สรุปสถานการณ์ไวรัส COVID-19 วันที่ 27 พ.ย. 2020 / รัฐวิกตอเรียผ่านฉลุยไม่มีผู้ติดเชื้อ COVID 28 วันติดต่อกัน

ข่าวออนไลน์นสพ. The Mercury วันที่ 27 พ.ย. 2020 เสนอข่าวภาพซึ่ง ๆ ที่สนามบินโฮบาร์ทหลังจากรัฐแทสเมเนียเปิดพรมแดนรับผู้ที่เดินทางมาจากรัฐวิกตอเรียโดยไม่ต้องถูกกักกันตัวในโรงแรมเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 9 เดือน ในภาพลูกและหลานชูป้ายต้อนรับคุณแม่และคุณยาย(หรือคุณย่า)

27 พ.ย. 2020 ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมในออสเตรเลียในช่วงห้าวันที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 53 คนรวมเป็น 27,874 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 907 คน และผลการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศกระทำไปแล้ว 9,914,605 คน พบอัตราการติดเชื้อโดยเฉลี่ยที่ 0.3%

ในวันนี้เหลือผู้ป่วยติดเชื้อทั้งสิ้น 1,583 คน (ในช่วงห้าวันที่ผ่านมามีป่วยรักษาตัวเพิ่มขึ้นอีก 8 คน) เป็นผู้เข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ 21 คน (ห้องไอซียู 0 คน) ส่วนที่เหลือเก็บตัวพักฟื้นอยู่ตามบ้านพักและสถานที่พักส่วนบุคคล

รัฐวิกตอเรียผ่านฉลุยไม่มีผู้ติดเชื้อ COVID เป็นวันที่ 28

ข่าวออนไลน์สำนักข่าว ABC วันที่ 27 พ.ย. 2020 เสนอข่าวรัฐวิกตอเรียเข้าใกล้วันกำจัดเชื้อโคโรนา 2019 และรัฐน.ซ.ว.กำลังตามหลังมาอย่างไม่ไกล แต่ก็ยังไม่สามารถอุ่นใจกับความสำเร็จนี้

รัฐวิกตอเรียเข้าสู่วันที่ 27 โดยไม่มีผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ติดต่อกันและไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่แม้แต่รายเดียว ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ของวันนี้ (ที่จะรายงานอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้) ก็ไม่มีผู้ติดเชื้อ นั่นหมายถึงรัฐวิกตอเรียผ่านช่วงปลอดผู้ติดเชื้อเป็นเวลา 28 วันอย่างแน่นอน เท่ากับไม่มีผู้ติดเชื้อใด ๆ ตามคำจำกัดความขององค์การอนามัยโลก

(อาจมีต่อ)

นสพ. The NT News ฉบับ 27 พ.ย. 2020 เสนอข่าวศูนย์ Howard Spring ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองดาร์วินซึ่งใช้เป็นที่กักกันชาวออสเตรเลียที่ตกค้างในต่างประเทศมาเป็นอย่างดี ตอนนี้พร้อมรับได้อีกเท่าตัว ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อใน NT ที่เพิ่มขึ้นก็ถูกพบในสถานกักกันแห่งนี้นี่เอง ดังนั้น ยอ.หอ….อย่างห่วง

สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกล่าสุด

ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมทั่วโลก 50 ประเทศแรก ณ เวลา 23.00 น. ของวันที่ 27 พ.ย. 2020 จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้ว 61,165,359 คน แยกเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา 12,895,752 คน, อินเดีย 9,309,787 คน, บราซิล 6,204,220 คน, ฝรั่งเศส 2,235,641 คน, รัสเซีย 2,196,691 คน, สเปน 1,617,355 คน, สหราชอาณาจักร 1,578,437 คน, อิตาลี 1,509,875 คน, อาร์เจนตินา 1,399,431 คน, โคลัมเบีย 1,280,487 คน, เม็กซิโก 1,078,594 คน, เยอรมนี 1,017,830 คน, โปแลนด์ 958,416 คน, เปรู 956,347 คน, อิหร่าน 922,397 คน, แอฟริกาใต้ 778,571 คน, ยูเครน 712,249 คน, เบลเยี่ยม 567,532 คน, ชิลี 567,532 คน, อิรัก 547,215 คน,  อินโดนีเซีย 522,581 คน, เนเธอร์แลนด์ 516,905 คน, สาธารณรัฐเช็ค 511,520 คน, ตุรกี 503,738 คน, บังคลาเทศ 458,711 คน, โรมาเนีย 457,848 คน, ฟิลิปปินส์ 425,918 คน, ปากีสถาน 389,311 คน, แคนาดา 357,099 คน, ซาอุดิอาระเบีย 356,691 คน, โมร็อกโค 340,684 คน, อิสราเอล 333,802 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 318,290 คน, โปรตุเกส 280,394 คน, ออสเตรีย 270,992 คน, สวีเดน 243,129 คน, เนปาล 229,343 คน, จอร์แดน 203,021 คน, ฮังการี 198,440 คน, เอกวาดอร์ 188,138 คน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 165,250 คน, ปานามา 160,287 คน, เซอร์เบีย 155,994 คน, โบลิเวีย 144,390 คน, ญี่ปุ่น 142,749 คน, คูเวต 141,876 คน, สาธารณรัฐโดมินิกัน 140,922 คน, กาตาร์ 138,250 คน, บัลกาเลีย 136,628 คน, และคอสตาริก้า 153,742 คน,/

จีน 92,580 คน, เกาหลีใต้ 32,887 คน, ออสเตรเลีย 27,874 คน,และประเทศไทย 3,961 คน (ออสเตรเลียอยู่ในอันดับที่ 96 ของโลก / ไทยอยู่อันดับที่ 144 ของโลก ในห้าวันนี้ไทยมีผู้ป่วยเพิ่ม 48 คน)

ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัส COVID-19 สูงสุด

และผู้เสียชีวิตจากข้อมูลของมหาวิทยลัยจอห์นฮอปกินส์มีทั้งสิ้น 1,435,374 คน แยกผู้เสียชีวิตจากมากไปหาน้อยดังนี้ สหรัฐ 263,525 คน, บราซิล 171,460 คน, อินเดีย 135,715 คน, เม็กซิโก 104,242 คน, สหราชอาณาจักร 57,128 คน, อิตาลี 52,850 คน, ฝรั่งเศส 51,042 คน, อิหร่าน 47,095 คน, สเปน 44,374 คน, รัสเซีย 38,175 คน, อาร์เจนตินา 37,941 คน, โคลัมเบีย 36,019 คน, เปรู 35,785 คน, แอฟริกาใต้ 21,289 คน, อินโดนีเซีย 16,521 คน, เบลเยี่ยม 16,219 คน, โปแลนด์ 16,147 คน, เยอรมนี 15,664 คน, ชิลี 15,278 คน, เอกวาดอร์ 13,316 คน, ตุรกี 13,014 คน, ยูเครน 12,292 คน, อิรัก 12,167 คน, แคนาดา 11,819 คน, โรมาเนีย 10,884 คน, เนเธอร์แลนด์ 9,343 คน, โบลิเวีย 8,939 คน, ฟิลิปปินส์ 8,255 คน, ปากีสถาน 7,897 คน, สาธารณรัฐเช็ค 7,779 คน, สวีเดน 6,681 คน, อียิปต์ 6,596 คน, บังคลาเทศ 6,544 คน, ซาอุดิอาระเบีย 5,857 คน, และโมนาโค 5,619 คน, /

จีน 4,742 คน, ญี่ปุน 2,021 คน, ออสเตรเลีย 907 คน (แยกเป็นวิกตอเรีย 819 คน, น.ซ.ว. 53 คน, แทสเมเนีย 13 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 9 คน, ควีนสแลนด์ 6 คน, เซาท์ออสเตรเลีย 4 คนและ ACT 3 คน) เกาหลีใต้ 516 คน,และประเทศไทย 60 คน

ประเทศที่มีผู้หายป่วยแล้วจากมากไปหาน้อย

มีผู้ป่วยได้รับการรักษาจนหายแล้วข้อมูลจากสารนุกรมเสรีวิกิพีเดียมีทั้งสิ้น 39,193,425 คน เรียงจากมากไปหาน้อย อินเดีย 8,718,517 คน, สหรัฐอเมริกา 6,431,883 คน, บราซิล 5,528,599 คน, รัสเซีย 1,712,174 คน, อาร์เจนตินา 1,226,649 คน, โคลัมเบีย 1,181,753 คน, เปรู 887,019 คน, เม็กซิโก 803,581 คน, แอฟริกาใต้ 716,444 คน, เยอรมนี 675,847 คน, อิตาลี 661,180 คน, อิหร่าน 640,065 คน, ชิลี 522,259 คน, โปแลนด์ 516,636 คน, อิรัก 474,376 คน, อินโดนีเซีย 437,456 คน, สาธารณรัฐเช็ค 431,874 คน, ตุรกี 392,616 คน, ฟิลิปปินส์ 387,616 คน, บังคลาเทศ 373,657 คน, ซาอุดิอาระเบีย 345,215 คน, ปากีสถาน 335,811 คน, โรมาเนีย 326,657 คน, ยูเครน 326,238 คน, อิสราเอล 320,821 คน, โมร็อกโค 289,808 คน, แคนาดา 280,923 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 222,100 คน, เนปาล 209,435 คน, ออสเตรีย 203,251 คน, โปรตุเกส 199,446 คน, เอกวาดอร์ 164,009 คน, ฝรั่งเศส 158,236 คน, สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ 152,708 คน,และปานามา 140,976 คน,/

ญี่ปุ่น 118,135 คน (เหลือผู้ป่วย 19,305 คน สถานการณ์น่าเป็นห่วง), จีน 81,558 คน (เหลือผู้ป่วย 303 คน อยู่ในระดับน่าพอใจ), สิงคโปร์ 58,104 คน (เหลือผู้ป่วย 63 คน อยู่ในระดับดีมาก), ออสเตรเลีย 25,384 คน (เหลือผู้ป่วย 1,646 คน), เกาหลีใต้ 27,103 คน (เหลือผู้ป่วย 5,268 คน สานการณ์ไม่สู้ดี), ประเทศไทย 3,790 คน (เหลือผู้ป่วย 111 คน), (หมายเหตุ ที่มีวงเล็บต่อท้ายเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยจนเหลือต่ำกว่า 2,500 คน และสหราชอาณาจักรเป็นประเทศเดียวที่ไม่มีรายงานผู้หายป่วยมาตั้งแต่แรก)

ภาพกร๊าฟของกระทรวงสาธารณสุขเครือรัฐออสเตรเลียแสดงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระหว่างวันที่ 22 ม.ค. 2020 ถึง 27 พฤศจิกายน 2020 ในรูปแบบของกร๊าฟแท่งสีฟ้าแสดงยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน / นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ถึง 27 พ.ย. 2020 ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่เฉลี่ยวันละ 130.2 คน / ส่วนกร๊าฟเส้นสีเหลืองแสดงยอดผู้ป่วยสะสมในระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2020 ถึง 27 พ.ย. 2020

ภาพกร๊าฟปัจจัยการเจริญเติบโต (growth factor) ของวันที่ 27 พฤศจิกายน 2020 อยู่ที่ 0.99 ออสเตรเลียกลับมาควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ไว้ได้อีกครั้งเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน และในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วประเทศอยู่ที่เฉลี่ยวันละ 12 ราย : ข้อมูลจากสำนักข่าว ABC

รายงานยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในออสเตรเลีย

ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากตัวเลขล่าสุดโดยกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย ณ 15.00 น. ของวันที่ 27   พฤศจิกายน 2020 มีผู้ติดเชื้อสะสม 27,874 คน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในช่วงห้าวัน 53 คน นับจากเวลา 15.00 น.ของเมื่อวานนี้สามารถแยกผู้ป่วยเป็น

รัฐวิกตอเรีย 20,345 คน, รัฐน.ซ.ว. 4,556 คน (เพิ่มขึ้น 18 คน), รัฐควีนสแลนด์ 1,198 คน (เพิ่มขึ้น 5 คน), รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย 817 คน (เพิ่มขึ้น 18 คน), รัฐเซาท์ออสเตรเลีย 560 คน (เพิ่มขึ้น 5 คน), รัฐแทสเมเนีย 230 คน, ออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี 116 คน (เพิ่มขึ้น 1 คน), นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี 52 คน (เพิ่มขึ้น 6 คน)

ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขเครือรัฐออสเตรเลียวันที่ 27 พฤศจิกายน 2020 แสดงจำนวนวันที่แต่ละรัฐและดินแดนปลอดจากผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่ รัฐแทสเมเนียปลอดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นวันที่ 107 ติดต่อกัน และรัฐวิกตอเรียปลอดเชื้อโคโรนา 2019 เป็นวันที่ 27 ติดต่อกัน

ยอดผู้เสียชีวิตสะสมที่ 907 คน มีผู้รักษาหายแล้ว 25,384 ราย, มีการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศแล้วกว่า 9,914,000 คน โดยพบผู้ติดเชื้อในอัตรา 0.3%

นสพ. The Advertiser ฉบับ 26 พ.ย. 2020 เสนอข่าวรัฐเซาท์ออสเตรเลียหลังจากเจอดราม่าพนักงานร้านพิซซ่าติดเชื้อโควิด-19 โกหกเพื่อปิดบังตัวเองทำงานจนก่อให้เกิดการล็อคดาวน์ วันนี้นาย Steven Marshall นายกรัฐมนตรีรัฐเซาท์รัฐ SA ได้ใช้ทหารในการความคุมระบบกักกันผู้เข้าเมืองในโรงแรม (medi-hotel) เพื่อหวังหยุดการแพร่กระจายเชื้อไวรัส ซึ่งทหารยอมมีขีดความสามารถ,ประสิทธิภาพและความรับผิดชอบดีกว่าใช้วัยรุ่นตกงานที่ไม่มีประสบการณ์และขาดความรับผิดชอบ หลังจากรัฐ SA พบผู้ติดเชื้ออีกหนึ่งคนทำให้หวั่นว่าจะเกิดการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนขึ้นใหม่ที่ Woodville High ต่อจากแหล่ง Parafield Cluster หากเอาไม่อยู่ก็อาจจะต้องมีการล็อคดาวน์จริง ๆ “No Drama”

ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศนิวซีแลนด์และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนยอดผู้ติดเชื้อในนิวซีแลนด์ในวันนี้อยู่ที่ 2,047 คน (เพิ่มขึ้น 19 คน) มีผู้เสียชีวิต 25 คน และรักษาหายแล้ว 1,956 คน

ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สะสมเรียงจากมากไปหาน้อยดังนี้ อินโดนีเซีย 522,581 คน (เพิ่มขึ้น 24,913 คน), ฟิลิปปินส์ 425,918 คน (เพิ่มขึ้น 7,100 คน), พม่า 86,633 คน (เพิ่มขึ้น 7,387 คน), มาเลเซีย 61,861 คน (เพิ่มขึ้น 7,086 คน อยู่ในสถานการณ์น่าเป็นห่วง แซงสิงคโปร์อีกครั้ง), สิงคโปร์ 58,199 คน (เพิ่มขึ้น 39 คน ได้ชื่อว่าบริหารจัดการได้ดีที่สุดของโลก), ไทย 3,961 คน (เพิ่มขึ้น 48 คน ควบคุมสถานการณ์ได้ดี แต่อยู่ในภาวะเปราะบางจากการลักลอบเข้าเมืองของชาวพม่าโดยผ่านช่องทางธรรมชาติและการประท้วงภายในประเทศ), เวียดนาม 1,339 คน (่เพิ่มขึ้น 32 คน), กัมพูชา 307 คน (เพิ่มขึ้น 1 คน), บรูไน 150 คน (เพิ่มขึ้น 2 คน), ติมอร์-เลสเต 30 คน,และลาว 25 คน (วิกีพีเดียระบุติดเชื้อ 39 คน)

ยอดผู้เสียชีวิตในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วยอินโดนีเซีย 16,521 คน (เพิ่มขึ้น 637 คน), ฟิลิปปินส์ 8,255 คน (เพิ่มขึ้น 132 คน), พม่า 1,865 คน (เพิ่มขึ้น 126 คน), มาเลเซีย 350 คน (เพิ่มขึ้น 15 คน), ประเทศไทย 60 คน, เวียดนาม 35 คน, สิงคโปร์ 28 คน, บรูไน 3 คน, กัมพูชา 0 คน, ลาว 0 คนและติมอร์-เลสเต 0 คน

นสพ. Courier Mail ฉบับ 27 พ.ย. 2020 เสนอข่าวโรงพยาบาลบางแห่งในรัฐควีนสแลนด์กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงในการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อโรคอย่างเช่นโควิด-19 เนื่องจากการขาดบุคลากร โดยเฉพาะพนักงานทำความสะอาด ทำให้บุคลากรทางการแพทย์และทุกคนที่เข้ามาใช้บริการในโรงพยาบาลตกอยู่ในความเสี่ยง โดยได้ยกตัวอย่างโรงพยาบาลในเมือง Ipswich ผลการตรวจเชื้อโควิด-19 กับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในเดือนกันยายนพบผู้มีผลเป็นบวก 7 คน

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , , , , , ,

Leave a Reply

%d bloggers like this: