พ่อลูกกำลังพายเรือที่ไม่ใช่มาตามแม่น้ำลำคลอง แต่เป็นตามถนนหนทางในนครซิดนีย์ : ภาพป๊อปอาร์ตโดยจิงโจ้นิวส์

6 ก.ค. 2022 “I thought La Niña was over?” กลายเป็นคำถามที่ชาวรัฐนิวเซาท์เวลส์ตั้งขึ้นตามด้วย “แล้วทำไมรัฐนิวเซาท์เวลส์จึงน้ำท่วมอีกล่ะ” หนนี้ไม่ท่วมธรรมดาแต่ท่วมหนักกว่าเมื่อครั้งเกิด ‘ลานีญา’ เสียอีก

ถึง ณ วันนี้ประชาชนในรัฐนิวเซาท์เวลส์กว่า 50,000 คนได้รับคำสั่งให้อพยพหนีน้ำท่วมเรียบร้อยแล้ว และอีกหลายพันคนถูกแจ้งให้เตรียมพร้อมอพยพเพราะน้ำท่วมได้ขยายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่ประชาชนชาวซิดนีย์และปริมณฑลอีกกว่าล้านคน (millions) กำลังเผชิญกับน้ำท่วมถนน, ราขึ้นบ้านและสัตว์นานาชนิดหนีน้ำเข้ามาในบ้าน

ในเวลานี้ของปีปกติมีฝนตกชุกอยู่แล้ว แต่ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่ชาวรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐอื่น ๆ ได้รับการแจ้งเตือนว่า มีฝนตกอย่างผิดปกติมากกว่าตามฤดูกาล

ชาวสหราชอาณาจักรเป็นอีกชนชาติหนึ่งที่ติดตามข่าวสารในออสเตรเลียและก็มีคำถามเช่นเดียวกับชาวรัฐน.ซ.ว. ซึ่งสำนักข่าว BBC ในกรุงลอนดอนได้อธิบายถึงฝนตกในนครซิดนีย์ติดต่อกันสี่วันตั้งแต่วันศุกร์ที่ 1 ถึงวันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคมว่ามีปริมาณน้ำฝนเท่ากับฝนตกในกรุงลอนดอนโดยปกติทั้งปีทีเดียว

BBC ได้สอบถามผู้เชี่ยวชาญทางด้านอากาศและภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงในออสเตรเลียสามรายว่า มันเป็นความผิดปกติ? หรือเกิดจากวัฏจักรของลานีญา? หรือสาเหตุจากการแปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ?

ตัวอย่างภาพปรากฎการณ์น้ำท่วมใหญ่ในนครซิดนีย์เมื่อวานนี้ (5 ก.ค. 2022) หลังลานีญาจบสิ้นไปแล้ว : ภาพจาก Google image

ดร. Agus Satoso จากศูนย์วิจัยอากาศเปลี่ยนแปลง (CCRC) แห่งมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ (UNSW) กล่าวว่าฝนตกหนนี้พื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมหนักที่สุดคือลุ่มแม่น้ำ Hawkesbury, Nepean, Georges และแม่น้ำ Colo ต่างไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนอย่างแท้จริง

เขากล่าวว่าโดยปกติปริมาณน้ำฝนขนาดนี้จะไม่สามารถทำให้เกิดน้ำท่วมหนักถึงขนาดนี้ แต่เป็นเพราะการเกิดฝนตกหนักผิดปกติมาก่อนหน้านี้จากปรากฎการณ์ของลานีญาทำให้พื้นดินยังชุ่มไปด้วยน้ำ (แห้งไม่ทัน) ไม่ได้เป็นพื้นดินแห้งที่สามารถดูดซับน้ำได้เหมือนปีก่อน ๆ

ดร. Satoso กล่าวว่า การเกิดปรากฎการณ์ลานีญามานับตั้งแต่ปี 2020 ทำให้พื้นดินรอบลุ่มแม่น้ำมีความชุ่มชื้นกว่าปกติ

ข่าวออนไลน์จิงโจ้นิวส์วันที่ 21 มิถุนายน 2022 รายงานข่าว “สำนักงานอุตุยันลานีญาจบสิ้นแล้วแต่อาจรีเทิร์นในฤดูใบไม้ผลิ”

ส่วนเรื่องสำนักงานอุตุนิยมวิทยา (BoM) ซึ่งเพิ่งจะประกาศว่าปรากฎการณ์ลานีญาได้สิ้นสุดอย่างเป็นทางการไปแล้ว (ตามข่าวจิงโจ้นิวส์หัวข้อ “สำนักงานอุตุยันลานีญาจบสิ้นแล้วแต่อาจรีเทิร์นในฤดูใบไม้ผลิ” ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2022)

ดร. Nina Ridder จากศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านอากาศสุดขั้ว (CECE) แห่งมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ (UNSW) กล่าวว่าฝนที่กำลังตกอยู่นี้ไม่ได้เป็นผลมาจากปรากฎการณ์ลานีญาแต่เป็นระบบความกดอากาศต่ำเป็นปกติของพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกมากกว่า

แต่มีความเป็นไปได้ที่สภาพอากาศจะก่อตัวกลายเป็นปรากฎการณ์ลินีญาระลอกที่สามในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งสำนักงานอุตุนิยมวิทยาได้ระบุโอกาสเกิดลานีญาไว้ที่ 50 ต่อ 50 สำหรับเธอเชื่อว่ามีโอกาสเกิด 60 ต่อ 40

ผู้เชี่ยวชาญรายที่สามคือศาสตราจารย์ Matthew England จากศูนย์วิจัยอากาศเปลี่ยนแปลง (CCRC) แห่งมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ (UNSW) ได้ทำนายว่าผลของลานีญาในคาบสมุทรแปซิฟิกคราวนี้จะทำให้เกิดน้ำท่วมหลายจุด แล้วตามมาด้วยไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่

jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: ข่าวออสซี่, ข่าวออสเตรเลีย, น้ำท่วมฉับพลัน, ประเทศออสเตรเลีย, มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์, ลานิญา (La Nina), สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง, สภาพอากาศแปรปรวน, สำนักงานอุตุนิยมวิทยา, ออสเตรเลีย