27 ม.ค. 2017 การประท้วงวันชาติออสเตรเลียซึ่งจัดขึ้นพร้อมกันตามนครหลวงต่าง ๆ ในวันเดียวกับที่ประชาชนเฉลิมฉลองวันคล้ายวันแรกที่เรือรบหลวงนำผู้ตั้งรกรากกลุ่มแรก (First Fleet) มาถึงออสเตรเลียเมื่อ 229 ปีก่อน การเดินประท้วงโดยสันติได้กลายเป็นการใช้ความรุ่นแรงขึ้นในนครซิดนีย์ เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงเริ่มจุดไฟเผาธงชาติ ในขณะที่ตำรวจเข้าขัดขวาง
กลุ่มผู้ประท้วงได้เคลื่อนที่จากย่าน Redfern เพื่อมุ่งหน้าสู่ใจกลางนครซิดนีย์ ในขณะเคลื่อนที่มาถึงบริเวณใกล้ศูนย์การค้า Broadway กลุ่มผู้ประท้วงคนหนึ่งได้เริ่มจุดไฟเผาธงชาติออสเตรเลีย ทำให้ตำรวจเข้าขัดขว้าง เป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้ประท้วงคนอื่น ๆ กรูเข้าปะทะตำรวจ หญิงสาวผู้เข้าร่วมประท้วงคนหนึ่งเสียหลักล้มลงกับพื้นในช่วงที่ชุลมุนกัน เธอเป็นคนเดียวที่ได้รับบาดเจ็บค่อนข้างร้ายแรงจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยมีตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวนหนึ่ง
ตำรวจได้จับกุมชายวัย 20 ปีใส่กุญแจมือควบคุมตัวไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจ Redfern ต่อมาเขาถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายตำรวจ, ขัดขืนการจับกุม และทำลายทรัพย์สิน (น่าจะเป็นธงชาติ) ด้วยใจประสงค์ร้าย ก่อนให้ประกันตัวออกมาเพื่อสู้คดี
ส่วนสตรีที่ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล Royal Prince Alfred ในย่าน Camperdown ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ โดยแพทย์ให้อยู่ดูอาการหนึ่งคืน
นาง Gladys Berjiklian นายกรัฐมนตรีรัฐน.ซ.ว.คนใหม่ล่าสุด (เพิ่งเข้ารับตำแหน่งวันที่ 23 มกราคม) ได้ออกมากล่าวว่า เธอไม่ประทับใจกับพฤติกรรมต่อต้านสังคมที่เกิดขึ้น และรู้สึกผิดหวังที่ผู้ประท้วงบางคนแสดงออกด้วยการใช้ความรุนแรง ในวันที่สำคัญของชาติ
นาย Malcolm Turnbull นายกรัฐมนตรีได้ออกมาประฌามกลุ่มผู้ใช้ความรุนแรงและผู้ที่เผาธงชาติว่า ธงชาติเป็นสิ่งที่ต้องเชิดชูไม่ใช่ดูหมิ่น และกล่าวว่าชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่ยอมรับว่าวันที่ 26 มกราคมของทุก ๆ ปีคือวันชาติออสเตรเลีย
นาย Warren Mundine ผู้นำคนสำคัญของชุมชนชาวอะบอริจินและผู้ต้องการให้เปลี่ยนวันชาติออสเตรเลียไปเป็นวันอื่นได้ออกมาตำหนิว่า เจตนารมณ์ของผู้ประท้วงส่วนใหญ่ได้ถูกปล้น (hijack) โดยกลุ่มคนไม่กี่คน พวกนี้ต้องการเผาธงชาติและยั่วยุ (ให้ใช้ความรุนแรง)
เช่นเดียวกับนาง Laura Lyons ผู้ประสานการเดินประท้วงได้ตำหนิกลุ่มซ้ายจัดว่า คนกลุ่มนี้เคยมารบเร้ากับเธอถึงการเผาธงชาติและใช้ความรุนแรง ซึ่งเธอได้ปฏิเสธ เธอกล่าวว่า “การใช้ความรุนแรงไม่ใช่วัฒนธรรมของเราและพวกเราไม่ต้องการให้เด็ก ๆ ของพวกเราประทับใจในทางที่ไม่ถูกต้อง”
กลุ่มผู้อาวุโสของชนเผ่าอะบอริจินซึ่งมีส่วนในการจัดเดินขบวนครั้งนี้ ได้ออกมาตำหนิกลุ่มซ้ายจัดว่า พวกเขาคือพวกที่ทำลายการประท้วงอย่างสันติ และทำให้การแสดงออกตามวิถีประชาธิปไตยต้องถูกทำลายและดูไม่ดีในสายตาของคนทั่วไป
ทางด้านฝ่ายจัดการประท้วงโดยใช้สโลแกนสำหรับวันชาติที่ 26 มกราคมว่า “วันถูกบุกรุก” หรือ “Invasion Day ” ได้ระบุว่า ผู้ทำลายการเจตนาประท้วงอย่างสันติวิธีเป็นกลุ่มซ้ายจัดในนาม Fighting In Resistance Equally ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรระหว่างพรรคกรีนส์รัฐน.ซ.ว., สมาคม Sydney University Postgraduate Representative Association, สหภาพแรงงาน Maritime Union of Australian สาขาซิดนีย์ และสหภาพแรงงาน National Tertiary Education Union NSW
ทางด้านนาย David Shoebridge ส.ว.รัฐสภารัฐน.ซ.ว.ของพรรคกรีนส์ได้ออกมาปฏิเสธที่จะขออภัยใด ๆ แต่ได้กล่าวโทษตำรวจว่าเป็นเริ่มและทำลายการเดินขบวนโดยสันติครั้งนี้
ทางด้านส.ว. Pauline Hanson หัวหน้าพรรควันเนชั่นผู้มีอดีตเป็นแม่ค้าขายปลาและมันฝรั่งทอดออกมากล่าวว่า ผู้ก่อเหตุไม่ใช่กลุ่มชนชาวพื้นเมือง แต่เป็นคนมีการศึกษาที่ไม่ยอมรับวิถีทางของปัญชาชน
วันที่ 28 มกราคม 2017 รายงานที่ออกมาในวันนี้ถึง ผู้เป็นต้นเหตุทำให้การประท้วงโดยสันติกลายเป็นการใช้ความรุนแรงคือนาย Hayden William วัย 20 ปีเป็นสมาชิกของพรรคกรีนส์ ปัจจุบันศึกษาในสาขาวิชาสังคมศาสตร์และสื่อสารการแสดงศึกษาของมหาวิทยาลัยนิวคลาสเซิล
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com
จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply