ข่าวออนไลน์สำนักข่าว ABC วันที่ 5 มี.ค. 2021เสนอข่าววัคซีน AstraZeneca ผลิตในประเทศชุดแรกจะออกมาในวันที่ 22 มีนาคมนี้
6 มี.ค. 2021 ศาสตราจารย์ Brendan Murphy เลขาธิการกระทรวงสาธารณสุขแห่งเครือรัฐออสเตรเลียได้แถลงต่อที่ประชุมคณะนายกรัฐมนตรีแห่งชาติ (National Cabinet ชื่อเดิมคือ COAG) ว่าบริษัท CSL ในนครเมลเบิร์นขณะนี้มีความพร้อมต่อการผลิตวัคซีน AstraZeneca ชุดแรก (เฟิร์สท์แบตช์) ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคมเป็นต้นไป
ซึ่งดร. Andrew Nash หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของบริษัท CSL ยืนยันว่า CSL จะสามารถผลิตวัคซีนออกมาในอัตรา 1 ล้านโดสต่อสัปดาห์ได้ตามเป้าหมาย
สำหรับวัคซีน AstraZeneca ที่นำเข้าจากยุโรป งวดแรก 300,000 โดส ขณะนี้ได้เริ่มฉีดให้ประชาชนแล้วตั้งแต่วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม
ส่วน AstraZeneca งวดที่สอง 250,000 โดสนำเข้าจากอิตาลีได้ถูกสั่งระงับโดยรัฐบาลอิตาลีและสหภาพยุโรป เนื่องจากพวกเขาต้องการกันวัคซีนไว้สำหรับฉีดให้กับประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปก่อนส่งออกต่างประเทศ
ทั้งกระทรวงสาธารณสุขและนาย Scott Morrison นายกรัฐมนตรีออกมากล่าวว่า การขัดขวางวัคซีนจากทวีปยุโรปจะกระทบต่อแผนการฉีดวัคซีนในออสเตรเลียไม่มากนัก
นาย Morrison ได้ยอมรับสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ในอิตาลีว่าแตกต่างจากออสเตรเลียมาก ที่นั่นประชาชนต้องเสียชีวิตในอัตราวันละ 300 คน ในขณะที่ไวรัส COVID-19 ยังระบาดอย่างหนักทั่วทวีปยุโรป
ข่าวออนไลน์ 9 News วันที่ 6 มี.ค. 2021 เสนอข่าววัคซีน AstraZeneca จะผลิตออกมาล็อตแรก 1 ล้านโดสต่อสัปดาห์นับจากวันที่ 22 มีนาคมเป็นต้นไป
ออสเตรเลียมีข้อตกลงในการรับวัคซีนจากบริษัท AstraZeneca ทั้งสิ้น 53.8 ล้านโดส ในจำนวนนี้ 3.8 ล้านโดสเป็นการนำเข้าจากยุโรป และอีก 50 ล้านโดสผลิตโดยบริษัท CSL ในออสเตรเลีย
อย่างไรก็ตามศ. Murphy กล่าวว่า ออสเตรเลียยังคงทำงานร่วมกับ AstraZeneca ถึงแผนการนำส่งวัคซีนที่เหลืออีก 8.5 ล้านโดสในอนาคต
สำหรับสถานการณ์ COVID-19 ของออสเตรเลียในวันนี้ มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 9 คนทุกคนเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศถูกพบติดเชื้อในขณะถูกกักกันอยู่ในโรงแรม
ในวันนี้ออสเตรเลียปลอดจากผู้ติดเชื้อภายในประเทศเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply