8 พ.ย. 2018 สตรีผู้ได้รับฉายาว่า “Dine & Dash Queen” หรือ “D & D Queen” หรือ “ราชินีแดกแล้วดาบ” (ขออภัยหยาบนิดหนึ่งแต่เพื่อให้คล้องตัวสะกด) หลังจากเข้าไปกินอาหารหลายแห่งแล้วหลบหนีไม่จ่ายเงิน ขณะนี้เธอได้รับประทานอาหารฟรีสมใจนึกอยู่ในห้องขังอย่างน้อยก็อีกหลายวันก่อนได้ประกันตัว
เจ้าของฉายา “ราชินี D & D” ผู้นี้มีนามว่านาง Lois Loder อายุ 44 ปีจากนครเพิร์ท ได้ถูกนำขึ้นพิจารณาคดีที่ศาลแขวงรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเมื่อวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมาโดยผ่านระบบวิดีโอเชื่อมต่อจากสถานกักกันหญิง Melaleuca Remand and Reintegration Facility ในย่าน Canning Vale เขต City of Canning ทางใต้ของนครเพิร์ทเพื่อการพิจารณาการประกันตัว แต่คำยื่นขอประกันมีความล่าช้า ทำให้การพิจารณาต้องเลื่อนออกไปอีกภายในเดือนนี้
นาง Loder ผู้ซึ่งใช้ชื่ออื่น ๆ อีกหลายชื่อถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง 33 คดีและพยายามฉ้อโกงเพื่อการขโมยทรัพย์สินและยาเสพติดอีก 16 คดี
เธอได้ยอมรับสารภาพผิดจำนวน 28 คดี และในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาผู้พิพากษาได้เตือนว่าเธอมีโอกาสสูงที่จะต้องรับโทษจำคุกถ้าถูกตัดสินว่ามีความผิด
นาง Loder มีประวัติอันช่ำชองต่อการรับประทานอาหารแล้วหลบหนี ก่อนมาตกม้าตายแบบไม่สมราคา เมื่อเธอถูกจับเข้าสถานกักกันหญิง Melaleuca ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาจากการเข้าไปสั่งครัวซองต์และเครื่องดื่มโมจิโต้ (mojito ค็อกเทลฉบับคิวบามีเหล้ารัมขาว, น้ำตาล, น้ำมะนาวและโซดา) ที่ร้านคาเฟ่ Gordon St Garage Cafe ถนน Gordon St. ย่าน West Perth ในเพียงราคา 22.50 เหรียญแล้วพยายามหลบหนีไปโดยไม่จ่ายเงิน
งานนี้นาย Callum Jenning ผู้จัดการร้าน Gordon St Garage Cafe กลายเป็นฮีโร่ของเหล่าบรรดาผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารและคาเฟ่ เพราะผู้ได้ชื่อว่าเป็นราชินี Dine & Dash ถูกตำรวจจับจากร้านนี้
นาง Loder ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงเหตุการณ์กินแล้วชักดาบครั้งสุดท้ายของเธอว่า แท้จริงเป็นเรื่องเข้าใจผิดและไร้สาระสิ้นดี
เธออ้างว่านาย Jenning บอกกับเธอว่าทางร้านไม่รับชำระโดยบัตรเครดิตแต่รับเฉพาะเงินสด เนื่องจากระบบอิเล็กทรอนิกส์ขัดข้อง แต่ในตอนนั้นเธอมีเงินสดอยู่เพียง 20 เหรียญเท่านั้น
ซึ่งถ้าเธอรู้จะมีเรื่องราวใหญ่โต เธอจะไปกดเงินจากตู้ ATM มาให้ เรื่องมันก็จะได้จบกัน แต่เขากับบอกให้เธอนั่งลง (จนกว่าตำรวจจะมา)
แต่นาย Jenning ได้เล่าเหตุการณ์คนละเรื่องเดียวกัน โดยอ้างว่าเขาและนาง Loder ได้พูดกันเพียงไม่กี่คำเมื่อเธอเข้ามาสั่งครัวซองต์ที่เคาน์เตอร์แล้วตามด้วยโมจิโต้
นาง Loder อยู่ในร้านได้ประมาณไม่กี่นาที เพื่อนร่วมงานของเขาสังเกตเห็นเธอมีท่าทางพิรุธขณะเดินออกจากร้านไปอีกทางหนึ่ง นาย Jenning รออยู่ระยะหนึ่งจึงมั่นใจว่าเธอหลบหนีไม่ชำระเงินแน่ เขาจึงตัดสินใจเดินตามไปทันและขัดขวางเธอ แจ้งให้ทราบว่าเธอจำเป็นจะต้องกลับไปจ่ายค่าอาหารที่ร้าน
แต่นาง Loder อ้างว่าเธอได้วางค่าอาหารไว้บนโต๊ะแล้ว แต่นาย Jenning บอกว่าเขาไม่คิดเช่นนั้น
นาง Loder ถูกตั้งฉายาว่า “ราชินี Dine & Dash” หลังจากเธอถูกร้านอาหารและโรงแรมหลายแห่งในนครเพิร์ทและพื้นที่โดยรอบนครหลวงกล่าวว่า พวกเขาก็ได้รับประสบการณ์เธอเข้าไปรับประทานอาหารแล้วเผ่นหนีไม่ชำระค่าอาหาร
เธอเป็นข่าวตามหน้าสื่อมวลชนระดับประเทศครั้งแรกในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เมื่อเจ้าของร้านอาหาร Elmar’s ที่ตำบล Valley ในภูมิภาค Swan Valley ใช้สื่อสังคมออนไลน์เผยภาพของเธอและเพื่อนชาย เข้าไปประประทานอาหารแล้วไม่จ่ายเงินจำนวน 250 เหรียญ จากนั้นจึงมีร้านอาหารและโรงแรมอื่น ๆ ที่ตกเป็นเหยื่อของเธอออกมาเปิดเผยตัว
ส่วนเพื่อนชายของนาง Loder ที่เธอมักพาไปกินอาหารแล้วชักดาบคือนาย Chiminh Phun วัย 41 ปีแท้จริงเป็นผู้อยู่กินฉันท์สามีภรรยาของเธอ เขามีกำหนดขึ้นศาลในเดือนพฤศจิกายนนี้เช่นกัน
หมายเหตุ ท่านสามารถอ่านข่าวเกี่ยวเนื่องกับคดีของนาง Lois Loder ราชินี Dine & Dash ได้ด้วยการกดคลิก “คดีนาง Lois Loder” ที่ Tags ท้ายข่าวนี้
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com
จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์