
ข่าวออนไลน์สำนักข่าว SBS เสนอข่าวผู้อพยพได้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอัตราสามเท่าของผู้ที่เกิดในออสเตรเลีย : ภาพป๊อปอาร์ตโดยจิงโจ้นิวส์
13 มี.ค. 2022 รัฐบาลกลางตกที่นั่งเป็นกระโถนท้องพระโรงอีกครั้งจากการถูกกล่าวหาว่าบกพร่องต่อชุมชนผู้อพยพ หลังรายงานล่าสุดพบว่า อัตราการเสียชีวิตจากไวรัส COVID-19 ของผู้อพยพเป็นสามเท่าของผู้เกิดในออสเตรเลีย
สำนักงานสถิติออสเตรเลีย (ABS) ได้เปิดเผยตัวเลขแสดงให้เห็นว่านับจากไวรัสโคโรนา 2019 ระบาดถึง ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2021 อัตราการเสียชีวิตตามอายุมาตรฐาน (ASMR) ของผู้เกิดในต่างประเทศอยู่ที่ 4.2 คนต่อประชากร 100,000 คน ในขณะที่ผู้เสียชีวิตเกิดในประเทศอยู่ที่ 2.0 คน
และตัวเลขที่สำนักงานสถิติฯเปิดเผยตามมาถึงตัวเลขล่าสุดถึง ณ วันที่ 31 มกราคม 2022 หลังจากไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ Delta และ Omicorn คุกคาม ตัวเลขอัตราผู้เสียชีวิต ASMR ของผู้เกิดในต่างประเทศขึ้นมาอยู่ที่ 6.8 เปรียบเทียบกับผู้เกิดในประเทศอยู่ที่ 2.3
ตัวเลขใหม่แสดงอัตราการเสียชีวิตชองผู้เกิดในตะวันออกกลางอยู่ที่ 29.3 คนต่อประชากร 100,000 คนหรือกว่า 10 เท่าของผู้ที่เกิดในประเทศ
ผู้ที่เกิดในยุโรปตะวันออกมีอัตราการเสียชีวิตจาก COVID-19 อยู่ที่ 11.1 คนต่อประชากร 100,000 คน ในขณะที่ผู้ที่เกิดในเอเชีย (นิยมสวมหน้ากากอนามัย) มีอัตราการเสียชีวิตในระดับเดียวกับผู้ที่เกิดในออสเตรเลีย
พรรคฝ่ายค้านได้ใช้ข้อมูลชุดนี้กล่าวหารัฐบาลกลางของนาย Scott Morrison ว่าบกพร่องต่อชุมชนพหุวัฒนธรรมในช่วงไวรัส COVID-19 ระบาด จากความผิดพลาดในการ “แปลภาษา” และ “การให้คำแนะนำที่ไม่ทันการณ์” จากการให้ข่าวสารทางสาธารณสุขที่แจกจ่ายในภาษาต่าง ๆ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ
ทางด้านนาง Mary Patetsos ประธานสหพันธ์แห่งสภาชุมชนพหุเชื้อชาติ (FECCA) องค์กรสูงสุดของความหลายหลากทางวัฒนธรรมและภาษา (CALD) กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวนำมาสู่ “ความกังวลใจเป็นอย่างมาก” และ “ความไม่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง”
เธอกล่าวว่า ผู้อพยพจำนวนมากได้ทำงานในอุตสาหกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส COVID-19
ผู้อพยพหลายคนทำงานเสิร์ฟกาแฟ, ทำงานตามร้านอาหาร, ทำงานในร้านค้าปลีก, ทำงานที่ซูเปอร์มาร์เก็ต, ทำงานดูแลคนชราและทางด้านสุขภาพ, ทำงานขับรถบรรทุก, ขับรถแท็กซี่, ทำงานคลีนเนอร์ ซึ่งถือเป็นอาชีพที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 ในระดับสูง
นาย Paul Kelly ปลัดกระทรวงสาธารณสุขแห่งเครือรัฐออสเตรเลียได้ยอมรับว่า ที่ผ่านมามีการระบาดในพื้นที่ผู้อพยพอาศัยอยู่หนาแน่นอย่างทางตอนเหนือและตะวันตกของนครเมลเบิร์นในปี 2020 และทางตะวันตกเฉียงใต้ของนครซิดนีย์ในปี 2021
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมารัฐบาลได้ร่วมมือกับผู้นำกลุ่มชุมชนในการให้ข้อมูลของการป้องกันและการฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันมาเป็นอย่างดี
ทางด้านดร. Lucas De Toca ประธานที่ปรึกษารัฐบาลกลางในด้าน CALD COVID-19 กล่าวว่าหน่วยงานของเขาได้ทำงานอย่างหนักกับชุมชนผู้อพยพที่รวมถึงผู้ที่มาจากตะวันออกกลางตามเป้าหมายและงานที่จำเพาะเจาะจง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้นำชุมชนเป็นอย่างดี
ดร. De Toca ได้ยกตัวอยู่ชุมชนในพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของนครซิดนีย์ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยหนาแน่นของผู้อพยพจากตะวันออกกลาง พบว่าอัตราการฉีดวัคซีนได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในเดือนกรกฎาคม, สิงหาคม และกันยายนของปีที่ผ่านมาตามลำดับ
แต่นาง Petetsos แย้งว่า การทำงานของ CALD ช้าไป อันที่จริงควรทำงานให้เร็วกว่านี้ โดยเฉพาะในเรื่องของการฉีดวัคซีน
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply