
นักศึกษาและประชาชนยึดพื้นที่ถนน Paulista Ave. ในกรุงเซาเปาโล เพื่อประท้วงรัฐบาลออสเตรเลียจากการเสียชีวิตของนาย Roberto Curti เพราะเหตุขโมยขนมปังกรอบ 1 ซอง
17 ธ.ค. 2014 คดีการเสียชีวิตของนาย Roberto Laudisio Curti วัย 21 ปีนักเรียนภาษาอังกฤษชาวบราซิล ในระหว่างตำรวจพยายามเข้าจับกุม จนเป็นเหตุให้เกิดการชุมนุมประท้วงกันทั้งในซิดนีย์และที่สถานทูตออสเตรเลียในบราซิล ในวันนี้ศาลพบว่าตำรวจสามในสี่นายที่ถูกดำเนินคดีไม่มึความผิดต่อข้อกล่าวหา มีนายตำรวจเพียงคนเดียวที่พบมีความผิดทำเกินกว่าเหตุ (ข่าวนี้เคยเป็นข่าวใหญ่ในขณะเกิดเหตุ รวมถึงนสพ.ไทย-ออสนิวส์เสนอข่าวนี้มาอย่างต่อเนื่อง)
หลังจากคดีนี้ถูกนำขึ้นพิจารณาที่ศาลท้องถิ่นกลาง Downing ติดต่อกันเป็นเวลาหนึ่งเดือน เมื่อวานนี้ที่ 16 ธันวาคม ผู้พิพากษาหญิง Clare Farnan พบว่านายตำรวจลาดตระเวนอาวุโส Eric Lim ไม่มีความผิดในข้อหาทำร้ายร่างกายทั่วไป, นายตำรวจลาดตระเวนอาวุโส Scott Edmondson และนายตำรวจลาดตระเวน David Barling ไม่มีความผิดในข้อหาทำร้ายร่างกายจนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บและทำร้ายร่างกายทั่วไป
อย่างไรก็ตามศาลพบว่านายตำรวจลาดตระเวนอาวุโส Damein Ralph มีความผิดฐานทำร้ายร่างกายทั่วไป เนื่องจากเขาเป็นผู้ใช้สเปรย์พริกหยวกจำนวน 2 กระป้องเต็มฉีดใส่นาย Curti แต่ศาลได้ปรานีงดโทษจำและงดบันทึกประวัติอาชญากรรม โดยให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี
ผู้พิพากษาหญิง Farnan เห็นประจักษ์ตามหลักฐานว่านาย Ralph รู้สึกเสียใจที่นาย Curti ต้องเสียชีวิตในระหว่างที่เขาทำการจับกุม และผลจากเหตุการณ์นี้ทำให้เขามีปัญหาความเคลียดอย่างเรื้อรัง
เหตุการณ์ของคดีนี้เกิดขึ้นในวันที่ 18 มีนาคม 2012 นาย Curti ผู้ซึ่งอยู่ภายใต้อิทธิพลของยาเสพติด LSD มาจากงานปาร์ตี้แห่งหนึ่ง ได้เข้ามาในตัวเมืองซิดนีย์ในสภาพไม่สวมเสื้อ ในเวลา 5.25 น.เขาได้เข้าไปที่ร้านสะดวกซื้อ City Convenience Store ณ เลขที่ 75 ถนน King St. ช่วงระหว่างถนน George St. กับถนน Pitt St. อาการจิตหลอนจากฤทธิยาทำให้เขาพูดไม่หยุดถึงโลกจะสิ้นสุด และขอความช่วยเหลือเนื่องจากมีคนกำลังจะเอาชีวิตเขา จากนั้นเขาได้ปีนข้ามฉากกระจกกั้นเข้าไปในส่วนพื้นที่ปลอยภัยสำหรับพนักงานเก็บเงิน
พนักงานในร้านซึ่งเป็นชายสองคนได้ไล่เขาออกไปจากร้าน ในขณะที่นาย Curti จะออกจากร้านเขาได้ฉวยเอาขนมปังกรอบไปหนึ่งห่อ ทำให้พนักงานโทรแจ้งตำรวจว่ามีคนบุกรุกและขโมยของ
จากนั้นจึงเกิดเหตุการณ์ตำรวจ 6 นายวิ่งไล่กวดนาย Curti ผู้ซึ่งวิ่งหนีพร้อมปากร้องตระโกน “ช่วยด้วย ๆ” ไปตามถนน Pitt st. และย้อนกลับมาถนน Kung St. ทุกครั้งที่ตำรวจตะครุบตัวได้ นาย Curti ภายใต้อิทธิพลของยา เสพติดทำให้เขามีแรงมหาศาลสะบัดตัวหนีออกมาได้สามสี่ครั้ง แม้จะมีตำรวจผู้ชายตัวใหญ่สามสี่คนช่วยกันสกรัมเขาก็เอาไม่อยู่
ในระหว่างการไล่ล่าตำรวจได้ฉีดสเปรย์พริกหยวกใส่เขาสองกระป๋อง และใช้ปืน Taser ยิงเขาจำนวน 9 ครั้ง (ไม่ได้บอกว่าถูกทุกครั้งหรือไม่) สำหรับคนทั่วไปโดนครั้งเดียวก็จอด แต่กระแสไฟฟ้าแรงสูงไม่สามารถทำให้นาย Curti สะดุ้งสะเทือน
หลังจากวิ่งไปได้ระยะหนึ่งเขาก็หมดแรงล้มลง แล้วหัวใจหยุดเต้นฉับพลัน ตำรวจได้ช่วยทำ CPR ให้นาย Curti จนกระทั่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่มารับช่วงต่อ แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาได้
ผลการตรวจสอบของสำนักนิติวิทยาศาสตร์ และการชันสูตรพลิกศพโดยคณะกรรมการพิจารณาการเสียชีวิตอย่างไม่เป็นไปตามธรรมชาติ (coroner)พบว่านาย Curti ไม่ได้เสียชีวิตจากสาเหตุของปืน Taser
นาย Curti ผู้เสียชีวิต มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยในบราซิล เดินทางมาท่องเที่ยว และต่อมาสมัครเรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนสอนภาษาในย่าน Bondi Junction ในช่วงที่วีซ่าท่องเที่ยวของเขาได้หมดอายุแล้ว และเพิ่งต่อวิซ่านักเรียนในวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา
ขณะอยู่ในซิดนีย์นาย Curti อาศัยอยู่กับพี่สาวซึ่งทำงานกับบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินและกฎหมาย DC Strategy และสามีชาวออสเตรเลียของเธอซึ่งทำงานเป็นผู้บริหารในธนาคารแห่งหนึ่ง

จากบันทึกจากกล้อง CCTV ในขณะที่นาย Curti ปีนข้ามเครื่องกีดกั้นเข้าไปในส่วนพื้นที่ปลอยภัยสำหรับพนักงานเก็บเงิน
.
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply