สู่เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
เข้าสู่ปลายฤดูร้อน
ออสเตรเลียเข้าสู่เดือนสุดท้ายของฤดูร้อนในเดือนกุมภาพันธ์ ฤดูร้อนปีนี้ไม่ร้อนเหมือนปีที่ผ่านมา แถมยังมีฝนตกให้เย็นสบายด้วยอุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียสอยู่หลายวัน อันเนื่องมาจากอิทธิพลของปรากฎการณ์ลานิญาในมหาสมุทรแปซิฟิก
ส่วนภาพด้านบนเป็นภาพดอกกัมทรี (gumtree flower) ของเพื่อนบ้านติดกัน ผมใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายไว้เมื่อต้นเดือนมกราคม
เพื่อนบ้านครอบครัวนี้ผมเคยเล่าให้ฟังว่ามีลูกสาวสามใบเถาหน้าตาดีทุกคน คนโตสวยที่สุด ในช่วง COVID-19 ระบาดเธอจะทำงานอยู่ที่บ้าน นั่งโต๊ะตรงหน้าต่างหน้าบ้านอีกบานหนึ่ง เมื่อเธอเห็นผมออกมาทำสวนหน้าบ้าน ก็จะโบกมือทักทายกัน บางครั้งก็จะออกมาทักทาย
ช่วงสองสามเดือนมานี้เธอหายไป มาทราบจากผู้เป็นบิดาว่าเธอลาออกจากงานออฟฟิซไปทำงานเป็น Lollipop Lady หรือพนักงานถือป้าย ‘stop’ และ ‘slow’ อยู่ริมถนน งานนี้แม้จะตกต่ำไม่ตกสูงเหมือนทำงานเช็ดกระจกอาคารสูง แต่หากขยันสามารถทำรายได้ถึง 130,000 เหรียญต่อปี (ประมาณ 3 ล้านบาท) ทีเดียว สูงกว่าทำงานออฟฟิซสองสามเท่าตัว
ประชาธิปไตยต้องรับฟังความเห็นของคนกลุ่มน้อย

ภาพนาง Margaret Court ผู้ถูกคนส่วนใหญ่ขอให้คณะกรรมการพิจารณาเครื่องราชเรียกคืนเครื่องราชฯชั้น COA ที่เพิ่มมอบให้กลับคืนมา
หัวข้อที่ขออนุญาตหยิบมาเล่าสู่กันฟังในสู่เดือนกุมภาพันธ์เป็นเรื่องของสิทธิของคนเสียงน้อย
หากจะจำกันได้ออสเตรเลียจัดให้มีผลสำรวจทางไปรษณีย์การแต่งงานเพศเดียวกันที่เรียกกันอย่างย่อว่า SSM ทั่วทั้งประเทศในเดือนพฤศจิกายนปี 2017 ปรากฎว่ามีผู้ตอบ Yes 61.6% ชนะขาดผู้ตอบ No 38.4% เป็นผลให้รัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านซึ่งสนับสนุน SSM ทั้งคู่เร่งแก้กฎใหม่การแต่งงานเพศเดียวกันให้ทันก่อนวันคริสต์มาสเพื่อเป็นของขวัญให้กับประชาชน

ข่าวออนไลน์ Jingjonews วันที่ 15 พ.ย. 2017 เสนอข่าวผลโหวตแต่งงานเพศเดียวกัน (SSM) คนออสซี่เทเสียง Yes ท่วมท้น นายกฯรับลูกแก้กฎหมายโดยเร่งด่วน
แต่ก่อนที่กฎหมายจะออกมา จำเป็นจะต้องมีกฎหมายคุ้มครองคนส่วนน้อย ซึ่งก็คือผู้ที่ตอบ No 38.4% มูลเหตุเรื่องนี้ส่วนหนึ่งมาจากข่าวคราวคนส่วนน้อยถูกคนส่วนใหญ่รังแกอย่างต่อเนื่อง ที่เป็นข่าวดังก็คือกรณีนาง Madlin Sims นายจ้างไล่น.ส. Mandeline ลูกจ้างออกจากงาน เนื่องจากเธอลงข้อความในสื่อสังคมออนไลน์สนับสนุนการโหวต No
สาว Mandeline เองก็ประสบความยุ่งยากในการหาช่องทางทางกฎหมายในการเอาผิดนายจ้าง แม้กระทั่งจะอาศัยกฎหมายการเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม

ข่าวออนไลน์ Jingjonews วันที่ 20 พ.ย. 2017 เสนอข่าวนาย Scott Morrison นายกรัฐมนตรีเบรคพ.ร.บ.แต่งงานเพศเดียวกันของรัฐบาลของตน โดยเห็นว่าต้องเพิ่มการคุ้มครองคนเสียงข้างน้อยที่โหวต No เข้าไปด้วย
อย่างในกรณีของนาง Margaret Court อดีตนักเทนนิสที่มีชื่อเสียงของออสเตรเลียและเป็นผู้ออกมาต่อต้านการแต่งงานเพศเดียวกัน วันชาติปีนี้เธอได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น Companion of the Order of Australia ในฐานะผู้ทำคุณนามความดีต่อประเทศชาติ
ทันทีที่มีการเปิดเผยชื่อนาง Margaret Court ได้รับเครื่องราชฯ ได้มีผู้ได้รับเครื่องราชฯทั้งปัจจุบันและอดีตออกมาทยอยขอคืนเครื่องราชฯเพื่อเป็นการประท้วงผู้มีความเห็นต่อต้านการแต่งงานเพศเดียวกันรายนี้อาทิเช่น แพทย์หญิงจากแคนเบอร์ร่า Clara Tuck Meng Soo, นักข่าวซื่อดัง Kerry O’Brien, ศิลปินชื่อดัง Peter Kingston, ศ.พญ. Caroline de Costa และพระนิกายยูไนเต็ดเชิร์ช Alistair Macrae เป็นต้น
เธอยังได้รับการโจมตีจากสื่อมวลชนค่ายต่าง ๆ อย่างสาดเสียเทเสีย รวมถึงจากนาย Daniel Andrews นายกรัฐมนตรีรัฐวิกตอเรียอีกด้วย

หนังสือพิมพ์ The West Australian ฉบับ 28 มกราคม 2021 อ้างถึงการชักนำความเห็นของสาธารณชนมาตัดสินกรณีเครื่องราชฯของนาง Margaret Court เรียกได้ว่าเป็นการเอาเสียงข้างมากของประชาชนมาตัดสินในเรื่องของปัจเจกบุคคล
สำหรับประวัติของนาง Margaret Court ปัจจุบันอายุ 78 ปี เป็นแชมป์เทนนิสหญิงเดี่ยวแกรนด์สแลมรายการออสเตรเลียโอเพ่นปี 1960, 1961, 1962, 1963, 1964, 1965, 1966, 1969, 1970, 1971, 1973
รายการเฟรนโอเพ่นปี 1962, 1964, 1969, 1970, 1973
รายการวิมเบิลดันปี 1963, 1965, 1970
รายการยูเอสโอเพ่นปี 1962, 1965, 1969, 1970 และ 1973
เป็นแชมป์เทนนิสหญิงคู่แกรนด์สแลมออสเตรเลียโอเพ่นปี 1961, 1962, 1963, 1965, 1969, 1970, 1971, 1973
รายการเฟรนโอเพ่นปี 1962, 1964, 1969, 1970, 1973
รายการวิมเบิลดันปี 1964, 1969
รายการยูเอสโอเพ่นปี 1963, 1968, 1970, 1973 และ 1975
เธอยังเป็นแชมป์คู่ผสมแกรนด์สแลมออสเตรเลียโอเพ่นปี 1963, 1964, 1965, 1969
รายการเฟรนโอเพ่นปี 1963, 1964, 1965, 1969
รายการวิมเบิลดันปี 1963, 1965, 1965, 1968, 1975
รายการยูเอสโอเพ่นปี 1961, 1962, 1963, 1965, 1969, 1969, 1970, 1972
และยังเป็นแชมป์รายการสำคัญอื่น ๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าเธอเป็นนักเทนนิสไร้เทียมทาน ที่ยังนึกไม่ออกมามีนักเทนนิสคนใดในโลกนี้ทั้งอดีตและปัจจุบันเทียบเท่าเธอได้
ผมเห็นว่าด้วยผลงานขนาดนี้เกินพอสำหรับเครื่องราชฯ COA และเห็นว่าหลักการประชาธิปไตยที่ดีควรเคารพในคนเห็นต่างที่ไม่ได้ขัดต่อกฎหมายและความสงบเรียบร้อยอันดีของประชาชน
นับจากนี้ไปผมกล้า ๆ กลัว ๆ สวมหน้ากากอนามัยออกจากบ้าน กลัวมีคนชี้หน้าด่า

ข่าวออนไลน์ Jingjonews วันที่ 2 ม.ค. 2021 เสนอข่าวรัฐน.ซ.ว.บังคับสวมหน้าการอนามัยในซิดนีย์และปริมณฑลฝ่าฝืนปรับ 200 เหรียญ
เมื่อรัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์ประกาศบังคับให้ชาวนครซิดนีย์และปริมณฑลต้องสวมหน้ากากอนามัยเป็นครั้งแรก โดยมีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 4 มกราคม แม้จะมีผลบังคับเฉพาะในอาคารปิดและเมื่อใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เท่านี้ก็ทำให้ผมมีความสุขมากที่สามารถสวมหน้ากากอนามัยออกจากบ้านไปไหนมาไหน เช่นเดียวกับหลายคน โดยไม่มีใครมองด้วยสายตารังเกียจเดียดฉันท์ เหมือนเมื่อก่อนหน้านี้ ซึ่งผมสวมหน้ากากเป็นประจำเมื่อออกจากบ้าน
แต่เมื่อรัฐบาลประกาศยกเลิกกฎข้อบังคับสวมหน้ากากอนามัยตั้งแต่วันเสาร์ที่ 31 มกราคม ถึงวันนี้ผมยังไม่กล้าออกจากบ้าน กลัวเจอเหตุอย่างเพื่อนบ้านคู่สามีภรรยา ‘จรกากับบุษบา’
ผู้เป็นสามีอพยพมาจากอินโดนีเซียมีหน้าตาตรงขามกับอิเหนาแต่จิตใจหมอนี่หล่อมาก ๆ กับภรรยาสาวสวยผมบลอนด์ตาสีฟ้า คู่นี้ทุกครั้งที่ออกนอกบ้านต้องสวมหน้ากากอนามัยมาหลายเดือนแล้ว แต่เมื่อวานนี้ถูกไอ้พวกบ้าชี้หน้าด่าว่า “รัฐบาลประกาศยกเลิกไม่ต้องสวมหน้ากากแล้ว ไม่ได้ติดตามข่าวกับเขาบ้างหรือ?.”
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply