
ข่าวออนไลน์สำนักข่าว SBS วันที่ 16 เม.ย. 2021 เสนอข่าวสตรีผู้เสียชีวิตจากโรคลิ่มเลือดมีแนวโน้มว่าเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน AstraZeneca
16 เม.ย. 2021 สตรีวัย 48 ปีจาก Central Coast ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้เสียชีวิตลงในวันพุธที่ 14 เมษายนด้วยโรคลิ่มเลือด ก่อนหน้านี้เธอฉีดวัคซีน AstraZeneca ในวันที่ 9 เมษายน หลังจากนั้นหนึ่งวันเธอต้องเข้าสู่กระบวนการกรองของเสียจากเลือด (การฟอกไต)
สำนักงานกำกับดูแลเวชภัณฑ์ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ (TGA) ได้ออกแถลงการณ์ว่า กลุ่มสอบสวนความปลอดภัยของวัคซีน (VSIG) ของ TGA ได้ประชุมกันในคืนวันพฤหัสฯที่ 15 เมษายนได้ผลสรุปว่า ผู้ป่วยรายล่าสุดมีลิ่มเลือดในเส้นหลอดเลือดแดงและเส้นหลอดเลือดดำ (thrombosis) ด้วยเกล็ดเลือดต่ำ (thrombocytopenia) ที่มีแนวโน้ม (is likely) ว่าจะเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน
ผลการชันสูตรศพพลิกศพจะดำเนินการในสัปดาห์หน้า
สตรีวัย 48 ปีถือเป็นบุคคลที่ 3 ที่เกิดอาการโรคลิ่มเลือดหลังจากการฉีดวัคซีน AstraZeneca ในออสเตรเลีย และเป็นผู้เสียชีวิตรายแรก ส่วนอีกสองคนยังคงรับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล คาดว่าจะหายเป็นปกติในเร็ววันนี้
สตรีผู้เสียชีวิตได้รับวัคซีนเพียงไม่กี่วันก่อนที่ทางการจะประกาศว่าวัคซีน AstraZeneca เหมาะสำหรับผู้มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
ผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่ม VSIG กล่าวว่าสตรีผู้เสียชีวิตมีอาการป่วยอยู่แล้วหลายโรคด้วยกันรวมถึงโรคเบาหวาน
ถึงวันนี้มีผู้รับการฉีดวัคซีน AstraZeneca ไปแล้ว 885,000 โดส มีผู้เกิดอาการโรคลิ่มเลือด 3 คนหรือเทียบสัดส่วน 1 ต่อ 295,000 โดส
การเสียชีวิตของสตรีวัย 48 ปีเกิดขึ้นหลังจากประเทศเดนมาร์กเป็นประเทศแรกที่ประกาศหยุดใช้วัคซีน AstraZeneca ในขณะที่สหราชอาณาจักรได้เสนอทางเลือกวัคซีนอื่นแก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 30 ปี
เดนมาร์กยังระงับการฉีดวัคซีน Johnson & Johnson เป็นการชั่วคราวหลังจากพบว่าวัคซีนของค่ายนี้อาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคลิ่มเลือดเช่นกัน
ในขณะที่เยอรมนีและฝรั่งเศสได้เปลี่ยนมาใช้วัคซีน AstraZeneca สำหรับผู้สูงอายุ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสหภาพยุโรปได้ประกาศว่า การเกิดโรคลิ่มเลือดมีความเป็นไปได้ถึงความเชื่อมโยงกับวัคซีน AstraZeneca แต่อย่างไรก็ตามความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากไวรัส COVID-19 มีความเสี่ยงสูงมากกว่าความเสี่ยงจากการเสียชีวิตจากการเกิดอาการข้างเคียงหลายเท่า (เขาใช้คำว่า much greater than )
ก่อนหน้านี้นาย Scott Morrison นายกรัฐมนตรีได้สัญญาว่าชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่จะมีภูมิคุ้มกันภายในเดือนตุลาคม แต่แผนการฉีดวัคซีนต้องล่าช้าออกไป อันเนื่องมาจากความเสี่ยงของการเกิดโรคลิ่มเลือดจากการฉีดวัคซีน
ขณะนี้วัคซีน Pfizer จำนวน 2 ล้านโดสกำลังเดินทางมาออสเตรเลีย แต่จะไม่ได้ช่วยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 50 ปีได้รับการฉีดจนกระทั่งอย่างน้อยเดือนตุลาคม
นาย Morrison กล่าวว่า เขาหวังว่าชาวออสเตรเลียทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อยโดสแรกภายในสิ้นปีนี้ และยังไม่ขอให้คำรับประกัน
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply