ยา MDMA หลากสีถูกทำให้ดูไม่เหลือซากโดยโปรแกรม Photopea ต้นฉบับมาจาก healthline / ภาพของจริงอยู่ที่ท้ายข่าวนี้

1 ก.ค. 2023 ออสเตรเลียได้กลายเป็นประเทศแรกในโลกที่ยอมรับให้สารเสพติดออกฤทธิ์ทำให้เคลิบเคลิ้มสองชนิดเป็นยารักษาโรคเรียบร้อยแล้ว

นับจากวันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไปยา MDMA (เมทิลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนหรือยาอี) และ psychedelic (สารซึ่งเกี่ยวกับหรือทำให้เกิดอาการประสาทหลอน) จากเห็ดขี้ควาย (magic mushroom) สามารถใช้เป็นยาที่ถูกกฎหมายสำหรับผู้มีอาการทางสุขภาพจิตเฉพาะอย่าง

ยาเสพติดทั้งสองชนิดเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้เสพยา และเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่สามารถเข้าถึงได้่ภายใต้ข้อกำหนดที่เข้มงวด

นับจากวันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไปสำนักงานกำกับดูแลเวชภัณฑ์ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ (TGA) ได้ย้าย MDMA และเห็ดขี้ควายจากพิกัด 9 ว่าด้วย ‘สารต้องห้าม’ มาอยู่ที่พิกัด 8 ว่าด้วย ‘สารควบคุม’ ภายใต้สถานการณ์ที่จำกัดเพื่อใช้ทางการแพทย์

สารทั้งสองชนิดจะต้องได้รับการออกใบสั่งยาโดยจิตแพทย์ที่ได้รับการอนุญาตโดยผ่านโครงการผู้สั่งจ่ายยาที่ได้รับอนุญาต (Authorised Prescriber Scheme) ของ TGA นอกเหนือจากนี้ยาเสพติดทั้งสองชนิดถือเป็นสารต้องห้ามตามกฎหมาย

สารจากเห็ดขี้ควายจะถูกนำมารักษาผู้ป่วยที่มีภาวะซึ่มเศร้าต่อต้านการรักษา ในขณะที่ยา MDMA ใช้กับผู้ป่วยที่ต่อต้านยารักษาโรคจิตเภทชนิดที่เกิดจากสภาวะจิตใจของผู้ป่วยได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์ในอดีตหรือ PTSD

ข่าวออนไลน์สำนักข่าว SBS วันที่ 1 กรกฎาคม 2023 เสนอข่าว ครั้งแรกในโลก : MDMA และสารที่ทำให้เกิดประสาทหลอนได้ถูกสำนักงาน TGA จัดพิกัดสารเสพติดใหม่มาเป็นยารักษาโรคในออสเตรเลีย

ย้อนหลังไปในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลุ่ม Mind Medicine Australia ได้แสดงความยินดีต่อการที่ MDMA และเห็ดขี้ควายสามารถนำมาใช้ทางการแพทย์ได้อย่างถูกกฎหมาย

ในขณะที่ศาสตราจารย์ Susan Rossell แห่งมหาวิทยาลัยสวินเบิร์นผู้นำทางการวิจัยที่ใหญ่ที่สุดในเรื่องของกระทบจากเห็ดขี้ควายเพื่อการบำบัดความเครียด ได้เรียกร้องให้มีการวิจัยเพิ่มมากขึ้นให้เรียบร้อยก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงกฎหมาย

ทางด้านมูลนิธิแอลกอฮอล์และยาเสพติดแห่งออสเตรเลีย (ADF) ได้ร่วมแชร์ผลการวิจัยจากการใช้เห็ดขี้ควายเพื่อเป็นยารักษาโรคเช่นกัน

เห็ดขี้ควายได้ถูกใช้โดยชนเผ่าพื้นเมืองของออสเตรเลียมาหลายชั่วอายุคน มันมีผลช่วยรักษาอาการวิตกกังวล, อาการภาวะซึมเศร้า, PTSD, การเสพติดแอลกอฮอล์และนิโคติน

แต่ในปลายทศวรรษที่ 1960s สหรัฐได้สั่งห้ามใช้สารเสพติดที่ทำให้เกิดประสาทหลอนทั้งหมด ทำให้ทั่วโลกรวมถึงออสเตรเลียทำตาม

มูลนิธิ ADF ให้ความเห็นในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า การรักษาอาการประสาทหลอนจำเป็นต้องติดตามอย่างใกล้ชิดและรอบคอบ เพราะการใช้ยาอาจทำให้สภาวะทางจิตย่ำแย่ลง – อย่างเช่นบุคลิกภาพผิดปกติและโรคจิตเภท

มูลนิธิให้ความเห็นว่า เมื่อเสพเห็ดขี้ควายเพื่อการนันทนาการ เป็นการยากที่จะทราบถึงระดับความแรงในแต่ละโดสของมันและมันมีสิ่งเจือปนอื่น ๆ จากสิ่งแวดล้อมหรือไม่

และมันจะเป็นการยากที่จะทราบว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบจากประสบการณ์ของพวกเขาอย่างไร สิ่งนี้เหมือนกับ ‘สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นจะเกิดขึ้น’ (a bad trip will occur)

ในขณะที่นพ. Mike Musker จากกลุ่มวิจัยสุภาพจิตและการป้องกันการฆ่าตัวตายของมหาวิทยาลัยเซาท์ออสเตรเลียได้ออกมาสนับสนุนการออกกฎหมายนี้ โดยกล่าวว่ามันเป็นการรอคอยมาอย่างยาวนานและเป็นวิวัฒนาการทางจิตเวชศาสตร์ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 70 ปี

นพ. Musker กล่าวว่าภาวะซึมเศร้าและ PTSD เป็นอาการป่วยเกือบครึ่งหนึ่งของอาการป่วยทางจิตของชาวออสเตรเลีย เห็ดขี้ควายและ MDMA คือทางออกของการบำบัดอาการเหล่านี้

jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ถูกคนอื่นยึดไปแล้ว)

Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: ข่าวยาเสพติด, ข่าวออสซี่, ข่าวออสเตรเลีย, ประเทศออสเตรเลีย, มหาวิทยาลัยสวินเบิร์น, มหาวิทยาลัยเซาท์ออสเตรเลีย, ยารักษาโรค, ออสเตรเลีย, Magic Mushrooms เห็ดขี้ควาย, MDMA ยาอี, TGA