
น.ส. Belinda Checkley ผู้จัดการคาเฟ่กำลังเผชิญถูกเนรเทศกลับเกาะอังกฤษ หลังทำงานอยู่ในออสเตรเลียนาน 11 ปี: ภาพป๊อปอาร์ตโดยจิงโจ้นิวส์
1 มี.ค. 2023 จิงโจ้นิวส์เลือกข่าวนี้มาเป็นกรณีศึกษา เพราะยังมีคนอีกหลายชาติรวมถึงคนไทยที่ตกอยู่ในชะตาเดียวกับน.ส. Belinda Checkley ผู้อยู่อาศัยในออสเตรเลียมานาน 11 ปีขณะนี้กำลังถูกเนรเทศกลับอังกฤษ
น.ส. Checkley วัย 36 ปีผู้จัดการร้านคาเฟ่ที่ Byron Bay เมืองต่างอากาศริมทะเล 760 กม.ทางเหนือของนครซิดนีย์ ได้เดินเรื่องเพื่อขอสิทธิอยู่อาศัยถาวรในออสเตรเลียมาหลายปี แต่แล้วในที่สุดเธอได้รับการปฏิเสธจากกระทรวงกิจการภายในประเทศ
แม้เธอได้ความสนับสนุนจากคนในท้องถิ่น 20,000 คนเขาชื่อในหนังสือฎีกาเรียกร้องให้รัฐมนตรีกิจการภายในประเทศใช้อำนาจพิเศษในการอนุญาตให้เธออยู่ในออสเตรเลียต่อไป
แต่ข่าวร้ายได้มาถึงเธอในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เมื่อเธอได้รับอีเมลจากกระทรวงแจ้งให้ทราบว่า ในกรณีของเธอไม่เข้าข่ายใด ๆ ที่เปิดช่องให้รัฐมนตรียื่นมือเข้ามาช่วยเหลือได้
การปฎิเสธจากกระทรวงทำให้เธอและหุ้นส่วนชีวิตซึ่งเป็นคนออสเตรเลียต้องเผชิญกับการย้ายออกไปอยู่ในต่างประเทศ หลังวีซ่าชั่วคราว (bridging visa) ของเธอจะหมดอายุลงในวันอังคารที่ 7 มีนาคมที่จะถึงนี้
เธอกล่าวว่าเธอรู้สึกเหมือนกับได้ตกลงไปในรอยแตกของข้อบกพร่องทางระบบกฎหมายการเข้าเมืองของออสเตรเลีย

น.ส. Belinda Checkley ขณะทำงานที่คาเฟ่ในเมือง Byron Bay : ภาพจากน.ส. Belinda Checkley ผ่าน 9 News
น.ส. Checkley ได้เดินทางเข้ามาในออสเตรเลียโดยวีซ่าทำงาน-ท่องเที่ยวในปี 2012 นอกจากทำงานตามสิทธิ์ของวีซ่าแล้ว เธอยังเข้าศึกษาทางด้านการจัดการบริการต้อนรับ
จนกระทั่งในราวปลายปี 2015 เธอได้เข้าทำงานที่ร้านคาเฟ่ในเมือง Byron Bay ที่ซึ่งนายจ้างรับเป็นสปอนเซอร์ในการยื่นขอวีซ่าถาวรสำหรับแรงงานที่ขาดแคลนในพื้นที่เขตภูมิภาคในปี 2016
ต่อมาในปี 2018 เธอได้รับแจ้งจากกระทรวงว่า การยื่นเรื่องขอวีซ่าถาวรของเธอได้รับการปฏิเสธ
ซึ่งต่อมาเธอพบความผิดพลาดอยู่ที่ทนายความทางการเข้าเมืองผู้ทำเรื่องให้เธอได้กรอกข้อมูลยื่นเรื่องให้กับเธออย่างไม่รอบคอบเท่าที่ควร (เรื่องแบบนี้ก็มีเกิดขึ้นกับผู้ยื่นเรื่องคนไทยเช่นกัน)
แม้ถูกกระทรวงฯปฏิเสธ เธอก็ยังไม่ยอมแพ้ จึงยอมเสียเงินก้อนใหญ่อีกก้อน เพื่อว่าจ้างทนายความคนใหม่ และยื่นเรื่องอุทรณ์ต่อคณะอนุญาโตตุลาการพิจารณาคำอุทธรณ์ด้านการปกครอง (AAT)
ในช่วงรอผลอุทธรณ์นี้ เธอต้องพบกับโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่ในชีวิต เมื่อคนรักของเธอได้เสียชีวิตลงจากการฆ่าตัวตาย
แต่แล้วความซวยของเธอก็มาบังเกิดอีก เมื่อนายจ้างผู้ทำเรื่องสปอนเซอร์ให้เธอได้ตัดสินใจขายกิจการในปี 2020 ซึ่งก็เท่ากับเป็นการยกเลิกการสปอนเซอร์ของนายจ้างให้กับเธอโดยปริยาย (กรณีนี้ก็เกิดกับคนไทยที่โชคไม่ดีเช่นกัน)
อย่างไรก็ตามในปี 2021 คณะกรรมการ AAT ได้เปิดช่องทางแห่งความหวังให้กับเธอ ด้วยการผ่านเรื่องไปให้กระทรวงกิจการภายในประเทศด้วยพร้อมให้ความเห็นว่า กรณีของน.ส. Checkley น่าจะเข้าข่ายที่รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงมีอำนาจในการยื่นมือเข้ามาสอดแทรกได้

น.ส. Belinda Checkley และ Julian หุ้นส่วนชีวิตคนใหม่ของเธอ : ภาพจากน.ส. Belinda Checkley ผ่าน 9 News
แต่ความหวังสุดท้ายของเธอต้องพังทลาย ในเดือนธันวาคม 2022 กระทรวงกิจการภายในประเทศได้ตัดสินว่า กรณีของเธอไม่เข้าข่ายใด ๆ ที่รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงฯจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือได้
น.ส. Checkley กล่าวว่าเธอใช้ความพยายามอย่างสูงเพื่อให้ได้อยู่อาศัยในออสเตรเลียประเทศอันเป็นที่รักของเธอ ที่เธอต้องให้ความพยายามทั้งกำลังกาย, กำลังใจ, อารมณ์และกำลังเงิน รวมถึงค่าจ้างทนายที่จ่ายไป 60,000 เหรียญ
เธอกล่าวว่า เธอรู้สึกไม่แฟร์ที่เธอจะต้องออกไปจากประเทศ ทั้งที่ธุรกิจใน Byron Bay ขาดแคลนแรงงานอยากหนัก แม้แต่คาเฟ่ที่เธอทำงานจำต้องเปิดบริการเฉพาะในตอนกลางวัน และปิดในเวลากลางคืน เนื่องจากขาดแคลนพนักงาน
ในขณะที่รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาด้วยการเปิดรับชาวต่างชาติเข้ามาทำงาน 200,000 คน พร้อมสิทธิในการยื่นอยู่อาศัยถาวรมานับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา
น.ส. Checkly กล่าวว่า ขณะนี้เธอได้พบคู่ชีวิตคนใหม่เป็นชาวออสเตรเลียเช่นกัน ซึ่งทนายความได้แนะนำให้ทั้งคู่ออกไปในต่างประเทศ แล้วกลับเข้ามาใหม่ด้วยวีซ่าคู่สมรส
แต่ผลของการถูกยกเลิกวีซ่าปัจจุบัน จะส่งผลให้เธอไม่สามารถกลับเข้ามาในออสเตรเลียได้เป็นเวลาสามปี
(ข่าวไม่ได้บอกว่า ข้อกำหนดตามกฎหมายอันหลังนี้ ทนายความของเธอทราบบ้างหรือเปล่า)
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply