10 ส.ค. 2014 สงครามกล่าวหากันระหว่างนาง Pattharamon Chanbua (ภัทรมน จันทร์บัว) แม่อุ้มบุญชาวไทย กับนาย David Farnell บิดาโดยสายเลือดของ Gammy ผู้เกิดมาจากการได้รับไข่บริจาคจากหญิงนายหน้าผู้ติดต่อนาง Pattharamon ให้มาเป็นผู้อุ้มบุญ (ตามที่นาง Pattharamon อ้างไว้ในหนังสือพิมพ์ the Telegraph ฉบับวันที่ 9 สิงหาคม) ดูท่าฝ่ายแม่อุ้มบุญจะเริ่มเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ เมื่อเหตุการณ์ช่วงหลังเกิดขึ้นอย่างแทคทีมโดยบังเอิญ
9 ส.ค. 2014 สื่อออสซี่อ้างว่าธุรกิจบริการรับอุ้มบุญในประเทศไทยถือว่าเจริญรุ่งเรื่องถึงขนาดเรียกได้ว่า เป็นการท่องเที่ยวเชิงการเจริญพันธุ์ (fertility tourism) โดยเชื่อว่ามีชาวออสเตรเลียปีละกว่า 200 คู่ทั้งจากคู่สมรสที่มีบุตรยากและคู่ครองเพศเดียวกันเข้าใช้บริการอุ้มบุญในประเทศไทย ด้วยการจ่ายแบบแพคเกจประมาณ 50,000 เหรียญต่อการบริการครบวงจร และค่าบริการจะถูกลง ถ้าคู่ครองต้องการไข่จากหญิงไทย แต่หลายคนต้องการไข่ที่บริจาคจากสตรีในสหรัฐ, ยูเครน หรืออาฟริกาใต้ ก็มีบริการให้ แต่จะต้องจ่ายแพงขึ้นอีก
9 ส.ค. 2014 สื่อออสซี่ได้เสนอข่าวชีวิตในอีกด้านหนึ่งของนาง Pattharamon Chanbua (ภัทรมน จันทร์บัว สื่อออสซี่ส่วนหนึ่งกลับมาสะกด Chanbua แทน Janbua) โดยตีแผ่ว่า หลังจากที่เธอคลอดแฝด Gammy และแฝดผู้หญิงในวันที่ 23 ธันวาคม 2013 แม้ Gammy จะเป็นเด็กดาวน์ซินโดรม แต่นาง Pattharamon ก็ยังร่วมธุรกิจนายหน้าหาหญิงสาวชาวไทยร่วมบริจาคไข่เพศหญิงและรับตั้งครรภ์โดยมีรายได้งามเป็นเครื่องตอบแทน
7 ส.ค. 2014 สื่อในออสเตรเลียรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากกระทรวงคุ้มครองเด็กของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย หรือ DCP 2 คนได้ไปที่บ้านของนาย David และนาง Wendy Farnell บิดามารดาโดยสายเลือดของ Gammy ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อขอสัมภาษณ์ทั้งสอง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และส่อท่าทีว่าตำรวจอาจจะถูกเรียกเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อให้งานของเจ้าหน้าที่สำเร็จตามที่ได้รับมอบหมาย
นสพ. the Telegraph พาดหัว..พ่อแม่ออสซี่หนังหน้าหนา หาข้อแก้ตัวทอดทิ้ง Gammy “หนูน้อยกำลังจะตาย” เนื้อหาในข่าวเข้าข้างหญิงไทยผู้อุ้มบุญอย่างเด่นชัด ต่างกับของ the SMH ที่จิงโจ้นิวส์เพิ่งเสนอไป (5 ส.ค. 2014) โดย Telegraph ไม่เอ่ยถึงและไม่นำประเด็นทหารยึดอำนาจเข้ามาสอดแทรกในเนื้อข่าวแต่อย่างใด
5 ส.ค. 201 เรื่องราวของน้อง Gammy ที่พ่อแม่ชาวออสซี่ทิ้งไว้ที่ประเทศไทยให้ผู้รับจ้างอุ้มบุญเลี้ยง ส่อเค้าบานปลาย เมื่อสองสามีภรรยาตัดสินใจเผยตัวต่อสื่อท้องถิ่น โต้ข้อกล่าวหาฝ่ายหญิงไทย
4 ส.ค. 2014 นาย Sam Everingham ประธาน Surrogacy Australia และผู้อำนวยการ Families Through Surrogacy องค์กรที่จัดการสัมนาแนะนำและให้ความรู้ในการให้บุคคลอื่นรับตั้งครรภ์แทน ที่ได้รับความเชื่อถือสูงสุดแห่งหนึ่งในออสเตรเลียได้ออกมากล่าวว่า กรณีของ Gammy เด็กดาวน์ซินโดมที่ถูกบิดามารดาโดยสายเลือดทอดทิ้งให้อยู่กับสตรีผู้รับจ้างตั้งครรภ์ชาวไทย ได้แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของกฎหมายการรับคลอดบุตรแทนของออสเตรเลีย
1 ส.ค. 2014 หนังสือพิมพ์ค่าย Fairfax ฉบับวันที่ 1 สิงหาคม ได้เสนอข่าวของน้อง Gammy ทารกวัย 6 เดือนได้ถูกบิดามารดาชาวออสเตรเลียทอดทิ้งให้อยู่กับหญิงสาวชาวไทยผู้รับจ้างคลอดลูกที่ยากจน หลังเธอคลอดลูกแฝดทารกหญิงร่างกายสมบูรณ์ ส่วนทารกชายมีอาการดาวน์ซินโดม โดยเด็กอาจไม่รอดเนื่องจากน้อง Grammy มีอาการของโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิด ที่ต้องการเงินในการรักษา แถมสองสามีภรรยาและนายหน้ายังใจยักษ์เอาเฉพาะทารกเพศหญิงที่สุขภาพดีหนีกลับออสเตรเลีย แล้วยังเบี้ยวค่าเช่ามดลูกอีกด้วย