ข่าวออนไลน์สำนักข่าว ABC วันที่ 2 ส.ค. 2021 เสนอข่าวนาย Mohammad Ali Halimi ถูกจำคุกตลอดชีวิตจากการสังหารนาง Ruqia Haidari วัย 21 ปี

10 ส.ค. 2021 เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องราวของหญิงสาวผู้ลี้ภัยมาจากประเทศอัฟกานิสถานถูกสามีฆ่าตาย หลังจากเขาจ่ายเงิน 15,000 เหรียญเป็นค่าสินสอดให้กับบิดามารดาของเธอ โดยที่เธอไม่มีส่วนรู้เห็นและยินยอม

นาง Ruqia Haidari วัย 21 ปีและครอบครัวของเธอได้หลบหนีออกจากอัฟกานิสถานมาอยู่ออสเตรเลียในขณะที่เธอมีอายุ 16 ปี (น่าจะปี 2014)

ในช่วงชีวิต 4 ปีเศษที่ Ruqia อยู่ในออสเตรเลีย เธอหลงรักวิถีชีวิตในประเทศใหม่ของเธอและรับเอาทุกอย่างที่สามารถรับได้จากเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน McGuire College ในเมือง Shepparton ประมาณ 180 กม.ทางตะวันออกเฉียงเหนือของนครเมลเบิร์น ก่อนมาพบสิ่งที่เธอไม่คาดฝันหลังจากจบการศึกษาชั้นมัธยมปลาย

เมื่อบิดามารดาของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับนาย Mohammad Ali Halimi พนักงานขับรถแท็กซี่ Uber วัย 26 ปี ผู้ซึ่งพา Ruqia ย้ายมาอยู่ที่ย่าน Balcatta เขต City of Stirling ในนครเพิร์ททันทีหลังจากแต่งงานในเดือนพฤศจิกายนปี 2019

Ruqia ถูกสามีฆ่าตายในวันที่ 18 มกราคม 2020 เพียงหกสัปดาห์หลังจากที่เธอแต่งงานกับเขา

ในตอนเช้าของวันสังหารนาย Halimi ได้โทรศัพท์ถึงนาย Muhammad Taqi Haidari พี่ชาย (หรือน้องชาย) ของ Ruqia จำนวนหลายครั้งตัดพ้อว่า ภรรยาสาวของเขาไม่แสดงถึงความรักใคร่เสน่หาและไม่ทำหน้าที่ของภรรยาที่ดี

ซึ่งนาย Haidari ได้แต่ฟังโดยไม่สามารถให้ความช่วยเหลือใด ๆ เมื่อเขาได้ยินเสียงทั้งสองคนถกเถียงกันที่ปลายสาย

เขาได้ยินเสียงน้องสาว (หรือพี่สาว) ร้องว่า “อย่าแตะต้องตัวฉัน..กลัวแล้ว..อย่าตีฉัน” ในขณะที่นาย Halimi บอกให้เธอหุบปาก

โทรศัพท์ถูกตัดออก แต่นาย Halimi โทรกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับบอกว่า “ถ้าแกเป็นรูปผู้ชาย มาเอาศพของน้อง(หรือพี่)สาวของแกกลับไป”

น.ส. Abbey Gawne (ขวา) เพื่อนสนิทของนาง Ruqia Haidari (ซ้าย) ถ่ายรูปร่วมกันในวันศึกษาจบชั้น 12 จากโรงเรียน McGuire College : ภาพจากเฟชบุ๊ก

น.ส. Abbey Gawne เพื่อนสนิทของ Ruqia เล่าถึงเพื่อนรักของเธอว่า Ruqia หลงรักประเทศใหม่ของเธอและมีความใฝ่ฝันที่จะท่องเที่ยวไปในโลกกว้างอย่างเสรี เธอสามารถปรับตัวเข้าประเทศใหม่และเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว จนสามารถสื่อสารกับเพื่อนได้อย่างดีเหมือนเด็ก ABC (ลูกผู้อพยพจากเอเชียโดยเฉพาะจากประเทศจีนเกิดในออสเตรเลีย)

แต่หลังจากที่เธอได้แต่งงาน Abbey ก็ไม่สามารถติดต่อกับ Ruqia ได้อีกเลย แม้จะพยายามโทรหรือส่งข้อความ SMS ก็ถูกตัดขาด Anney ได้สอบถามเพื่อน ๆ ร่วมชั้นคนอื่น ๆ ต่างก็บอกว่าไม่สามารถติดต่อ Ruqia ได้เลย จนกระทั่งได้ข่าวว่าเธอเสียชีวิต

ในการพิจารณาคดีที่ศาลฎีการัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่านาย Hilimi สังหารภรรยาของเขาด้วยการใช้มีดสแตนเลสนำมาจากห้องครัวตรงเข้าปาดคอ Ruqia เป็นจำนวนสองแผลใหญ่

หลังจากสังหารแล้วนาย Hilimi ได้เดินทางไปมอบตัวที่สถานีตำรวจ Mirrabooka ด้วยเสื้อผ้าชุ่มไปด้วยเลือด

นาย Hilimi ได้เขียนข้อความถึงศาลโดยอ้างว่า จุดแตกหักของเขาอยู่ที่ ‘เขาได้รับการปฏิเสธจากภรรยา, ความเจ็บปวดใจและความสับสน’ เป็นเหตุให้เขาเกิดบันดาลโทสะสังหารเธอ

ศาลจังได้รับฟังว่า นาย Hilimi ยังได้ส่งคลิปวิดีโอถึงครอบครัวของ Riqia ตำหนิว่าการแต่งงานของเขาไม่เป็นไปอย่างที่คาดคิด และไม่พอใจที่เธอไม่ทำอาหารและทำความสะอาดบ้าน ในขณะที่เขาต้องทำงานขับรถ Uber และทำงานในโรงงานหาเลี้ยงครอบครัว

นาย Hilimi อ้างต่อศาลว่า เขาไม่ทราบมาก่อนว่าภรรยาของเขาถูกบังคับให้แต่งงานกับเขา ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาให้ปากคำกับตำรวจว่าเป็นการแต่งงานที่ฝ่ายหญิงไม่ได้เต็มใจ

ผู้พิพากษา Bruno Fiannaca ได้ตัดสินจำคุกนาย Halimi ตลอดชีวิต แต่ให้ทำเรื่องขอปล่อยตัวอย่างมีทัณฑ์บนได้หลังจากจำคุกไปแล้ว 19 ปี

Link วิดีโอรายการ 60 Minutes Australia ในหัวขอเรื่อง “อาชญากรรมซ่อนเร้นที่กระทบต่อสตรีหลายคน” เป็นเรื่องราวของ Rania Farrah ผู้ถูกกักขังโดยบิดาของเธอในซีเรีย และบังคับให้แต่งงานโดยเธอไม่สมยอม ก่อนที่สาววัย 18 ปีจะหลบหนีกลับมาออสเตรเลีย

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์

Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: ข่าวฆาตกรรม, ข่าวรัฐควีนสแลนด์, ข่าวออสซี่, ข่าวออสเตรเลีย, คดีสามีสังหารภรรยา, ประเทศออสเตรเลีย, รัฐควีนสแลนด์, รัฐควีนส์แลนด์, สามีฆ่าภรรยา, ออสเตรเลีย, อัฟกานิสถาน, เสพสมบ่มิสม