17 พ.ย. 2014 Credit Suisse ธนกิจการลงทุนรายใหญ่ได้ออกมาให้ความเห็นร่วมกับนักเศรษฐศาสตร์ส่วนหนึ่งว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียควรจะลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานมาอยู่ที่ 2.0% และเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยระดับ 2.50% ในปัจจุบันสูงไป ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์การว่างงานยังสูง ผู้บริโภคยังอ่อนแอ ความเชื่อมั่นทางธุรกิจยังมีไม่เต็มที่
Credit Suisse เห็นว่าธนาคารกลางยังไม่ใช้นโนยบายการเงินเพื่อกระตุ้นให้มีการใช้จ่ายและลงทุนมากขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเกรงว่าหากลดดอกเบี้ยจะทำให้เกิดฟองสบู่เศรษฐกิจในภาคอุตสหกรรมที่อยู่อาศัย แต่ Credit Suisse เชื่อว่าผลของมันจะไม่รุนแรงถึงเพียงนั้น
ในขณะที่ Bank of America Merrill Lynch’s ออกมาให้ความเห็นว่า การรักษาระดับดอกเบี้ยไว้ไม่มีผลดี เพราะอย่างไรเสียราคาบ้านก็จะยังคงสูงขึ้น แต่มันจะเป็นการกดดันภาคอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่เหมืองแร่ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
Credit Suisse กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลดลงเหลือ 2.0% หรือ 1.5% จะสามารถช่วยเศรษฐกิจอ่อนตัวของออสเตรเลีย ในช่วงยุติความรุ่งเรืองของเศรษฐกิจภาคเหมืองแร่ ในสภาแวดล้อมของอัตราการว่างงานยังวนเวียนอยู่ในระดับ 6.2%, ความเชื่อมั่นของธุรกิจยังต่ำกว่าอัตราเฉลี่ย และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคไม่กระเตื้องขึ้นเท่าที่ควร
นอกจากนั้นธนกิจการธนาคารขนาดใหญ่อย่าง Deutsche Bank และ Goldman Sachs ก็ออกมาให้ความเห็นว่า ธนาคารกลางควรจะลดอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน
แม้นักเศรษฐศาสตร์จำนวนหนึ่งจะเห็นว่า ธนาคากลางควรลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% หรือ 0.5% ในการประชุมคณะกรรมการธนาคารกลางในวันที่ 2 ธันวาคม เพื่อเป็นของขวัญวันคริสต์มาสให้กับประชาชน แต่หลายคนก็เชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยมาตราฐานจะเข้าสู่วัฏจักรของการวกกลับมาเพิ่มขึ้นในปลายปี 2015 หรือต้นปี 2016
ในวันนี้เช่นกันค่าเงินของออสเตรเลียได้แข็งตัวขึ้น เมื่อเทียบกับเงินสกุลเยนของญี่ปุ่น หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของญี่ปุ่นรายงานผลประกอบการไตรมาสเดือนกันยายน ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ลดลง ส่อเค้าญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ
ค่าเงินเยนอ่อนตัวอย่างหนักเมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์สหรัฐและออสเตรเลียมากขึ้นอีกในวันนี้ เมื่อนักลงทุนคาดการณ์ว่านาย Shinzo Abe นายกรัฐมนตรีจะชะลอแผนการเพิ่มภาษีการขาย 2% ออกไป
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply