👦🏻🔥 รู้สาเหตุเพลิงไหม้อาคารที่ Central แล้ว ฝีมือกลุ่มเด็ก 13 ปี

ภาพหนังสือพิมพ์ The Daily Telegraph ฉบับ 26 พฤษภาคม 2023 ขึ้นหัวข่าว “เมืองนรก” พื้นที่พัฒนาโรงแรมมูลค่า 40 ล้านเหรียญพังพินาศไปกับกองเพลิง

26 พ.ค. 2023 ช่วงนี้ฝีมือเด็กชิงพื้นที่ข่าว ตั้งแต่เด็กชาย 15 ปีบุกยิงในโรงเรียนที่นครเพิร์ทถือเป็นการก่อเหตุใช้อาวุธปืนในโรงเรียนเป็นรายแรกนับตั้งแต่กำเนิดรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียในปี 1829 และล่าสุดเหตุการณ์เผาอาคารครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบกว่ากึ่งศตวรรษในรัฐนิวเซาท์เวลส์เป็นฝีมือของกลุ่มเด็กวัย 13 ปี

นาย Paul Dunstan รักษาการแทนผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้เปิดแถลงข่าวว่า ในตอนกลางดึกของวันพฤหัสฯที่ 25 พฤษภาคมได้มีเด็กชายสองคนเข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจสองแห่ง ทั้งคู่มีอายุ 13 ปี คนหนึ่งเข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจ Paddington และอีกคนที่สถานีตำรวจ Kings Cross พร้อมร่วมมือให้ปากคำเป็นอย่างดี

ตำรวจได้เรียกร้องให้เด็กอีกสามหรือสี่คนในวัยเดียวกันที่เข้าไปในอาคารก่อนเกิดเพลิงไหม้ ให้พาผู้ปกครองมาพบตำรวจเพื่อการสอบปากคำ

ภาพถ่ายจากกล้องติดรถดับเพลิงไปยังจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ ตึกมุมแคบสีขาวคือโรงพยาบาลทันตกรรม Sydney Emergency Dental Hospital : เครดิตภาพจาก Fire and Rescue NSW

อาคารร้างจดทะเบียนเป็นมรดกของรัฐที่ถูกเพลิงไหม้เป็นที่รู้กันดีว่ามีคนจรจัดแอบไปใช้เป็นที่หลับนอนเป็นประจำ 15 คน ขณะนี้ตำรวจสามารถติดต่อคนเหล่านี้ได้แล้ว 13 คน สามารถยืนยันได้ว่าพวกเขาปลอดภัยดี ตำรวจและหน่วยงานของรัฐกำลังตรวจเช็คอีกสองคนที่เหลือ (ซึ่งไม่น่ายากเพราะบุคคลเหล่านี้พึ่งเงินสวัสดิการรัฐ อย่างไรก็ต้องติดต่อ Centrelink)

ขณะนี้มีรายงานผู้บาดเจ็บเพียง 1 รายเท่านั้น คือเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ด้วยบาดแผลเล็กน้อยเพียงแค่การทำแผลโดยแพทย์พาราฯในที่เกิดเหตุเท่านั้น

อาคารที่ถูกเพลิงไหม้ยังคงได้รับการฉีดน้ำหล่อเลี้ยงในวันศุกร์ จะเห็นกำแพงอาคารสองด้าน ถูกประเมินว่าอยู่ในสถานะล่อแหลมต่อการพังทลายลงมา เพียงแค่ถูกลมพัด : เครดิตภาพสำนักข่าว AAP ผ่านหนังสือพิมพ์ The Daily Mail

ภาพมุมสูงถ่ายจากยานโดรน จะเห็นพื้นไม้และโครงสร้างไม้ของชั้นต่าง ๆ ถูกไฟเผาไม่เหลือซาก : เครดิตภาพจาก Fire and Rescue NSW

การดับเพลิงครั้งนี้ใช้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและช่วยชีวิต 120 คน (เมื่อวานรายงานกว่า 100 คน) และรถดับเพลิง 30 คัน (เมื่อวานนี้รายงาน 25 คัน) ต่อสู้กับเพลิงเผาไหม้อิฐและโครงสร้างไม้ พร้อมใช้ยานโดรนสำรวจจุดที่ไฟก่อตัวขึ้นอีกในช่วงตลอดทั้งคืนวันพฤหัสฯจนถึงเช้าวันศุกร์

นาย Adam Dewberry ผู้บัญชาการการดับเพลิงและช่วยชีวิตรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่ให้ใครผ่านพื้นที่ เนื่องจากหวั่นเกรงว่า กำแพงอาคารสองข้างซึ่งอยู่ในตำแหน่งล่อแหลมอาจถล่มลงมาเมื่อใดก็ได้

(หมายเหตุ ที่ jingjonews รายงานเมื่อวานนี้ว่าอาคารที่เกิดเพลิงไหม้เป็นอาคารคู่ เข้าใจว่าแปลผิดหรือไม่ข่าวต้นฉบับรายงานคลาดเคลื่อน ดูจากภาพถ่ายแล้วอาคารที่ถูกเพลิงไหม้เป็นอาคารเดี่ยว จึงขออภัยมา ณ ที่นี้)

ภาพถ่ายจากอาคารฝั่งตรงกันข้าม ซึ่งได้รับความร้อนจนกระจกหน้าต่างแตก : เครดิตภาพจาก Fire and Rescue NSW

ถึงขณะนี้ยังมีประชาชนอีก 50 คนยังไม่สามารถกลับเข้าที่พักของตน นับตั้งแต่ได้รับคำสั่งให้อพยพออกจากอาคารที่พัก

ในจำนวนนี้รวมถึงสตรีคนหนึ่งผ้ซึ่งจะเข้าพิธีสมรสในวันศุกร์ แต่เธอออกมาจากอพาร์ตเมนต์ที่พักโดยไม่ได้นำชุดเจ้าสาวติดตัวมาด้วย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงทำหน้าที่เข้าไปนำชุดเจ้าสาวจากอพาร์ตเมนต์มาให้เธอ

นาย Phu Tang ช่างซ่อมกุญแจท้องถิ่นผู้เห็นกลุ่มเด็กนักเรียนวิ่งออกมาจากอาคารในขณะเริ่มเกิดเพลิงไหม้ : เครดิตภาพ 9 News ผ่านหนังสือพิมพ์ The Daily Mail

นาย Phu Tang ช่างกุญแจท้องถิ่นผู้เห็นกลุ่มเด็กนักเรียนวิ่งหนีเพลิงไหม้ออกมาจากตัวอาคารในขณะที่เขากำลังเดินกลับที่ทำงานซึ่งอยู่ในอาคารติดกับอาคารถูกไฟไหม้ในตอนบ่ายของวันพฤหัสฯกล่าวว่า พวกเด็ก ๆ วิ่งผ่านเขาไป พวกเขาหันมาตะโกนให้เพื่อนคนหนึ่งที่ยังอยู่ในอาคารให้รีบออกมา และต่างคุยกันถึงเพื่อนคนนั้นว่า ทำไมเขาจึงยังอยู่ในอาคาร

นาย Tang เชื่อว่าเด็กกลุ่มนี้ต้องรู้เห็นอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเพลิงไหม้ครั้งนี้

อาคารที่ถูกเพลิงไหม้ถ่ายจากอาคารฝั่งตรงข้าม จะเห็นรถกระบะสีเงินตอนหน้ารถถูกไฟเผาลุกไหม้และถูกอิฐหล่นลงมาทับเสียหาย : เครดิตภาพจาก Fire and Rescue NSW

สำหรับอาคารที่ถูกไฟไหม้ เป็นอดีตโรงงานทำหมวกสตรีมีทั้งสิ้น 7 ชั้น จากข้อมูลที่ยื่นเสนอต่อเทศบาลเขต City of Sydney ได้ยื่นขออนุมัติพัฒนาอาคารหลังนี้เป็นโรงแรมขนาด 123 ห้องและร้านอาหารสองแห่งในงบประมาณ 40 ล้านเหรียญ โดยบริษัท Hanave Pty Ltd ด้วยการออกแบบของสำนักงานสถาปนิก Tonkin Zulaikha Greer มาตั้งแต่ปี 2019

ภายใต้แผนการพัฒนา อาคารเชื่อมต่อเลขที่ 7-9 และเลขที่ 15 ถนน Randle St. (ตามภาพด้านบนคืออาคารสีขาวที่ติดกันทั้งทางซ้ายและขวา) จะทำการรื้อถอนออกไป เพื่อก่อสร้างอาคารหลังใหม่ขนาด 9 ชั้น ในขณะที่อาคารเลขที่ 11-13 ถนน Randle St. ที่ถูกเพลิงไหม้จะยังคงอยู่ (รื้อไม่ได้เพราะขึ้นทะเบียนมรดกฯ)

ภาพอาคารถูกเพลิงไหม้และอาคารติดกันอีกสามหลังซ้ายขวาหลังจากพัฒนาเป็นโรงแรมตามแผนที่ยื่นต่อเทศบาล City of Sydney ออกมาจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างในภาพ โปรดสังเกตในภาพมีแค่ 6 ชั้น อีกสามชั้นอยู่ใต้ดิน : เครดิตภาพ NCA Newswire ต้นฉบับสำนักงานสถาปนิก Tonkin Zulaikha Greer

jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , , ,

Leave a Reply

%d bloggers like this: