ก่อเหตุ) ว่า…..’just f–king shoot him, shoot him’…”
ก่อนที่หนึ่งในสองตำรวจตัดสินใจยิงผู้ก่อเหตุร้ายในขณะที่เขากำลังถือมีดวิ่งเข้าใส่ตำรวจถูกที่หน้าอกจนล้มลง เขาไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล Royal Melbourne Hospital
ถึงตอนนี้จิงโจ้นิวส์คิดเหมือนกับคนหลายคนที่ตั้งคำถามว่า ทำไมตำรวจไม่ยิงที่ขาเพื่อเป็นการหยุดไม่ให้เขาก่อเหตุต่อไป
กรณีนี้มีคำตอบจากนาย Graham Ashton ผู้ว่าการตำรวจรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า ตำรวจถูกฝึกมาให้ทำวิสามัญฆาตกรรมถ้าอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตของตำรวจและสาธารณชน
ผู้ว่าการฯ Ashton กล่าวว่าในเหตุการณ์ครั้งนี้ตำรวจได้พยายามแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมลามือ จึงตัดสินใจยิงไปที่หน้าอก ซึ่งเป็นไปตามที่ได้ฝึกฝนมา ส่วนสาเหตุที่ไม่ยิงที่ขาเพราะในระยะประชันชิดการยิงที่ขาไม่สามารถหยุดผู้ก่อเหตุร้ายได้
ข่าวออนไลน์จากสำนักข่าว SBS จะเห็นตำรวจสองนายต่อสู้กับผู้ก่อเหตุร้ายที่ถือมีดด้วยมือเปล่า ก่อนที่จะตัดสินใจชักปืนออกมา ในภาพที่สามจะเห็นชายคนหนึ่งใช้รถเข็นเข้าช่วยตำรวจ
นาย Ashton กล่าวว่า ในขณะนี้ตำรวจถือคดีนี้ว่าเป็นการก่อการร้ายเดี่ยว แต่ก็ยังไม่ได้ตัดประเด็นอื่น ในขณะเดียวกันกองกำลังก่อการร้ายรัฐอิสลามหรือ IS หรือ ISIS ได้ออกกล่าวแสดงความรับผิดชอบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการก่อการร้ายภายใต้การบงการจากพวกเขา
นาย Scott Morrison นายกรัฐมนตรีและนาย Bill Shorten ผู้นำพรรคฝ่ายค้านได้ออกแถลงข่าวโจมตีการก่อเหตุร้ายครั้งนี้
เหตุการณ์ครั้งนี้จบลงที่มีผู้เสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บสองคน
ภาพคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์จากหนังสือพิมพ์ The Sun
หมายเหตุ ท่านสามารถอ่านข่าวเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ก่อการร้ายที่ Bourke Street Mall ปี 2018 ได้ด้วยการกดคลิก “ก่อการร้าย Bourke St Mall ปี 2018 ” ที่ Tags ท้ายข่าวนี้
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com
จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply