
ภาพนาย Paul Peters ผู้ก่อเหตุบุกรุกบ้านจับบุตรสาวมหาเศรษฐีสวมปลอกคอติดระเบิดปลอมเพื่อเรียกค่าไถ่ในปี 2011
15 มี.ค. 2022 ท่านที่ติดตามข่าวจิงโจ้นิวส์อาจพอจำได้ถึงคดีดังจากเหตุการณ์นาย Paul Peters ปฏิบัติการเรียกค่าไถ่ในปี 2011 แต่เข้าผิดบ้านไปเจอน.ส. Madeleine Pulver นักเรียนปี 12 กำลังทำการบ้าน แต่เห็นว่าเป็นลูกมหาเศรษฐีเหมือนกันจึงทำการเอาปลอกคอติดระเบิดปลอมสวมคอนักเรียนสาวทำการเรียกค่าไถ่จากบิดาของเธอ แต่แผนการล้มเหลว
ในปัจจุบันนาย Peters ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำอย่างมีทัณฑ์บนและทำงานที่โรงงานรีไซเคิลขยะแห่งหนึ่งในชนบทของรัฐนิวเซาท์เวลส์ เขาอ้างว่าเขาจำไม่ได้ว่าทำไมเขาจึงลงมือก่อเหตุเช่นนั้นได้
นาย Peters วัย 60 ปีให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ The Daily Telegraph เป็นครั้งแรกหลังจากออกจากเรือนจำ Cooma Correctional Centre ในเมือง Cooma รัฐนิวเซาท์เวลส์เมื่อหกเดือนที่ผ่านมา
ในปัจจุบันเขาทำงานใช้แรงงานกับโรงงานรีไซเคิล ที่ห่างไกลจากงานที่เขาเคยเป็นผู้บริหารของบริษัทการเงินใหญ่ เคยอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หรูในรัฐนิวเจอร์ซี่, มีเครื่องบินขับและเล่นกีฬาโปโล
นาย Peters กล่าวถึงตัวเขาว่า คือบุคคลที่ทำเรื่องยุ่งเหยิง เป็นอดีตนักกฎหมายและนายวาณิชธนกิจ และผู้ได้ทำสิ่งผิดพลาดจนต้องมารับชะตากรรมเช่นนี้

ภาพของนาย Paul Peters จาก Google Image
ตอนนี้เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ภายนอกเรือนจำ และได้สมัครเรียนปริญญาโทกับมหาวิทยาลัยซิดนีย์ในหลักสูตรกฎหมายและเศรษฐศาสตร์
#เขากล่าวถึงงานในปัจจุบันว่า เป็นงานชั่วคราว โดยหวังว่าจะกลับไปทำงานด้านการธนาคารที่เขาถนัดอีกครั้ง
นาย Peters ได้กล่าวถึงชีวิตในเรือนจำว่าลำบากมาก เทียบได้กับสภาพความเป็นอยู่ในประเทศซาอุดิอาระเบียที่เขาทำงานในทศวรรษที่ 1980s
เขากล่าวว่าเขาชอบใช้ในชีวิตการทำงานตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ยกเว้นที่ซาอุดิอาระเบียมันไม่ดีเอาเสียเลย เนื่องจากมีกฎข้อห้ามต่าง ๆ โดยเฉพาะไม่มีผู้หญิง ไม่มีการดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งไม่ต่างกับการใช้ชีวิตในเรือนจำ
ในระหว่างการพิจารณาให้ทัณฑ์บนนาย Peters นาย Bill Pulver บิดาของน.ส. Pulver ได้ทำหนังสือถึงสำนักงานพิจารณาทัณฑ์บนแห่งรัฐน.ซ.ว.ในวันที่ 6 พฤษภาคมปี 2021 คัดค้านการปล่อยตัวโดยอ้างว่า เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้บุตรสาวของเขามีอาการโรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง (PTSD) และมีอาการวิตกกังวลมาถึงปัจจุบัน
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply