ข่าวออนไลน์ 7 News วันที่ 24 ธ.ค. 2020 เสนอข่าวผลวิจัยไวรัสโควิด-19 ใหม่แสดงให้เห็นว่าหน้ากากอนามัยสามารถสกัดกั้นละอองจากการไอได้ 99.99% แม้กระทั่งเป็นหน้ากากอนามัยทำจากผ้ากรองชั้นเดียว

24 ธ.ค. 2020 จิงโจ้นิวส์เคยรายงานข่าวครูโรงเรียนรัฐบาลไล่นักเรียนกลับบ้านเมื่อนักเรียนคนนั้นเชื่อพ่อแม่ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หรือข่าวคนเอเชียถูกชกเพราะถูกมองว่าทำเรื่องไร้สาระด้วยการสวมหน้ากากมาเดินในที่สาธารณะ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องตลกเพราะช่วงหนึ่งชาวออสเตรเลียจำนวนไม่น้อยเห็นเป็นเช่นนั้น แม้แต่นาย Scott Morrison นายกรัฐมนตรี, นักการเมืองและผู้อยู่ในวงการแพทย์ระดับแนวหน้าของออสเตรเลียก็มีความเห็นต่อต้านการสวมหน้ากากอนามัย จนกระทั่งเวลาผ่านไปพวกเขาจึงเริ่มฉลาดขึ้น

ผลการวิจัยครั้งล่าสุดที่เพิ่งพิมพ์เผยแพร่ตอกย้ำว่าความเชื่อของชาวโลกตะวันตกที่มีอคติต่อหน้ากากอนามัยเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ แท้จริงแล้วหน้ากากอนามัย “มีประสิทธิภาพสูงมาก” ในการลดการแพร่กระจายของละอองทางเดินหายใจซึ่งเป็นตัวกระจายเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเอดินบะระ (University of Edinburgh หรือมหาวิทยาลัยเอดินเบิร์กแล้วแต่จะเรียก) ในสกอตแลนด์รายงานว่า ผลการวิจัยพบว่าหน้ากากอนามัยสามารถช่วยลดการติดเชื้อไวรัส COVID-19 และอาจรวมถึงไวรัส COVID-19 กลายพันธุ์ในกลุ่มสายพันธุ์ SARS-Co V-2 ได้อย่างได้ผลมาก

(หมายเหตุ รายงานนี้ออกมาในวันเดียวกับที่สหราชอาณาจักรแถลงข่าวพบไวรัส COVID-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์ที่สองซึ่งก็น่าจะป้องกันการติดเชื้อด้วยการสวมหน้ากากอนามัยเช่นกัน)

รายงานผลการศึกษาชุดนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Royal Society Open Science Journal เมื่อวันพุธที่ 23 ธันวาคม พบว่าบุคคลที่ยืนห่างจากบุคคลอื่นที่กำลังไอ 2 เมตรในขณะที่ตนไม่ได้สมหน้ากากอนามัยจะได้รับละอองจากการไอเป็น 10,000 เท่าของบุคคลที่ยืนใกล้ชิดกันเพียง 0.5 เมตรโดยสวมหน้ากากในขณะที่อีกคนหนึ่งไอ

คณะวิจัยกล่าวว่า การไอหรือจามเป็นสาเหตุใหญ่ของการแพร่กระจายเชื้อไวรัส COVID-19

และพบว่าหน้ากากอนามัยเพียงแค่ทำจากผ้าฝ่ายชั้นเดียวก็สามารถลดการแพร่กระจายของละอองทางเดินหายใจได้ถึง 99.9% เรียกได้ว่าเป็นการป้องกันด้านแรกที่ได้ผลชะงัด (ขนาดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ที่ดีที่สุดเท่าที่ค้นพบได้ในปัจจุบันให้ผลที่ดีที่สุดระหว่าง 75% ถึง 95% เท่านั้น)

คณะวิจัยได้ทำการทดลองครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยการใช้หุ่นในการจำลองวิถีของละอองทางเดินหายใจจากการไอ, การพูด, ร้องเพลงและการตะโกน ก่อนที่จะหันมาทดลองกับมนุษยจริง ๆ

ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าหน้ากากสำหรับแพทย์ผ่าตัดสวมใส่และหน้ากากอนามัยทั่วไปสามารถช่วยหยุดละอองทางเดินหายใจไม่ให้ผ่านเข้าไปสู่ระบบทางเดินหายใจของผู้สวมใส่ได้

ในกรณีไวรัสกลายพันธุ์ SARS-Co V-2 หากกระจายเชื้อมีขนาดละอองเล็กลง การเว้นระยะทางทางสังคมไปพร้อมกับการสวมหน้ากากอนามัยจะสามารถช่วยลดการติดเชื้อได้ในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตามทีมงานวิจัยยอมรับว่า ยังไม่ได้ศึกษาถึงผลกระทบในกรณีที่หากละอองของเชื้อไวรัสกลายพันธุ์รุ่นต่อ ๆ ไปมีขนาดเล็กลง

ลิงค์คลิปวิดีโอจาก The Howard Stern Show ซึ่งมีผู้ติดตาม 1.12 ล้านคน เล่าถึงชาวอเมริกันต่อต้านการสวมหน้ากากอนามัยเวลาเข้าไปในซูเปอร์มาเก็ตและห้างร้านในช่วงไวรัส COVID-19 ระบาด จึงไม่แปลกใจใด ๆ ที่ตอนนี้ประเทศประชาธิปไตยที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้มีแค่สองพรรคการเมืองใหญ่อย่างสหรัฐมีผู้ติดเชื้อ COVID-19 เข้าไปแล้วกว่า 18,600,000 คน และเสียชีวิตกว่า 329,000 คน

ในขณะที่จีนประเทศที่ปกครองด้วยระบอบสาธารณรัฐประชาธิปไตยแบบรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีพรรคเดียว แถมมีระบอบสาธารณสุขที่แย่กว่าสหรัฐมาก แต่ได้ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยป้องกันกันทั่วหน้า ณ วันนี้มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 86,899 คนและเสียชีวิต 4,634 คน

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์

Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: การสวมหน้ากากอนามัย, ข่าวออสซี่, ข่าวออสเตรเลีย, ข่าวโรคระบาด, จีน, ประเทศออสเตรเลีย, สก๊อตแลนด์, สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, ไวรัสโคโรนา 2019 COVID-19