หนุ่มสาวยุคใหม่รักธรรมชาติแต่กามโรคพุ่งเพราะไม่สวมถุงยางอนามัย

นสพ. The Daily Telegraph ฉบับ 15 ม.ค. 2021 เสนอข่าวกลุ่ม Eco-sexuals ปฏิเสธถุงยางอนามัย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อกามโรคสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

16 ม.ค. 2021 คนหนุ่มสาวชาวออสเตรเลียรุ่นใหม่มีความห่วงใยต่อผลกระทบทางธรรมชาติเพิ่มขึ้น จึงก่อเกิดกลุ่มที่มีกิจกรรมทางเพศไปพร้อมกับการอนุรักษ์ธรรมชาติหรือ Eco-sexuals มีแนวความคิดปฏิเสธการใช้ถุงยางอนามัย จนก่อให้เกิดความกังวลต่อการแพร่เชื้อกามโรค

กลุ่ม Eco-sexuals มีความยึดมั่นในการดำรงชีวิตโดยไม่ใช้พลาสติก ทำให้พวกเขาปฏิเสธการใช้ถุงยางอนามัย โดยอ้างว่ามันทำมาจากวัตถุดิบที่ย่อยสลายไม่ได้และปกคลุมไปด้วยสารเคมี

จึงไม่แปลกอะไรที่ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อคลามีเดีย (chlamydia) และโรคหนองใน (gonorrhea) เพิ่มสูงขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มคนหนุ่มสาว

จากตัวเลขทางสถิติพบว่าในปี 2008 มีชาวรัฐนิวเซาท์เวลส์ติดเชื้อกามโรคคลามีเดียทั้งสิ้น 13,945 คน ในปี 2019 ตัวเลขได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่กว่า 32,000 คน แต่ยอดในปี 2020 ได้ลดลงเหลือประมาณ 26,106 คนอันเนื่องมาจากผลของการระบาดของไวรัส COVID-19 และกฎการเว้นระยะห่างทางสังคมซึ่งเป็นมาตราการที่กลุ่ม Eco-sexuals ยอมรับ

ตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับผู้ติดเชื้อหนองในของผู้อยู่อาศัยในรัฐน.ซ.ว. ในปี 2016 มีผู้ติดเชื้อหนองในทั้งสิ้น 7,004 คน ในปี 2019 เพิ่มเป็น 11,702 คน แต่ในปีที่ผ่านมาลดลงเหลือ 9,551 คน

ถุงยางอนามัยทำจากสารโพลียูรีเทน (polyurethane สารทดแทนยางธรรมชาติ) ที่ไม่ย่อยสลายและนำมารีไซเคิลได้ ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถตอบได้ว่าถุงยางอนามัยจะต้องใช้เวลากี่ปีจึงจะย่อยสลายได้หมด

ถุงยางอนามัยที่ผลิตจากหนังแกะที่อาจเป็นทางออกเพราะมันสามารถย่อยสลายได้ แต่มันไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ (STI) ได้และได้มาจากสัตว์

กลุ่ม vegan (กลุ่มที่เคร่งกว่าผู้ถือมังสวิรัติและมีหัวรุนแรงกว่า) เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ต่อต้านการใช้ถุงยางอนามัยที่ทำมาจากสัตว์

ประมาณกันว่าในแต่ละปีมีผู้ใช้ถุงยางอนามัยทั่วโลก 9 พันล้านชิ้น หลังจากใช้แล้วส่วนใหญ่ไปจบลงที่บ่อทิ้งขยะ

ศจ. John Scott ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทางเพศแห่งมหาวิทยาลัยควีนสแลนด์เทคโนโลยี่กล่าวว่าสื่อสังคมออนไลน์ที่เสนอข่าวมองโลกในแง่ร้าย ที่รวมถึงจากกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติในการต่อต้านการใช้ถุงยางอนามัย มีส่วนทำให้การสวมถุงยางอนามัยลดน้อยลง

นาง Renee Buckingham นักรณรงค์ระดับทรงอิทธิพลของกลุ่ม vegan เจ้าของโครงการ Sydney and Melbourne Vegan Guide กล่าวว่าชุมชน vegan มองเห็นผลประโยชน์ของสิ่งแวดล้อมมากกว่าความปลอดภัยของตนเอง จึงไม่แปลกที่พวกของเธอต่อต้านการสวมถุงยางอนามัยและต่อต้านการฉีดวัคซีน

ทางด้านพญ. Danielle McMullen ประธานสมาคมแพทย์ (AMA) รัฐน.ซ.ว.ได้เรียกร้องให้ประชาชนปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนที่จะใช้วิธีอื่น ๆ รวมถึงการใช้ถุงยางอนามัยทางเลือกอื่นในระหว่างการร่วมเพศแทนการสวมถุงยางอนามัยทำจากโพลียูรีเทน

เธอยอมรับว่า ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แต่การตั้งครรภ์โดยไม่ได้วางแผนและการติดเชื้อกามโรคก็เป็นปัญหาทางสุขภาพที่สำคัญเช่นกัน

เธอกล่าวว่าถุงยางที่ใช้ป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะนี้ก็คือถุงยางทำจากโพลียูรีเทน แต่ถุงยางทางเลือกอื่นขณะนี้ยังไม่มีชนิดได้ป้องกันไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์ หรือการติดเชื้อ STI ที่รวมถึงเชื้อ HIV

พญ. McMullen ยังกล่าวถึงการรับประทาน PrEP (PreExposure Prophylaxis ยาต้านเชื้อ HIV) ที่นิยมในกลุ่มชายลักร่วมเพศแทนการใช้ถุงยางอนามัยว่า อาจจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี แต่ไม่สามารถต้านเชื้อ STI อื่น ๆ ได้ ดังนั้นการใช้ถุงยางอนามัยจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: Uncategorized

Tags: , , , , , , ,

Leave a Reply

%d