นักเศรษฐศาสตร์เตือนเอ-ดอลล่าร์แข็งตัวเข้าสู่ระดับอันตราย

นักเศรษฐศาสตร์เตือนเอ-ดอลล่าร์แข็งตัวเข้าสู่ระดับอันตราย

10 ธ.ค. 2020 แม้ไวรัสโคโรนา 2019 จะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกถดถอย แม้จีนจะปฏิบัติการล้างแค้นจิงโจ้ด้วยมาตรการทางการค้า แต่สิ่งที่ยากต่อการปฏิเสธก็คือเศรษฐกิจของออสเตรเลียกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เพราะผลกระทบจาก COVID-19 น้อยกว่าหลายประเทศและไม่มีความขัดแย้งภายทางการเมืองแต่อย่างใด

จากรายงานผลการศึกษาของ National Australia Business พบว่าสถานภาพทางเศรษฐกิจของออสเตรเลียตอนนี้มีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าในช่วงก่อนไวรัส COVID-19 ระบาดเสียอีก

ซึ่งผลของมันจะทำให้เงินดอลล่าร์ออสเตรเลียเขยิบค่าขึ้น ค่าเงินเอ-ดอลล่าร์เคยตกลงต่ำที่สุดที่ 57.4 เซนต์สหรัฐเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ในวันนี้ได้เขยิบมาอยู่ที่ 75.2 เซนต์สหรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ค่าเงินที่แข็งขึ้นเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ในขณะเดียวกันก็จะเป็นตัวชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ซึ่ง NAB มองว่าขณะนี้ค่าเงินได้แข็งตัวเร็วเกินไป จนอาจจะไปคุกคามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศ ผลของมันจะทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่งออกสูงขึ้น โดยเฉพาะสินแร่เหล็ก

NAB กล่าวว่า นอกจากนั้นอัตราดอกเบี้ยก็มีอิทธิพลต่อค่าเงินดอลล่าร์ออสเตรเลีย

เมื่อมองดูอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของออสเตรเลียในปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำจนเข้าใกล้ 0% แต่อัตราดอกเบี้ยของออสเตรเลียก็ยังอยู่ในระด้บสูงเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยของทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา

ผู้สูญเสียจากค่าเงินดอลล่าร์เพิ่มขึ้น

สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูงหากดอลล่าร์ออสเตรเลียสูงกว่า 75 เซนต์สหรัฐได้แก่กลุ่มโรงงานการผลิตและกลุ่มเกษตรกรรม

อุตสหกรรมการท่องเที่ยวก็ได้รับผลกระทบ เนื่องจากการท่องเที่ยวในออสเตรเลียจะมีต้นทุนสูงขึ้นสำหรับชาวต่างชาติ

ผู้อยู่ในกลุ่มเหมืองแร่เหล็กอาจสามารถรอดพ้นจากความเสียหาย เนื่องจากความต้องการในตลาดโลกยังแข็งแกร่ง (แม้แต่จีนล่าสุดไดเพิ่มบัญซีกีดกันทางการค้ากับผู้ส่งออกเนื้อวัวมากรายยิ่งขึ้น ลามไปถึงเนื้อแกะและไม้ท่อน แต่ก็ยังไม่คว่ำบาตรสินแร่เหล็กที่จีนมีความต้องการสูง)

นอกจากนั้นกลุ่มผู้ส่งออกขนาดเล็กนับหมื่นรายก็จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากค่าเงินที่สูงขึ้นเช่นกัน

ผลกระทบที่จะตามมาก็คือการจ้างงานใหม่ในอุตสาหกรรมเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น

ผู้ได้ประโยชน์จากค่าเงินดอลล่าร์ที่เพิ่มขึ้น

ผู้ได้รับผลประโยชน์ก็คือกลุ่มผู้บริโภค เพราะจะได้ซื้อสินค้านำเข้าในราคาถูกลง

และกลุ่มผู้ที่เข้ามาทำงานเพื่อส่งเงินกลับไปเลี้ยงครอบครัวในต่างประเทศก็จะได้อัตราแลกเปลี่ยนที่สูงขึ้น

ท่าทีของธนาคารกลาง

ในขณะนี้ธนาคารกลาง (RBA) กำลังอยู่ในกระบวนการซื้อธนบัตรรัฐบาลมูลค่า 100 พันล้านเหรียญจากตัวกลางทางการเงินขนาดใหญ่อย่างเช่นธนาคารพาณิชย์ของใหญ่และจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

การซื้อธนบัตรรัฐบาลจะส่งผลกระทบต่อการเพิ่มขึ้นของราคาพันธบัตรและทำให้ผลตอบแทนหรือดอกเบี้ยลดต่ำลงจนขาดแรงจูงใจ ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่จะมีส่วนช่วยหยุดยั้งค่าเงินดอลล่าร์ออสเตรเลียไม่ให้สูงจนเกินไป

Breaking point

NAB เห็นจุด Breaking point (จำไม่ได้ว่าสมัยเรียนหนังสือครูบาอาจารย์สอนให้เรียกว่าอะไร ต้องกราบขออภัย) ก่อนหน้านั้นธนาคารกลางกำหนดไว้ที่ 70 เซนต์สหรัฐ (ตามที่จิงโจ้นิวส์เคยรายงานเอาไว้) เมื่อมาถึงจุดนี้ธนาคารกลางก็จะเริ่มโครงการซื้อธนบัตรรัฐบาลคืน

ในปัจจุบันธนาคารกลางได้ปรับจุดแตกหักนี้มาอยู่ที่ 75 เซนต์สหรัฐ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงนี้พอดี การซื้อพันธบัตรจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง

หมายเหตุ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 เงิน 1 ดอลล่าร์ออสเตรเลียเท่ากับ 75 เซนต์สหรัฐและเท่ากับ 22.54 บาท (ข้อมูลกลางจาก google.com.au ณ เวลา UTC 12.48 น. 10/12/2020)

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , ,

Leave a Reply

%d bloggers like this: