
ปรากฎการณ์เอลนิโญครั้งล่าสุดของโลกในปี 2009-10 ซึ่งแสดงลักษณะอากาศอุ่นบนผิวมหาสมุทรอย่างผิดปกติในตอนกลางและตะวันออกของแปซิฟิก สีดำบนขวาคือสหรัฐและสีดำมุมล่างซ้ายคือออสเตรเลีย ภาพถ่ายโดยองค์การ NASA
7 พ.ค. 2015 นักวิทยาศาสตร์ทางด้านสภาวอากาศได้เตือนว่าโลกของเรากำลังเข้าสู่ภาวะแห้งแล้งครั้งใหญ่จากปรากฎการณ์เอลนิโญครั้งใหม่ ที่จะทำให้โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น นำไปสู่เหตุการณ์ไฟไหม้ป่าและการขาดแคลนน้ำทางภาคตะวันออกของออสเตรเลียอีกรอบหนึ่ง
เป็นที่คาดว่าสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งออสเตรเลียจะประกาศถึงเหตุการณ์เอลนิโญในวันอังคารที่ 12 พฤษภาคมที่จะถึงนี้
จากรายงานของสำนักงานพยากรณ์อากาศพบว่าพื้นผิวน้ำทางตอนกลางและตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกได้มีอุณหถูมิสูงขึ้นอย่างไม่ปกติอีก 1 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ไม่เคยปรากฎให้เห็นนับตั้งแต่ปี 1991
โดยออสเตรเลียได้จัดระบบเกณฑ์กำหนดเอลนิโญไว้ที่หากความอุ่นของผิวสมุทรเกินกว่า 0.8 องศาของค่าอุณหภูมิเฉลี่ย จะบ่งชี้ว่าเอลนิโญจะเกิดขึ้น
ดร. Agus Santoso ผู้เชี่ยวชาญด้านแบบจำลองเอลนิโญของศูนญ์วิจัยสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงแห่งมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ชี้ให้เห็นถึงแผนที่อากาศ พบว่ามันคล้ายกับปรากฎการณ์เอลนิโญที่เกิดขึ้นหลาย ๆ ครั้งในอดีต
เขากล่าวว่าในปีที่เกิดเอลนิโญครั้งใหญ่ ลมสินค้าตะวันออกจะหยุดนิ่งหรือแม้กระทั่งพัดย้อนกลับในช่วงฤดูหนาวหรือหลังจากนั้น โดยจะนำเอาเมฆฝนออกจากพื้นทวีปออสเตรเลียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปตกกลางมหาสมุทร ผลของมันจะทำให้มีความแห้งแล้งเกิดขึ้น
ดร. Santoso กล่าวว่า จากการศึกษาถึงปรากฎการเอลนิโญ 12 ครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นบนโลกย้อนหลังไปถึงปี 1905 พบว่าปริมาณฝนตกได้ลดลงในช่วงฤดูหนาวและใบไม้ผลิ (ของออสเตรเลีย คือเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน) พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักก็คือรัฐน.ซ.ว.และทางใต้ของรัฐควีนสแลนด์ ในขณะที่ส่วนอื่น ๆ ทางภาคตะวันออกของประเทศก็มีปริมาณฝนตกน้อยลงเช่นกัน

ภาพเดไซล์ของฝนตกเฉลี่ยในฤดูหนาวและใบไม้ผลิของการเกิดเอลนิโญ 12 ครั้งใหญ่ในออสเตรเลียในช่วง 110 ปีที่ผ่านมา
jingjonews@hotmail.com
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply