
31 มี.ค. 2021 สตรีชาวไทยผู้ถูกกล่าวหาเป็นนักสแกมเมอร์ลวงรัก โดยมีชายว้าเหว่ผู้ร่ำรวยเป็นเหยื่อแก๊งฉ้อฉลรวมเป็นเงิน 9.7 ล้านเหรียญ ได้รับการปฏิเสธการประกันตัวเป็นครั้งที่สี่ หลังจากถูกปฏิเสธการกระกันตัวในการขึ้นศาลครั้งที่สามเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
นาง Siriluck Fatima Chimmalee (ศิริลักษณ์ พาติมา ฉิมมาลี) วัย 28 ปีถูกดำเนินคดีกว่า 100 ข้อหา ที่เกี่ยวข้องกับกลโกงลวงรักที่ซับซ้อน (sophisticated romance scam) กับชายในรัฐนิวเซาท์เวลส์โดยผ่านแพลตฟอร์มหาคู่ออนไลน์
และเกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อฉลมูลค่า 90.7 ล้านเหรียญโดยมีเหยื่อเป็นคนในชุมชนชาวไทยในออสเตรเลีย
เธอถูกกล่าวหาได้แสดงตัวเป็นผู้ส่งและจัดการเงินจดทะเบียนรับอนุญาต พร้อมโฆษณารับแลกเปลี่ยนเงินโดยมีดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยตายตัว
เป็นต้นว่าเธอได้เสนอโครงการ ‘Money-saving Schemes’ ว่า ถ้างลงทุน 1,000 เหรียญกับเธอ ผู้ลงทุนจะได้รับเงิน 60 เหรียญในทุก 10 วันเป็นเวลา 3 เดือน

ตำรวจได้ตั้งหน่วยปฏิบัติการ Strike Force McKeon เพื่อทำการสอบสวนการฟอกเงินและแก๊งฉ้อฉล ทำให้ผลการสแกมลวงรักเกิดขึ้น จากบุคคลที่เธอติดต่อทางแอพพลิเคชั่นหาคู่ แล้วใฃ้ข้อมูลของเหยื่อเหล่านี้ในการยื่นขอเงินกู้และบัตรเครดิต และทำการจดทะเบียนธุรกิจเพื่อหวังให้ได้สินเชื่อเพิ่มขึ้น
เมื่อตำรวจเข้าจับกุมเธอที่บ้านย่าน South Strathfield ตำรวจได้ยึดสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมที่รวมถึงร้องเท้า Louis Vuitton และ Gucci, กระเป๋า Prada และ Chanel bags และโทรศัพท์มือถือ

ที่ศาลฎีการัฐน.ซ.ว.ในวันพุธที่ 30 มีนาคมนางศิริลักษณ์ไม่สามารถทำให้ศาลเชื่อว่าเธอถูกตั้งข้อหาอย่าง “ไม่ยุติธรรม”, หลักฐานจากสำนักงานอัยการ “มีข้อบกพร่อง” และการสอบสวนของตำรวจเป็นไปอย่าง “ไม่เหมาะสม”
นางศิริลักษณ์ปฏิบัติการฉ้อฉลด้วยการโฆษณาตนเองว่าเป็นนักกฎหมาย, นักบิน, นักศึกษาแพทย์, แพทย์, ทันตแพทย์ และนักค้าประเป๋าแบรนด์เนม เธอถูกตั้งข้อหา 103 ข้อห้าที่รวมถึงฉ้อฉล, ฟอกเงิน, การได้รับผลประโยชน์ทางการเงินโดยไม่สุจริตหรือการทำให้ผู้อื่นตกเป็นเหยื่อทางการเงินโดนการหลอกลวง ฯลฯ

เธอยังถูกกล่าวหาว่าได้เสนอโอนเงินดอลล่าร์ออสเตรเลียเป็นเงินบาทให้กับลูกค้าด้วยอัตราที่ดีกว่าธนาคาร
ผู้พิพากษา Richard Button ได้ให้เหตุผลในการปฏิเสธการให้ประกันตัวว่า ว่ามีความเสี่ยงสูงว่าเธอจะไม่กลับมาพิจารณาคดีหากได้รับการปล่อยตัว และเกรงว่าเธออาจออกไปข่มขู่พยาน
อย่างไรก็ตามเธออ้างว่าข้อกล่าวหาที่เธอโทรศัทพ์ไปถึงพยานคนหนึ่งในขณะถูกกักกันในเดือนกันยายนปี 2020 ว่า “เป็นไปไม่ได้” เพราะบัญชีการใช้โทรศัพท์ของเรือนจำในขณะนั้นระบุว่าเธอได้คุยกับทนายความของเธอ
นางศิริลักษณ์ซึ่งหนนี้ได้ขึ้นว่ากล่าวด้วยตนเองโดยไม่ใช้ทนายได้ปฏิเสธว่าเธอไม่ทราบว่าหมายเลขโทรศัพท์ของพยานไปปรากฎอยู่ในบัญชีการโทรศัพท์ของเธอได้อย่างไร
(สื่อมวลชนของทีวีช่องหนึ่งระบุว่านางศิริลักษณ์ได้โทรศัพถึงเหยื่อคนหนึ่งเป็นจำนวนถึง 112 ครั้งในระหว่างถูกคุมขัง)

เธออ้างว่าข้ออ้างข้อคัดค้านดังกล่าวเป็นสิ่ง “ยอมรับไม่ได้, ให้อภัยไม่ได้ และไม่เป็นความจริง” รวมถึงข้อหาที่ว่าเธอหลอกลวงเงินเกือบ 10 ล้านเหรียญก็ไม่เป็นความจริง
ผู้พิพากษา Button กล่าวว่า ถ้าแม้สำนวนคดีของอัยการจะไม่ “หนาแน่นมากเกินไป” ศาลก็ไม่เห็นด้วยต่อการให้ประกันตัวจำเลย
จากข้อมูลของคณะกรรมการหลักทรัพย์และการลงทุนแห่งออสเตรเลีย (ASIC) ได้ทำการเขาตรวจสอบกิจการสองแห่งที่มีนางศิริลักษณ์เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นแต่ผู้เดียวที่ทำหน้าที่รับเงินจากลูกค้าคือ Sydney Organic Supplier Pty Ltd. และ Real Money Transfer Pty Ltd. ทั้งสองถูกสั่งปิดในปี 2020
ศาลยังได้รับฟังว่าเหยื่อของนางศิริลักษ์ยังได้แยกกันฟ้องร้องดำเนินคดีในประเทศไทย
นางศิริลักษณ์มีกำหนดมาขึ้นศาลครั้งต่อไปในวันที่ 9 เมษายน
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวคนไทยในออสเตรเลีย, ข่าวออสเตรเลีย
ผมยังประสบปัญหาการโพสต์กับเวอร์ชั่นใหม่ที่ได้รับ ได้ศึกษาวิธีการโพสต์ จากทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ มาหลายคลิปแล้ว ก็ยังไม่ตรงกับเวอร์ชั้นนี้ ยังเป็นห่วงว่ารายงานต่อไป เป็นสรุปสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งยาวเหยียดจะใช้เวลากี่ชั่วโมง
21.32 น. 4 เม.ย. 20221