เผยเหตุเจ้าของไร่เอาอะโวคาโดไปทิ้งวันละเป็นตัน ๆ

อะโวคาโดของเพื่อนบ้านที่ร่วงหล่นลงมาในรั้วบ้านของจิงโจ้นิวส์ บางวันสิบกว่าผล

10 พ.ค. 2022 ช่วงนี้ที่บ้านจิงโจ้นิวส์มีผลอะโวคาโดของเพื่อนบ้านหล่นลงมาในรั่วบ้านวันละหลายลูก ให้ต้องเดือดร้อนเก็บทิ้งถังลงขยะ เพราะสมาชิกในบ้านไม่มีใครชอบกินอะโวคาโด

แต่มีเรื่องน่าสนใจที่ทำให้หลายคนรู้สึกสับสนกับข่าวเกษตรกรปลูกอะโอคาโดได้ขนผลอะโวคาโดของตนไปทิ้งที่สถานทิ้งขยะ (tip) เป็นตัน ๆ ทั้งที่ช่วงนี้ราคาอาหารทุกชนิดแพงขึ้นในระดับสูงที่สุดของปี

เรื่องการนำอะโวคาโดมาทิ้งเกิดขึ้นหลังจากน.ส. Jan De Lai แห่งเมือง Atherton ในภูมิภาค Atherton Tablelands นำภาพรถบรรทุกนำผลอะโวคาโดมาทิ้งที่พิตคันแล้วคันเล่าโพสต์ลงในเฟซบุ๊กจนกลายเป็นไวรัล

ในที่สุด 7 News จึงไปขอสัมภาษณ์เธอ โดยเธอเล่าให้ฟังว่ามีรถบรรทุกนำอะโวคาโดมาทิ้งที่บ่อทิ้งขยะนอกเมืองของเธอกองเป็นภูเขา โดยไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน

ส่วนหนึ่งของผลอะโวคาโดที่เกษตรกรผู้ปลูกนำมาทิ้งที่ทิพนอกเมือง Atherton : เครดิตภาพจากเฟซบุ๊กของ Jan De Lai

ข้อสงสัยนี้ต่อมาได้รับการเฉลยโดยนาย Jim Kochi เกษตรกรในเมือง Atherton และเป็นกรรมการของสมาคม Avocados Australia กล่าวว่าอะโวคาโดที่นำมาทิ้งไม่ใช่ของเขา แต่ก็ยอมรับว่ามีการนำอะโวคาโดมาทิ้งเป็นจำนวนมากนับจากปีที่ผ่านมา

เขากล่าวว่าความต้องการอะโวคาโดได้ลดลงอย่างมากในช่วงไวรัส COVID-19 ระบาดหนักในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการประกาศล็อกดาวน์ไปพร้อมกับร้านอาหารจำต้องปิดบริการ

ส่วนในปีนี้รัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐควีนสแลนด์เกิดน้ำท้วมอย่างหนัก และยังเกิดภาวะตลาดหยุดชะงัก (คนไทยเรียกว่า disruption market )

อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เกตรกรได้วางแผนปลูกอะโวคาโดเพิ่มขึ้นในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เนื่องจากแนวโน้มทางความต้องการของตลาด ต้นอะโวคาโดที่ปลูกในตอนนั้น ในวันนี้ให้เริ่มให้ผลผลิตออกมาอย่างมากมาย

ในขณะที่แรงกดดันของค่าครองชีพท่ามกลางเงินเฟ้อระดับสูง (5.1%) และอัตราค่าจ้างเพิ่มขึ้นในระดับต่ำ ทำให้ซูเปอร์มาร์เก็ตส่วนใหญ่ขายอะโวคาโดในราคาผลละระหว่าง 1.60 ถึง 1.80 เหรียญ

นาย Kochi กล่าวว่า เนื่องจากต้นทุนทุกขั้นตอนในการทำให้อะโวคาโดไปสู่มือผู้บริโภค ที่รวมถึงค่าแรงงาน, ค่าบรรจุหีบห่อและค่าขนส่งไม่คุ้ม และเพื่อไม่ให้เกษตรกรขาดทุนมากไปกว่านี้ ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือการนำผลอะโวคาโดไปทิ้ง

เขาบอกว่า การนำเอาอะโวคาโอไปทิ้งที่ทิพไม่ใช่ของถูก แต่เกษตรกรพอรับภาระได้มากกว่าการจ้างแรงงานมาทำการคัดเลือก-บรรจุหีบห่อและค่าใช้จ่ายในการขนส่งไปยังนครบริสเบน, นครซิดนีย์และนครเมลเบิร์น

นาย Michael Harvey นักวิจัยด้านอุตสาหกรรมการเกษตรของ Rabobank กล่าวว่า แม้ออสเตรเลียจะประสบปัญหาราคาอาหารเพิ่มขึ้นสูงที่สุดนับจากปี 2011 แต่อะโวคาโดเป็นเพียงอาหารไม่กี่อย่างที่ได้รับ “แรงกดดันจากการลดค่าของเงิน”

ในขณะเดียวกันเขาเห็นว่า อุตสาหกรรมอะโวคาโดของออสเตรเลียยังมีความแข็งแกร่งต่อความสำเร็จในอนาคต

 

jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , ,

Leave a Reply

%d bloggers like this: