10 มิ.ย. 2014 โครงการ SCAMwatch ของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าและคุ้มครองผู้บริโภคแห่งออสเตรเลีย หรือ ACCC ได้เตือนผู้โดยสารรถแท็กซี่หากจ่ายค่าโดยสารด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตให้ระวังและคอยจับตาดูบัตรของตนและเครื่องหักเงินอิเล็กทรอนิกส์ ณ ที่จ่าย (EFTPOS) อาจจะแอบติดตั้งอุปกรณ์สกิมมิ่งข้อมูลส่วนบุคคลและรหัส PIN ของผู้โดยสาร

ในขณะที่ตำรวจปราปรามการฉ้อฉลออกมายืนยันว่าได้ทำการยึดอุปกรณ์สกิมมิ่งฃ้อมูลบัตรเครดิตและรหัส PIN บัตรเครดิตจากรถแท็กซี่หลายสิบเครื่องในปีนี้ โดยมันถูกนำมาปะกบติดกับเครื่องรูดบัตรเครดิตในรถแท็กซี่ เมื่อมิจฉาชีพในคราบพนักงานขับแท็กซี่เหล่านี้ได้ข้อมูลบัตรและรหัสไป ก็สามารถนำไปถอนเงินออกจากบัญชีของเหยื่อได้

เหยื่อหญิงสาวผู้อาศัยอยู่ในซิดนีย์ตอนในรายหนึ่งกล่าวว่า เธอได้รายงานไปยังตำรวจหน่วยปราบปรามการฉ้อฉล หลังจากพบว่าเงินในบัญขีธนาคาร St George ของเธอถูกแอบถอนไป 17,000 เหรียญ เพียงไม่นานหลังจากเธอใช้บัตรธนาคารชำระค่าโดยสารแท็กซี่

เธอกล่าวว่าหลังจากใช้บัตรธนาคารจ่ายเงินค่าโดยสารแล้ว เธอได้เข้าออนไลน์เพื่อทำรายการเบิกถอนเงินทางอินเทอร์เน็ต กลับพบว่าเงินในบัญชีของเธอได้ถูกเบิกถอนไปจากตู้ ATM หลายแห่งทั่วซิดนีย์

เมื่อเธอแจ้งเหตุให้ธนาคาร St George ทราบ เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่า มีลูกค้าของธนาคารอีกหลายคนถูกขโมยข้อมูลบัตรธนาคารในระหว่างจ่ายค่าโดยสารเช่นกัน

ทางด้านโฆษกของตำรวจหน่วยปราปรามการฉ้อฉลและอาชญากรรมไซเบอร์ของรัฐน.ซ.ว.กล่าวว่า ในปี 2014 ตำรวจได้ทำการจับและยึดอุปกรณ์โจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลได้หลายรายทั่วทั้งรัฐน.ซ.ว. โดยพบว่ามีการลักลอบเอาอุปกรณ์ไปติดตั้งกับตู้ ATM มากที่สุด แต่ก็พบว่าแก๊งคนร้ายใช้แท็กซี่และร้านค้าปลีกขนาดเล็กในการขโมยข้อมูลเช่นกัน

SCAMwatch เตือนว่า สิ่งที่ผู้ใข้บัตรชำระค่าสินค้าและบริการพึงระวังก็คือ หากมีการรูดบัตรมากกว่า 1 ครั้ง มีความเป็นไปได้สูงว่า ข้อมูลส่วนบุคคลและรหัส PIN ของเจ้าของบัตรได้ตกไปอยู่ในมือมิจฉาชีพแล้ว

ในขณะที่นาย Roy Wakelin-King ผู้อำนวยการบริหารของสภาแท็กซี่แห่งรัฐน.ซ.ว.ได้เตือนผู้โดยสารว่า ในขณะชำระค่าโดยสารด้วยบัตร การรูดบัตรจะต้องอยู่ในสายตาของผู้โดยสารว่าเขาใช้เครื่อง EFTPOS ที่เหมาะสม และเป็นการรูดบัตรครั้งเดียวเท่านั้น

Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: ACCC, ข่าวออสซี่, ข่าวออสเตรเลีย, ข่าวอาชญากรรม, แท๊กซี่