สตรีขอร้องแก๊งผิวสีบุกปล้นบ้านอย่าเอา IPad สิ่งเดี่ยวที่เธอใช้ติดต่อสามีป่วยไป

บ้านที่ถนน Caledonian Cres. ย่าน Hillside ของ Samantha และ Paul แม้จะติดตั้งหน้าต่างประตูกันขโมยแล้ว ยังที่ถูกแก๊งวัยรุ่นบุกปล้นในเวลา 23.30 น. : ภาพจากนสพ. The Age

6 ม.ค. 2017 สตรีวัย 59 ปีถูกแก๊งคนร้ายวัยรุ่นชาวแอฟริกันกว่า 10 คนบุกเข้าปล้นบ้านและทำร้ายเธอ แต่ทรัพย์สินชิ้นหนึ่งที่เธอขอคนร้ายไม่ให้เอาไปคือ iPad ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่เธอใช้ติดต่อกับสามีซึ่งนอนป่วยอยู่ในห้องไอซียู

คดีนี้ถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของแก๊งสีผิวในนครเมลเบิร์นที่กลายเป็นประเด็นร้อนระดับประเทศไปแล้วนับตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม เริ่มจากตำรวจรัฐวิกตอเรียออกมาย้ำว่าแก๊งผิวสีเป็นปัญหาเรื้อรังที่ยังแก้ปัญหาไม่ตก ในขณะที่รัฐบาลรัฐวิกตอเรียออกมากล่าวว่า ไม่มีแก๊งวัยรุ่นสีผิวสร้างปัญหาใด ๆ ในเมลเบิร์น จนปัญหาดังกล่าวได้ลุกลามไปถึงระดับประเทศเมื่อรัฐบาลกลางพรรคลิเบอรัล-เนชั้นแนลออกมาระบุว่าแก๊งวัยรุ่นสีผิวมีปัญหา แต่พรรคเลเบอร์กับพรรคกรีนออกมาโต้กลับว่า เป็นปัญหาทางสังคมจิ๊บจ๊อยทั่วไป

นสพ. Herald Sun ฉบับ 1 ม.ค. 2018 เสนอข่าววิกฤตการณ์แก๊งชาวแอฟริกาในช่วงที่นายกฯและรองนายกฯรัฐวิกตอเรียไปพักผ่อนท่องเที่ยวอย่างสบายอารมณ์ นาง Lisa Neville ร.มต.ทบวงตำรวจออกมาพูดว่าที่ผู้นำของเธอพูดว่าแก๊งผิวสีไม่มีปัญหานั้น พวกเขาคิดผิดถนัด

เหตุการณ์บุกปล้นครั้งนี้เกิดขึ้นในเวลาก่อน 23.30 เล็กน้อยของวันพฤหัสฯที่ 4 ธันวาคมเมื่อนาง TG (นามสมมุติ) นำสุนัขออกมาอยู่นอกบ้าน ด้วยการเปิดประตูกระจกเลื่อนด้านหลังบ้าน เธอได้เห็นแก๊งคนร้ายเป็นวัยรุ่นชาวแอฟริกาประมาณ 8 ถึง 12 คนปีนรั่วหลังบ้านเข้ามา

นาง TG ได้รีบปิดประตูเลื่อน ในขณะที่พวกเขาบุกเข้ามาทุบประตูกระจกหลังบ้าน นาง TG ได้วิ่งหนีแก๊งวัยรุ่นเกือบจะถึงประตูหน้าอยู่แล้วเธอได้เหยียบสุนัขจนเสียหลักล้มลง เป็นช่วงที่สมาชิกแก๊งวัยรุ่นคนหนึ่งได้เข้าจับตัวเธอไว้ เขาใช้มือตบหน้าเธอ แล้วเปิดประตูหน้าบ้าน เพื่อเปิดรับวัยรุ่นผิวสีอีกคนหนึ่งซึ่งรออยู่ที่ประตูหน้า

บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของสามีภรรยา Samantha และ Paul ญาติของนาง TG ซึ่งเธอทำหน้าที่ดูแลบ้านในระหว่างที่สองสามีภรรยาและบุตรสองคนเดินทางไปท่องเที่ยววันหยุด

เธอถูกจับบังคับให้นั่งอยู่ที่หน้าห้องนอนหลัก ในขณะที่สมาชิกแก๊งรื้อค้นทั่วบ้านเพื่อหาของมีค่า พวกเขาได้เลือกเอา Xbox, ร้องเท้า และเงินคริสต์มาสของเด็ก และขโมยรถยนต์ของครอบครัวขับหนีไป แต่ก่อนที่จะจากไปพวกเขาได้ปฏิบัติตามธรรมเนียมคือทำลายข้าวของในบ้านด้วยการพังผนังบ้าน, เฟอร์นิเจอร์ ทุบโทรทัศน์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์

ภายในอาคารของชุมชนเป็นหนึ่งในสถานที่หลายแห่งที่แก๊งผิวสีบุกเข้าทำลาย เพื่อเป็นเทรดมาร์กทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า : ภาพจากนสพ. The Daily Mail

อ้อ..สิ่งที่พวกเขาเอาไปด้วยคือเครื่อง iPad ของนาง TG แม้จะเธอขอร้องว่า มันเป็นสิ่งเดียวที่เธอใช้ติดต่อกับสามีของเธอซึ่งป่วยหนักจากอาการหัวใจวายเมื่อวันส่งท้ายปีเก่า 31 ธันวาคมขณะนี้ยังอยู่ไอซียู แต่พวกเขาไม่ฟังเสียง แถมยังบีบคอเธอบังคับให้บอกรหัสผ่านอีกด้วย

กลุ่มวัยรุ่นได้หลบหนีไป โดยปล่อยให้เธอนำพาตัวเองอย่างยากลำบาก ไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน ก่อนที่จะโทรแจ้งตำรวจและแจ้งให้ Samantha และ Paul รับทราบ

นสพ. Herald Sun ฉบับ 2 มกราคม 2018 ส.ส.ร่วมพรรคเลเบอร์เตือนผู้นำพรรคของตนเองหากหลับหูลับตาออกมายืนยันว่าแก๊งวัยรุ่นสีผิวไม่เคยก่อปัญหา รัฐบาลพรรคเลเบอร์อาจจะถูกประชาชนลงโทษในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในหลายเหตุการณ์บุกเข้าปล้นบ้านในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าตอนรับปีใหม่ทางตะวันตกของนครเมลเบิร์น ซึ่งนาย Russell Barrett ผู้บังคับการตำรวจพื้นที่เมลเบิร์นตะวันตกเฉียงเหนือกล่าวขณะแถลงข่าวร่วมกับเหยื่อว่า เหยื่อทั้งหมดยืนยันว่าคนร้ายเป็นวัยรุ่นเชื้อสายแอฟริกา

เหยื่อคนหนึ่งเป็นชายวัย 18 ปีอ้างว่า ขณะที่เขากลับถึงบ้านในเวลา 24.45 น.เขาได้พบวัยรุ่นผิวดำสามคนกำลังใช้ไม้เบสบอลทุบประตูกระจกหน้าบ้าน ในขณะที่เขาขับรถผ่านไดฟ์เวย์ทางเข้าบ้าน ทั้งสามได้ตัดสินใจวิ่งหนีไป เมื่อเขาเปิดไฟแรงสูง   ซึ่งคนร้ายคงคิดว่าเขาเป็นตำรวจหรืออะไรบางอย่างจึงตัดสินใจหนี แต่ถ้าพวกเขาตัดสินใจถือไม้เบสบอลกรูกันเข้าเล่นงานเขาก็คงแย่เหมือนกัน

เหย่ือผู้ถูกบุกรุกบ้านในช่วงเทศกาลอีกคนหนึ่งผู้ขอสงวนนามกล่าวว่า คนร้ายคนหนึ่งได้เข้ามาในบ้านโดยผ่านประตูที่จอดรถได้ขโมยโทรศัพท์มือถือที่ห้องนั่งเล่นแล้ววิ่งหนีไป เขากล่าวว่าจากนั้นมีวัยรุ่นผิวสีอีกสามคนพยายามที่จะพังประตูหน้าบ้านเข้ามา พวกเขาตะโกนว่า “ออกมานะ ไม่งั่นกูจะฆ่าพวกมืง”

ตอนนั้นภรรยาและลูกชายวัยรุ่นสองคนของเขาเข้านอนแล้วจึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อพวกเขาเข้ามาได้ ด้วยความกลัวชายเจ้าของบ้านได้ฉวยไม้ตีคริกเก็ตของบุตรชายกระหน่ำตีผู้บุกรุกอย่างไม่ยั้ง

บุตรชายคนหนึ่งกล่าวว่า เขาและน้องชายได้ตื่นขึ้นมา แต่พวกคนร้ายเห็นท่าไม่ดีได้ตัดสินใจหลบหนีออกมาขึ้นรถ แล้วขับหนีไป เขาพยายามวิ่งตามเพื่อจดทะเบียนรถ แต่รถแล่นเร็วเกินกว่าที่เขาจะทันเห็นหมายเลขทะเบียน

เจ้าของบ้านรายนี้กล่าวว่า เขาได้ติดต่อช่างไฟฟ้าให้มาติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยในสุดสัปดาห์นี้ เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตแม้แต่อยู่ภายในบ้านของตนเอง

ผู้อยู่อาศัยที่ถนน Coleridge Dr. ต่างออกมาพูดว่าพวกเขาอยู่ด้วยความหวาดกลัวแก๊งผิวสีครองเมือง : ภาพจากนสพ. The Age

เจ้าของบ้านที่ถนน Coleridge Dr. ย่าน Delahey ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าบ้านทุกหลังของถนนนี้อาศัยอยู่ด้วยความหวาดกลัว หลังต้องตกเป็นเหยื่อของแก๊งวัยรุ่นจากแอฟริกา

นาย Samuel Momo หนึ่งในผู้อยู่อาศัยที่ถนน Coleridge Dr. กล่าวว่าคนในครอบครัวของเขาจะไม่จอดรถไว้ริมถนนอีกต่อไป หลังจากรถของบิดาของเขาถูกทุบกระจกมานับครั้งไม่ถ้วนในปีที่ผ่านมา

นาย Momo กล่าวว่า เขาแทบช็อกเมื่อทราบว่าเหยื่อถูกบุกปล้นล่าสุดเป็นเพื่อนบ้านร่วมถนนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขา

ในเวลา 23.45 น. ของวันคืนวันศุกร์ที่ 5 มกราคมแก๊งวัยรุ่นชาวแอฟริกาได้บุกเข้าปล้นบ้านหลังหนึ่งที่ Coleridge Dr. ย่าน Delahey เพื่อนบ้านของนาย Momo

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com

จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน   โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , , , , , , ,

Leave a Reply

Discover more from jingjonews

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading