ออสเตรเลียฉงนเหตุไฉนออสซี่ติดรับมือโควิด-19 แค่อันดับที่ 8

ข่าวออนไลน์สำนักข่าว ABC วันที่ 30 ม.ค. 2021 รายงานถึงการรับมือกับไวรัสโคโรนา 2019 ของเจ็ดประเทศที่ดีกว่าออสเตรเลีย

30 ม.ค. 2021 สถาบัน Lowy Institute ได้จัดอันดับประเทศรับมือกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 โดยออสเตรเลียถูกจัดอยู่ในอันดับที่แปดของโลก ตามหลังนิวซีแลนด์ที่ถูกจัดอันดับหนี่ง เวียดนามอันดับสอง ไต้หวันอันดับสามและไทยอันดับที่สี่

ข่าวดังกล่าวทำให้ชาวออสเตรเลียบางคนผิดหวังนิด ๆ เพราะประเมินว่าประเทศของตนทำได้ดี สามารถสยบการระบาดของไวรัสระลอกที่สองที่เกิดในนครเมลเบิร์นได้อย่างราบคาบ จัดการควบคุมการระบาดเล็ก ๆ ช่วงคริสต์มาส กำราบการระบาดในนครซิดนีย์ในช่วงเดือนมกราคมอย่างดีเยี่ยม สามารถตัดไฟแต่ต้นลมไม่ให้เกิดการแพร่กระจายไวรัสกลายพันธุ์จากสหราชอาณาจักรในนครบริสเบนเป็นอย่างดีเยี่ยม และถึงวันนี้ออสเตรเลียปลอดจากผู้ติดเชื้อภายในท้องถิ่นทั่วประเทศเป็นวันที่ 13 ติดต่อกัน

ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการระบาดระลอกที่สอง มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ระดับเฉลี่ยวันละ 690 คนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา, นิวซีแลนด์ถูกออสเตรเลียยกเลิกการจับคู่ประเทศท่องเที่ยว (travel bubble) ในสัปดาห์นี้หลังจากมีผู้ติดเชื้อ COVID-19 ภายในประเทศเพิ่มขึ้น และเวียดนามมีรายงานผู้ติดเชื้อภายในประเทศวันเดียวสูงสุด 89 คนในวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา

สำนักข่าว ABC ได้รายงานถึงบทเรียนการรับมือของประเทศที่ได้รับการจัดอันดับจากสถาบัน Lowy ดีกว่าออสเตรเลีย 7 ประเทศ ซึ่งจิงโจ้นิวส์ขออนุญาตนำเสนอสองประเทศดังนี้

ประเทศนิวซีแลนด์

อาวุธเด็ดคือ : กลยุทธ์ในการกำจัด(อย่างเฉียบขาด)

ภาพเส้นกร๊าฟแสดงผู้ติดเชื้อ COVID-19 สะสมนับจากรายที่ 100 และจำนวนวันนับจากผู้ติดเชื้อรายที่ 100 เปรียบเทียบระหว่างออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์

นิวซีแลนด์ดำเนินยุทธวิธีจัดการกับไวรัส COVID-19 อย่างที่หลายประเทศทำ แต่ด้วยความที่ประเทศเป็นเกาะ และใช้วิธีไม้แข็งและรวดเร็ว (hard and fast) ด้วยการล็อคดาวน์ประชาชนตั้งแต่เริ่มเกิดการระบาดแต่เนิ่น ๆ

ผิดกับออสเตรเลียที่ใช้วิธี ‘ยับยั้งการแพร่กระจายเชื้อ’ แต่นิวซีแลนด์ใช้วิธีจัดการกำจัดเชื้อจากจุดเริ่มต้น หลังจากการล็อคดาวน์อย่างเข้มงวดเป็นเวลา 7 สัปดาห์ไวรัส COVID-19 ก็หายไปจากประเทศ

นิวซีแลนด์ยังประสบความสำเร็จในการสื่อสารระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับประชากร และสิ่งสำคัญก็คือประชาชนให้ความร่วมมือกับทางการเป็นอย่างดี

นิวซีแลนด์ยังได้นำเอาเทคโนโลยี ‘การจัดอันดับจีโนม’ มาใช้ (genomic sequencing หรือการหาลำดับเบสของดีเอ็นเอ) ซึ่งทำให้เห็นว่าการล็อคดาวน์อย่างเข้มงวดได้ผลดีตั้งแต่เริ่มแรก ภายในสัปดาห์แรกการแพร่เชื้อได้ลดลงจากผู้ติดเชื้อ 7.0 ลงเหลือที่เฉลี่ย 0.2

ในขณะที่การปิดพรมแดนได้สร้างความเสียหายให้กับภาคการท่องเที่ยวของนิวซีแลนด์อย่างหนัก แต่มันก็ทำให้ประเทศปลอดจากการติดเชื้อ ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้รับผลกระทบไม่มากนัก

ประเทศไทย

อาวุธเด็ดคือ : กองทัพอาสาสมัคร

ภาพเส้นกร๊าฟแสดงผู้ติดเชื้อ COVID-19 สะสมนับจากรายที่ 100 เปรียบเทียบระหว่างออสเตรเลียกับประเทศไทย จิงโจ้นิวส์คาดว่ายอดผู้ติดเชื้อสะสมของไทยมีโอกาสแซงออสเตรเลียภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

ประเทศไทยขณะนี้กำลังเผชิญกับการระบาดของไวรัส COVID-19 ในระลอกที่สอง กระจายในหมู่แรงงานจากประเทศพม่าที่อยู่กันอย่างแออัดภายในสถานที่พักอาศัยในจังหวัดสมุทรสาคร แต่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ตื่นตระหนกกับการระบาดครั้งนี้ โดยอาศัยที่ประเทศไทยประสบความสำเร็จกับการควบคุมการระบาดมาก่อนหน้านี้

ประเทศไทยก็เหมือนกับไต้หวันที่มีเครือข่ายสาธารณสุขที่เข้มแข็งซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ไม่มีชาติใดเสมอเหมือน คือมีอาสาสมัครอยู่ทุกแห่งทั่วประเทศซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่ได้รับการฝึกอบรมพื้นฐานด้านการแพทย์ (เขาหมายถึงอสม.หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน)

อาสาสมัครเหล่านี้มีอยู่กระจายอย่างมีระบบอยู่ในทุกหมู่บ้านทั่วประเทศไทย จะทำหน้าที่ไปเคาะประตูตามบ้านตลอดช่วงปี 2020 เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนถึงวิธีการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัส, แก้ไข้ข้อมูลข่าวสารที่ผิดพลาด, เสนอให้หน้ากากอนามัย, เจลล้างมือและอุปกรณ์อื่น ๆ และให้ข้อมูลอัพเดทถึงมาตราการล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข

อสม.ยังทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินเช่นให้ความสะดวกหรือส่งผู้ป่วยที่มีอาการไปตรวจคัดกรองการติดเชื้อ, ทำหน้าที่สอดส่องดูแลคนแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่และบังคับใช้ตามคำสั่งกักกันตัว

ด้วยการทำงานของอสม.บวกกับมาตรการล็อคดาวน์, ทีมงานแพทย์และพยาบาลที่เสียสละ, การคัดกรองอย่างดีเลิศที่สนามบินและตามสถานที่สาธารณะอื่น ๆ พร้อมกับความร่วมมือของคนไทย ทำให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการยับยั้งการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , , ,

Leave a Reply

%d bloggers like this: