
ภาพประกอบข่าวศาลตัดสินจำคุกนาย Baramee Janorat เป็นเวลา 12 ปีในข้อหาขับรถชนรถของสามีภรรยาวัยชราเสียชีวิตในขณะอยู่ภายใต้อิทธิพลของยาเสพติด / ภาพบนที่สองจากซ้ายคือนาย Baramee ในชุดเครื่องแบบทหารไทย
16 ก.พ. 2021 นาย Baramee Janorat (บารมี จะโนรัตน์) อดีตพระสงฆ์ผู้ซึ่งอยู่ภายใต้ฤทธิ์ยาเมทแอมเฟตามีนอย่างหนักในขณะขับรถพุ่งชนรถของสองตายายชาววิกตอเรีย ได้ถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 12 ปี
ในวันนี้ศาลเคาตี้ (County Court) ได้ติดสินให้นายบารมีปัจจุบันอายุ 24 ปีจำคุกเป็นเวลา 12 ปี โดยได้สิทธิ์ทำเรื่องขอปล่อยตัวอย่างมีทัณฑ์บนได้หลังจำคุกไปแล้ว 7 ปี 2 เดือน จากความผิดขับรถในลักษณะอันตรายจนเป็นเหตุให้นาย Robert วัย 69 ปีและนาง Lynette Anderson วัย 68 ปีเสียชีวิตและความผิดอื่น ๆ โดยเหตุเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมปี 2019
ผู้พิพากษาหญิง Rosemary Carlin กล่าวว่านายบารมีผู้ถือใบอนุญาตขับขี่ป้าย P (ใบขับขี่มือใหม่ต้องหาประสบการณ์ 3 ปีก่อนได้ใบขับขี่จริง) ในขณะฆ่านายและนาง Anderson
ในวันเกิดเหตุนายบารีได้ขับรถกลับบ้านหลังจากเสร็จสิ้นงานเป็นช่างปูน ขณะขับผ่านย่าน Sunbury เขต City of Hume ทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครเมลเบิร์น จู่ ๆ เขาได้เปลี่ยนเลนมาชนรถของนายและนาง Anderson เข้าอย่างจังทำให้เกิดเสียงดังสนั่น
ผู้พิพากษา Carlin กล่าวว่าการเปลี่ยนช่องทางจราจนอย่างกระทัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่สองสามีและภรรยาจะหลบหลีกรถยนต์ของนายบารมีได้ทัน
ผู้เห็นเหตุการณ์ (มี s) ให้การตรงกันว่าเห็นนายบารมีขับรถแบบบ้าระห่ำ ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุรถชน เขาได้ขับรถเฉี่ยวกับรถคันหนึ่งอย่างหวัดหวิด โดยเขาได้ชูนิ้วกลางให้กับรถคันนั้น
หลังจากชนรถของนายและนาง Anderson เจ้าหน้าที่พบเข็มฉีดยาที่สูบยาเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนเข้าหลอดพร้อมฉีดอยู่ใกล้มือของเขา นอกจากนั้นยังตรวจพบว่าเขามีระดับยาไอซ์, เคตามีนและเฟนตานิลในกระแสเลือดในระดับสูงมาก
นายบารมีเกิดในประเทศไทย เคยรับราชการทหารในกองทัพไทยและเคยบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทศาสนาเป็นเวลา 9 เดือน
นายบารมีถูกสื่อฯตั้งฉายาว่า ex-commando Buddhist monk ก็เนื่องจากจำเลยเคยเป็นอดีตทหารและอดีตพระภิกษุ
ในระหว่างพิจารณาคดีมีพระสงฆ์สองรูปขึ้นเป็นพยานฝ่ายจำเลยกล่าวถึงนายบารมีว่าเป็นผู้ที่น่านับถือ, มีความคิดรอบครอบและทำงานขยันหมั่นเพียร
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวคนไทยในออสเตรเลีย, ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply