
ภาพสามสาวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่วัดพระแก้ว โปรดสังเกตชุดผ้านุ่งที่สองสาวด้านขวาสวมใส่น่าจะเช่ามา ที่แปลกใจก็คือ ‘กระโปรงช้าง’ มีด้วยหรือ นึกว่ามีแต่ ‘กางเกงช้าง’ ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก : ภาพป๊อปอาร์ตโดยจิงโจ้นิวส์
16 มี.ค. 2023 สืบเนื่องมาจากข่าวเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ The Mercury ขึ้นภาพใหญ่แล้วมีคำบรรยายหัวข้อข่าวใต้ภาพว่า “Never do this at 4 pm in Thailand” จึงอย่างทราบว่า เขาแนะนำไม่ให้ทำอะไรในเวลา 16.00 น.ในประเทศไทย แต่บังเอิญหนังสือพิมพ์ฉบับนี้จะเข้าอ่านได้ต้องจ่ายเงิน ทำให้ผิดกฎกติกา jingjonews ที่เป็นสื่อฯไร้รายรับและรายจ่าย แต่เมื่อลองกดเข้าไปดู ปรากฎว่าเป็นบทความที่ The Mercury ลิงค์มาจาก escape เว็ปไซต์แนะนำการท่องเที่ยวของออสเตรเลียจึงสามารถเข้าไปอ่านได้ฟรี
escape บอกว่า กรุงเทพมหานครในความคิดของเธอเป็นดินแดนแห่งการท่องเที่ยวที่ทุกอย่างพร้อมสรรพ มีแผงขายอาหารข้างถนน, บาร์นั่งชิว ๆ และปาร์ตี้สุดมันโต้รุ่ง นักท่องเที่ยวสามารถทำทุกอย่างได้อย่างไร้ปัญหาตราบใดที่ไม่ไปดูหมิ่นสถาบัน, ไม่ทำให้ผู้ยึดอำนาจการปกครองโกรธหรือพยายามซื้อแอลกอฮอล์นอกเหนือเวลาที่เขากำหนดอย่างเข้มงวด
ดูสำนวนการเขียนบทความแล้ว ผู้เขียนน่าจะซึมซับข้อมูลจากฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลมากกว่าฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล ของประเทศที่มีเสรีในการเสนอข่าวสารอย่างล้นเหลือ จะว่าไปแล้วมีเสรีภาพมากกว่าในประเทศตะวันตกเสียอีก

ข่าวหนังสือพิมพ์ The Mercury ขึ้นหัวข่าว “อย่าทำสิ่งนี้ในเวลา 16.00 น. ในประเทศไทย”
เธอเล่าว่าที่เมืองหลวงของประเทศไทย คุณสามารถซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในระหว่างเวลา 11.00 น.ถึง 14.00 น. หรือหลังจาก 17.00 น.
อันนี้เธอมีประสบการมาแล้ว ด้วยการเข้าไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นเพื่อซื้อไวน์ในเวลา 16.00 น. ปรากฎว่าไม่สามารถซื้อได้
(จิงโจ้นิวส์เข้าใจว่าเหตุการณ์นี้กระมัง คือที่มาของหัวข้อบทความ ‘Never do this at 4 pm in Thailand’)
เธอกล่าวว่า มันเป็นประสบการณ์เดียวกับการเข้าไปในร้านอิซากายะ (izakaya เป็นร้านเหล้าแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม คือมีอาหารแบบง่าย ๆ ขายแกล้มเหล้า) หากไปหลังเวลาอาหารกลางวันไปมากแล้ว ก็จะพบกับบาร์ญี่ปุ่นที่ไม่มีเบียร์ให้ดื่ม เธอเขียนว่า ‘A Japanese Bar With No Beer’ อ่านตรงนี้แล้วทำให้จิงโจ้นิวส์นึกถึงเพลงของปู่ Slim Dusty ขึ้นมาทันที
เธอเตือนว่า ยังมีกฎหมายอื่นของประเทศไทย ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติช็อกเหมือนกับที่เธอได้ค้นพบ

ข่าวหนังสือพิมพ์ The Mercury ขึ้นหัวข่าว ‘นักท่องเที่ยวไม่พอใจที่ทางการบาหลีสั่งแบนพวกเขาในการเช่ารถสกูตเตอร์’ อันนี้ไม่เกี่ยวกับกรุงเทพฯ แต่ทั้งบาหลีและกรุงเทพฯเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชาวออสเตรเลียนิยมชมชอบ และมักถูกนำมาอ้างถึงควบคู่กันไป สาเหตุที่ทางการบาหลีสั่งแบนการเช่ารถสกูเตอร์เพราะเกิดอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่อง แถมนักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นออสเตรเลียไม่นิยมสวมหมวกกันน็อก และไม่นิยมสวมเสื้อผ้าปกปิดร่างกายอย่างมิดชิด ซึ่งผิดกฎหมายและจารีตประเพณีของอินโดนีเซีย
ที่กรุงเทพฯ การขับรถยนต์โดยไม่สวมเสื้อถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย! การก้าวออกมาจากรถโดยไม่สวมกางเกงใน
อันนี้เธอยังไม่พบว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเผชิญกับตำรวจไทย แต่เธอได้ค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตยืนยันว่าไม่ผิดกฎหมายใด ๆ
(อันนี้จิงโจ้นิวส์ไม่ทราบข้อกฎหมายของไทย แต่ก็อย่าได้เชื่อข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์มากนัก เพราะมีทั้งเรื่องจริงกับเรื่องเท็จปะปนกันในอัตรา 50 : 50)
เธอแนะนำข้อปฏิบัติขณะอยู่ในประเทศไทยและอินโดนีเซียว่า นักท่องเที่ยวจะต้องมีหนังสือเดินทางติดตัวตลอดเวลา ซึ่งเธอเห็นว่ากฎกติกานี้ไม่เสียหาย นอกจากนั้นมันยังใช้ประโยชน์ในการยืนยันตัวบุคคลเช่นในตอนซื้อตั๋วรถไฟ BTS และซื้อบัตร SIM
จิงโจ้นิวส์ขอสรุปว่า คำแนะนำที่กล่าวมานี้ไม่เห็นมีอะไรแปลกใหม่ กฎระเบียบที่มีอยู่ก็ถือว่าดีแล้วสำหรับประเทศไทยที่เป็นเมืองพุทธและมีวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม แต่คงไม่เป็นที่พอใจของเมรีขี้เมาก็เท่านั้น
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Categories: ข่าวออสซี่ในเมืองไทย, ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply