ศาลสั่งเทศบาลชดใช้แพทย์หญิง $400,000 เหตุต้นไม้ทำบ้านร้าว

ภาพประกอบข่าวแพทย์หญิงชนะคดีต้นไม้ปลูกหน้าบ้านของเทศบาลทำให้ตัวบ้านเกิดรอยร้าว : ภาพจาก google image เนื่องจากภาพใหญ่ติดลิขสิทธิ์

18 พ.ย. 2020 ศาลในนครเมลเบิร์นได้สั่งให้เทศบาลชดใช้ค่าเสียหายให้กับแพทย์หญิงเป็นเงินกว่า 400,000 เหรียญหลังจากต้นไม้ที่เทศบาลปลูกตามริมถนนทำให้ตัวบ้านของเธอเกิดรอยแตกร้าว

พญ. Angela Livingstone ได้ต่อสู้กับเทศบาล City of Melbourne ในเรื่องของต้นซีดาร์ที่เทศบาลนำมาปลูกหน้าบ้านของเธอในปี 2009 ต่อมาในปี 2012 เธอได้สังเกตเห็นบ้านทรงวิตอเรียชั้นเดียวของเธอเริ่มมีรอยแตกราว

ในปี 2015 ตัวบ้านเริ่มเสียหายหนักขึ้นเมื่อเธอไม่สามารถเปิดประตูหน้าบ้านได้ และในปี 2019 ได้เริ่มมีรอยร้าวในทางเข้าบ้านด้านใน, ฮอลเวย์, ในห้องนอนด้านหน้าและห้องนอนกลาง รอยแตกที่เสียหายที่สุดมีความกว้างถึง 5 ซม.

พญ. Livingstone ได้แต่งตั้งทีมกฎหมายฟ้องเทศบาล City of Melbourne ในปี 2018 แต่เทศบาลปฏิเสธว่าต้นซีดาร์สูง 7 เมตรไม่ได้เป็นสาเหตุของรอยราวในตัวบ้านของแพทย์หญิง

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาศาลชั้นต้นเคาตี้ (County Court ) แห่งรัฐวิกตอเรียพบว่าต้นซีดาร์คือสาเหตุเดียวที่ทำให้ตัวบ้านเกิดรอยราว และตัดสินให้พญ. Livingstone ได้รับค่าเสียหายเป็นเงิน 435,510.08 เหรียญ

พญ. Livingstone กล่าวว่า เธอรู้สึกโล่งใจอย่างแท้จริงเมื่อผลคำพิพากษาออกมา แต่เห็นว่ามันไม่ควรใช้เวลาถึง 8 ปีในการคลีคลายปัญหา

เธอกล่าวว่า เธออาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้กับสามีและลูกสองคน รอยร้าวกว้างมาก ในตอนบ่ายมีแสงอาทิตย์ส่องผ่านรอยแยกของผนังเข้ามา ทำให้เธอเป็นห่วงว่าหลังคาอาจยุบตัวลง เธอจึงใช้ห้องนอนทั้งสองห้องเป็นที่เก็บของ

ศาลยังได้รับฟังว่าเจ้าหน้าที่เทศบาลยังขู่เธอว่า จะสั่งให้รื้อบ้านหลังนี้เสีย ถ้าเธอยังไม่หยุดโทรศัพท์มาร้องเรียน(มารบกวน)

ในปี 2015 เทศบาลได้ทำการติดตั้งแผงป้องกันรากต้นซีดาร์เข้าไปใต้ตัวบ้าน แต่ไม่ได้ซ่อมแซมรอยร้าวของตัวบ้าน

ผู้พิพากษา Peter Lauritsen พบว่าบ้านของพญ. Livingstone มีอายุกว่า 130 ปีอยู่ในสภาพเปราะบาง แต่ต้นไม้คือสาเหตุทำให้ตัวบ้านเกิดรอยร้าวอย่างแท้จริง

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , , ,

Leave a Reply

%d bloggers like this: