
ข่าวออนไลน์สำนักข่าว SBS วันที่ 29 พ.ค. 2021 เสนอข่าวนาง Taryn O’Dowd ผู้ถูกเนรเทศจากออสเตรเลียไปนิวซีแลนด์โดยมีเงินสดติดตัวเพียง 300 เหรียญและถุงใส่เสื้อผ้าหนึ่งใบ ตอนนี้เธอกำลังเตรียมฟ้องกลับรัฐบาลกลางออสเตรเลีย
29 พ.ค. 2021 นาง Taryn O’Dowd ผู้ซึ่งตลอดชีวิตของเธออาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียได้ถูกเนรเทศกลับไปอยู่ประเทศนิวซีแลนด์ที่เธอถือกำเนิด โดยไม่มีโอกาสกลับมาหาลูกทั้งสองของเธอในรัฐควีนสแลนด์ เธอเป็นหนึ่งในชาวนิวซีแลนด์อีกหลายร้อยคนที่ถูกเนรเทศกลับประเทศ และผู้ถูกเนรเทศเหล่านี้กำลังรวมตัวกันเพื่อฟ้องกลับรัฐบาลกลางออสเตรเลีย
นาง O’Dowd วัย 41 ปี ปัจจุบันอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนท์เช่าในนครโอ๊คแลนด์ โดยทิ้งบุตรชาย Chase วัย 8 ขวบและ Payton บุตรสาววัย 12 ปีให้อยู่กับบิดาทางตอนเหนือของรัฐควีนสแลนด์
เธอกล่าวว่าเธอเกิดในประเทศนิวซีแลนด์ ก่อนที่บิดามารดาของเธออพยพมาอยู่ทางเหนือของรัฐควีนสแลนด์ในปี 1988 ในขณะที่เธอมีอายุ 9 ขวบ
ความรู้สึกของเธอตลอดเวลาที่ผ่านมาคือเธอเป็นคนออสเตรเลีย เหมือนกับความรู้สึกของชาวนิวซีแลนด์คนอื่น ๆ ที่อพยพเข้ามาอยู่ในออสเตรเลีย
การไม่ได้ถือสัญชาติออสเตรเลียไม่มีปัญหาใด ๆ สำหรับผู้ที่เกิดในนิวซีแลนด์อย่างเธอ จนกระทั่งในปี 2019 เธอถูกศาลตัดสินมีความผิดจากการก่อคดีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และถูกจำคุกเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน
ก่อนหน้านี้ในปี 2014 ออสเตรเลียได้แก้ไขกฎหมายทำให้ผู้ที่ไม่ได้ถือสัญชาติออสเตรเลียที่ถูกจำคุกตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป แม้จะอาศัยอยู่ในออสเตรเลียเป็นส่วนใหญ่ตลอดชีวิตของตน จะถูกเนรเทศกลับประเทศต้นกำเนิดตามคำสั่งของรัฐมนตรีกิจการภายในประเทศ
กฎหมายนี้เป็นที่รู้จักกันในนาม ‘501s’ อันเป็นอนุมาตราหนึ่งของกฎหมายการเข้าเมืองปี 1958 ที่ให้อำนาจปฏิเสธหรือยกเลิกวีซ่าบุคคล ถ้าพวกเขาไม่ผ่านการทดสอบความประพฤติ
นาง O’Dowd กล่าวว่าเธอรู้สึกเสียใจต่อความผิดที่เธอได้กระทำลงไป เธอได้รับโทษไปแล้ว และได้รับบทเรียน แต่การเนรเทศเท่ากับเป็นการตัดสินโทษตลอดชีวิตสำหรับเธอ
เธอกล่าวถึงนาย Peter Dutton รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายในประเทศที่ให้ความเห็นถึงเครื่องบินที่พาผู้ถูกเนรเทศกลับประเทศว่า “เป็นการเอาขยะออกไป” หรือ “taking the trash out” ว่าคำพูดนี้ทำให้เธอเหมือนกับ “ไม่ใช่มนุษย์และอดสูต่อการถูกทำให้ต่ำต้อย”
เธอกล่าวว่าเธอเริ่มต่อสู้เพื่อให้ได้อยู่อาศัยต่อในออสเตรเลียมาตั้งแต่ออกมาจากเรือนจำ เธอได้ต่อสู้โดยการอุทธรณ์ฺผ่านคณะอนุญาโตตุลาการด้านการจัดการ (AAT) โดยอ้างว่าเธอมีบุตรสองคนที่เกิดในออสเตรเลียที่กำลังเรียนในระดับประถม แต่เธอก็ยังถูกศาล AAT ปฏิเสธ
หลังพ้นโทษเธอถูกส่งตัวกลับประเทศนิวซีแลนด์โดยมีเงินติดมือ 300 เหรียญและถุงใส่เสื้อผ้าหนึ่งถุงเท่านั้น
นับตั้งแต่การเปลี่ยนกฎหมายการเข้าเมืองปี 2014 มีผู้ถูกเนรเทศภายใต้มาตรา 501s แล้วกว่า 2,300 คน เฉพาะในปี 2020 มีชาวนิวซีแลนด์ถูกเนรเทศทั้งสิ้น 346 คน
ขณะนี้ได้มีผู้ถูกเนรเทศชาวนิวซีแลนด์รวมถึงนาง O’Dowd ได้รวมตัวกันเพื่อร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้องรัฐบาลออสเตรเลียต่อการเนรเทศโดยอ้างว่าเป็นการละเมิดต่อสิทธิมนุษยชน
เมื่อเปรียบเทียบกฎหมายการเข้าเมืองของนิวซีแลนด์กำหนดว่า ใครก็ตามที่กระทำความผิดทางอาญา แต่ได้อาศัยอยู่ในนิวซีแลนด์ตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จะไม่สามารถเนรเทศได้
ซึ่งนาง O’Dowd อยากจะเปลี่ยนกฎหมายของออสเตรเลียมาอยู่ในระดับที่มีความเป็นธรรมเหมือนอย่างกฎหมายของนิวซีแลนด์
ในวันนี้กระทรวงกิจการภายในประเทศของออสเตรเลียได้ออกแถลงการณ์ว่า นโยบายของออสเตรเลียมีความกระจ่างและเด่นชัด ภายใต้พระราชบัญญัติการเข้าเมืองปี 1958 ระบุว่า “ใครก็ตามที่ไม่ได้ถือสัญชาติผู้ซึ่งเข้ามาในออสเตรเลียและอยู่เกินวีซ่าที่กำหนดหรือได้ก่อกิจกรรมอาชญากรรมจะต้องรับผิดชอบต่อการถูกกักตัวและเนรเทศออกจากออสเตรเลีย”
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply