
ด.ญ. Siriyakorn Siriboon มีชื่อเล่นว่า Bung ก่อนหายตัวลึกลับในวัย 13 ปี : ภาพป๊อปอาร์ตโดย jingjonews
12 ก.ค. 2023 คดีการหายตัวไปอย่างลึกลับของด.ญ. Siriyakorn Siriboon (สิริยากร ศิริบูรณ์) หรือ Bung (หลายคนออกเสียงว่า ‘บัง’ แต่มีเพื่อนร่วมชั้นเรียนนบางคนเรียก ‘บุ้ง’ ส่วนใหญ่เรียกกันว่า ‘บัง’ ตามสื่อฯออสเตรเลีย) แม้เธอจะหายไปเป็นเวลา 12 ปีแล้ว แต่ตำรวจรัฐวิกตอเรียยังไม่เก็บแฟ้มคดีของเธอเข้าเป็นคดีเย็นหรือจำหน่ายเป็นคดีแช่แข็ง
ด.ญ.สิริยากรวัย 13 ปีได้ร่วมกับเพื่อนร่วมชั้นปีที่ 7 ทำกิจกรรมเดิน 1 กิโลเมตรไปโรงเรียน Boronia Heights College จากบ้านทางตะวันออกของนครเมลเบิร์นเพื่อเป็นการส่งเสริมการออกกำลังกาย
แต่ในตอนเช้าของวันที่ 2 มิถุนายน 2011 เธอได้โบกมือลานาย Fred Pattison พ่อเลี้ยงของเธอเดินไปโรงเรียนตามลำพัง ด้วยชุดนักเรียนสีขาวและน้ำเงินพร้อมกระเป๋านักเรียนสพายหลัง
ในวันนั้นเธอไปไม่ถึงโรงเรียนและไม่ได้กลับบ้านมาพบ Pang พี่สาว, Vanidda มารดาและพ่อเลี้ยงของเธอ เธอได้หายไปจากบ้านตั้งแต่วันนั้นจนถึงทุกวันนี้
มารดาของเธอได้พยายามติดต่อเธอทางโทรศัพท์มือถือ แต่กลับพบว่าเธอได้ทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่บ้านในวันนั้น
ด.ญ.สิริยากรเกิดในปี 1997 ที่ประเทศไทย มารดาของเธอได้พา Pang และเธอย้ายมาอยู่กับสามีใหม่ที่ออสเตรเลียในปี 2007
การหายตัวอย่างลึกลับของเธอทำให้ตำรวจตั้งรางวัล 1 ล้านเหรียญแก่ผู้ให้เบาะแสจนนำไปพบตัวเธอหรือศพของเธอเพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้ก่อเหตุมาลงโทษ
ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาครอบครัวของเธอได้จัดพิธีทำบุญครบรอบวันเกิดและการหายตัวไปของเธอที่วัดไทยธรรมรังษี (Wat Dhammarangsee Buddhist Temple) ในนครเมลเบิร์น หากด.ญ.สิริยากรยังมีชีวิตอยู่ เธอจะมีอายุ 25 ปี

นาง Vanidda และนาย Fred Pattison ในวันทำบุญที่วัดธรรมรังษี นครเมลเบิร์น : เครดิตภาพเฟซบุ๊ก Wat Dhammarangsee Melbourne Australia
ตำรวจกล่าวว่า พวกเขายังคงได้รับการโทรศัพท์เข้ามาในช่วงสัปดาห์ใกล้วันครบรอบการหายตัวไปของเธอในแต่ละปี จะมีซาลงก็ในช่วงสองในสามปีของ COVID-19 ระบาด
แม้จะใช้ความพยายามคลีคลายคดี แต่ตำรวจยอมรับว่ายังมืดแปดด้าน แต่ตำรวจยังไม่หมดหวัง ที่จะสืบสวนให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น
โครงการ The Project เพื่อการตามหาตัวด.ญ. สิริยากรในปี 2021 ทำให้นาง Vanidda และนาย Pattison ได้ปรากฎตัวในที่สาธารณะและให้สัมภาษณ์รายการทีวีทุกช่อง
นาย Pattison กล่าวว่าลูกเลี้ยงของเขา เป็นคนมีสติและไหวพริบดี เธอจะไม่ยอมขึ้นรถของคนแปลกหน้าเป็นอันขาด และการเดินไปโรงเรียนก็ใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น
ไม่มีใครรับรู้ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในวันนั้น จนกระทั่ง Dyamai เพื่อนสนิทที่สุดของเธอโทรศัพท์มาหาด.ญ.สิริยากรที่บ้าน เพื่อบอกให้รู้ถึงการลงเล่นฟุตบอลในวันรุ่งขึ้น โดย Dyamai คิดว่าเธอป่วยอยู่ที่บ้านในวันนั้นจึงไม่มาโรงเรียน
นาย Pattison เป็นผู้รู้สาย ทำให้รู้ว่า ลูกเลี้ยงของเขาได้หายไป
ตำรวจเผยเหตุการณ์พยายามลักพาในสถานที่และวันเวลาใกล้เคียง
ตำรวจรัฐวิกตอเรียเปิดเผยว่าในช่วงเพียงสองสัปดาห์ก่อนที่ด.ญ.สิริยากรจะหายตัวไป เด็กหญิงชาวเอเชียวัย 11 ปีได้เดินไปโรงเรียนมาตามถนน Bennett St. ในย่าน Boronia ไม่ไกลจากที่ด.ญ.สิริยากรหายตัวไป เธอได้เผชิญกับชายสูงอายุสวมหน้ากากผ่าตัดอย่างแพทย์สีขาว ชายคนนั้นพยายามจะชักชวนให้เด็กหญิงขึ้นรถ แต่เด็กหญิงมีไหวพริบดีใช้โทรศัพท์มือถือขู่แจ้งตำรวจและหาทางหลบหนีเอาตัวรอดไปได้
นอกจากนั้นยังมีเหตุการณ์พยายามลักพาเด็กนักเรียนหญิงวัย 16 ปี ในวันที่ 21 มิถุนายนของปีเดียวกัน แต่ข้อมูลของคดีนี้มีไม่มากหรือตำรวจไม่เปิดเผย

ด.ญ. Siriyakorn Siriboon ผู้มีความสดใสร่าเริง ก่อนที่จะหายตัวไปอย่างลึกลับ :
ในกรณีของด.ญ.สิริยากร ตำรวจเชื่อว่าเธอถูกลักพาตัวไป แต่ถึงวันนี้ยังไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่จะนำไปสู่ตัวผู้ต้องสงสัย
คดีของด.ญ.สิริกายกเป็นคดีที่ตำรวจใช้กำลังพลและงบประมาณในการสืบสวนมากที่สุดคดีหนึ่ง
ในปี 2013 ชายจากย่าน Boronia อ้างว่าเขาได้ขับรถชนด.ญ. สิริยากรเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ และได้นำศพของเธอไปทิ้งในพื้นที่สำรอง (reserve land เป็นพื้นที่สงวนไว้สำหรับในอนาคต เช่นสำหรับการขยายเมืองเป็นต้น) ส่งผลให้ตำรวจตัดสินใจปูพรมหาร่างของเธอที่ Old Joe’s Creek ซึ่งเป็นพื้นที่รีเซิร์ฟห่างจากจุดที่มีคนพบเห็นเธอเป็นครั้งสุดท้ายไม่กี่กิโลเมตร
การปฎิบัติการค้นหาด.ญ.สิริยากรใช้กำลังพลนับร้อย กินเวลาหนึ่งสัปดาห์ โดยไม่พบหลักฐานใด ๆ ที่เกี่ยวของกับเด็กหญิงชาวไทยคนนี้
ในปี 2016 ตำรวจได้รับข้อมูลจากสองแหล่งไม่เกี่ยวข้องกัน ที่พอเชื่อถือได้ ถึงชายผู้มีลายสักเต็มตัวขับรถสเตชั่นแวกอน Kingswood สีขาว โดยมีเด็กหญิงชาวเอเชียนั่งอยู่ข้างคนขับ ในวันเดียวกับที่ด.ญ.สิริยากรหายตัวไป
ผู้่ขับรถเป็นชายผิวขาวอายุระหว่าง 30 ถึง 45 ปี ศรีษะล้านหรือผมบางสีอ่อน คอและแขนเต็มไปด้วยลายสัก โดยมีลายสักขนาดใหญ่ที่คอด้านซ้าย
ทำให้ตำรวจเผยแพร่ข้อมูลและภาพจำลองของผู้ต้องสงสัยสู่สื่อมวลชน เพื่อขอความร่วมมือจากสาธารณชนในการให้เบาะแสถึงบุคคลต้องสงสัย แต่คว้าน้ำเหลว
ตำรวจยังได้ปูพรมตรวจพื้นที่ที่เธอหายตัวไป พร้อมกับสอบปากคำผู้มีประวัติกระทำผิดทางเพศในท้องถิ่น ในปฏิบัติการครั้งนั้นตำรวจได้เคาะประตูตามบ้านเพื่อสอบถามกว่า 1,000 หลังคาเรือน
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ถูกคนอื่นยึดไปแล้ว)
Categories: ข่าวคนไทยในออสเตรเลีย, ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply