ภาพประชาสัมพันธ์การศึกษาในประเทศนิวซีแลนด์ของ World Wide College : เครดิตภาพ worldwidecollege.in

31 ส.ค. 2020 ผลการสำรวจทางการศึกษานานาชาติล่าสุดพบประเทศนิวซีแลนด์ขึ้นแท่นนักเรียนต่างชาติปรารถนาที่จะมาศึกษาในอันดับหนึ่งของโลก ส่วนสหรัฐอดีตแชมป์ถูกโควิด-19 เตะตกไปอยู่อันดับที่หก

รายงานชุดนี้จัดทำโดย Navitas Insights แม้จะเพิ่งถูกสื่อฯนำมาเปิดเผย แต่ทำการสำรวจในเดือนพฤษภาคมปี 2020 ด้วยการสอบถามเอเยนซี่การศึกษาเกือบ 400 แห่งใน 63 ประเทศ

ผลการสำรวจออกมาว่าประเทศนิวซีแลนด์ซึ่งรัฐบาลของนาง Jacinda Ardern ณ เวลานั้นสามารถรับมือกับไวรัส COVID-19 ได้ดีในอันดับไม่หนึ่งก็สองของโลกเป็นประเทศที่นักศึกษาต้องการมาเรียนสูงสุด ตามด้วยอันดับที่ (2) ออสเตรเลีย, (3) แคนาดา, (4) สิงคโปร์, (5) สหราชอณาจักรและ (6) สหรัฐอเมริกา

ข้อเสนอผลสำรวจอีกแหล่งหนึ่งจัดทำโดย Education.com โดยใช้ชื่อว่า “the best countries to study abroad in 2019” ด้วยการสำรวจนักศึกษานานาชาติจำนวนกว่า 20,000 คน โดยวัดพื้นฐาน 7 หัวข้อคือ

1. เพื่อหาประสบการณ์กับวัฒนธรรมที่แตกต่าง
2. เพื่อประสบความสำเร็จตามเป้าหมายในชีวิต
3. เพื่อความท้าทาย
4. เพื่อมีเพื่อนใหม่/และขยายเครือขายทางวิชาชีพ
5. เพื่อเข้าถึงการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ
6. เพื่อการศึกษาอย่างอิสระ
7. เพื่อการเข้าถึงวีซ่าเข้าประเทศ

ผลการสำรวจประเทศที่นักศึกษาทั่วโลกต้องการไปศึกษาต่อมากที่สุด 10 ประเทศได้แก่

1. นิวซีแลนด์
2. สเปน
3. ประเทศไทย
4. แคนาดา
5. เม็กซิโก
6. คอสตาริกา
7. เนเธอร์แลนด์
8. สวิตเซอร์แลนด์
9. ฝรั่งเศส
10. ออสเตรเลีย

การสำรวจชุดนี้จัดทำในเดือนมกราคม 2020 ก่อนที่ไวรัสโควิด-19 จะระบาดไปทั่วโลก สำหรับเหตุผลที่ Education.com ให้ไว้ ซึ่งจิงโจ้นิวส์ขอนำเสนอเฉพาะของประเทศนิวซีแลนด์, ไทยแลนด์และออสเตรเลียมีดังนี้

ออสเตรเลีย (อันดับ 10)

มีนักศึกษาต่างชาติ 270,000 คนและมีประชากร 25.1 ล้านคน

ออสเตรเลียมีมหาวิทยาลัย 6 แห่งที่ติดอันดับ 100 มหาวิทยาลัยแรกของโลก และเป็นอันดับ 4 ของโลกที่ดีที่สุดสำหรับการศึกษา นักศึกษายังมีเรื่องมากมายสำหรับความสนุกสนามนอกเวลาเรียน นอกเหนือจากการอยู่ในเมืองใหญ่อย่างซิดนีย์, เมลเบิร์นและบริสเบน

ออสเตรเลียยังมีสถานที่ตามธรรมชาติตั้งแต่ป่าฝนไปถึงทะเลทราย,ไปถึงป่าอัลไพน์บนเขาสูงและมีระบบนิเวศใต้น้ำที่สวยงาม

ออสเตรเลียมีสัตว์ท้องถิ่นและสัตว์ตามธรรมชาติที่แตกต่างนานาชนิดทั้งบนดิน,ในน้ำและมหาสมุทร ออสเตรเลียอยู่ในอันดับ 7 ของโลกในด้านความท้าทายและผจญภัย ไม่ว่าคุณจะไปสำราจในถิ่นชนบท, การท่องเที่ยวเลียบริมฝั่ง Great Ocean Road หรือดำน้ำชม Great Barrier Reef เป็นต้น

ประเทศไทย (อันดับ 3)

ประเทศไทยมีนักศึกษาต่างชาติ 20,000 คนและมีประชากร 68.8 ล้านคน

ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นสถานที่มีชื่อเสียสำหรับการท่องเที่ยวพักผ่อน ที่อาจเป็นจุดหมายปลายทางของการศึกษาในอนาคต ผลสำรวจของ Education.com ออกมาไทยเป็นสถานที่น่าศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติในอันดับ 1 ของเอเชียและอันดับที่ 3 ของโลก ไทยมีอันดับสูงในด้านของวัฒนธรรมที่ดีงามและความท้าทาย

ประเทศไทยมีหาดทรายที่สวยงาม, มีรีสอร์ทที่พักที่มีมาตรฐาน

เพียงแค่จินตนาการว่าคุณได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ในช่วงวันหยุดได้้ไปเปิดตากับแหล่งท่องเที่ยวเช่นตลาดน้ำ, วัดไทยอันวิจิตรตระการตาและพระราชวัง

ด้วยค่าครองชีพที่ต่ำ, อาหารข้างถนนรสชาติอร่อย, มีมหาวิทยาลัยในระดับโลกและสภาพอากาศที่อเมซิ่งต่อความเพลิดเพลิน การได้ศึกษาและการอยู่อาศัยในประเทศไทยจึงเหมือนกับอยู่ในความฝันที่เป็นจริง

ประเทศไทยยังเป็นสถานที่ผู้คนเป็นมิตรที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ประชาชนมีความเป็นมิตรในฐานะ “ดินแดนแห่งรอยยิ้ม” ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด ๆ ฯลฯ

นิวซีแลนด์ (อันดับ 1)

นิวซีแลนด์มีนักศึกษาต่างชาติ 53,000 คน และมีประชากร 4.9 ล้านคน

นิวซีแลนด์เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติอย่างน่าทึ่ง, เป็นประเทศรักการกีฬาและมีกีฬาผาดโผนกระตุ้นอะดรีนาลีนอยู่หลายประเภท, มีพื้นที่ชมวิวที่เกิดจากการสร้างภาพยนตร์ Lord of the Rings พร้อมมีการศึกษาระดับเฟิร์สคลาส โดยมีมหาวิทยาลัย 8 แห่งที่อยู่ในอัตรา 3% แรกของโลก

ขออนุญาตแนะนำลิงค์คลิปวิดีโอจาก Nas Daily ตอน World’s Most Visited City

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์

Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: ข่าวการศึกษา, ข่าวนิวซีแลนด์, ข่าวออสซี่, ข่าวออสเตรเลีย, ข่าวเกี่ยวกับประเทศไทย, นิวซีแลนด์, ประเทศออสเตรเลีย, ประเทศไทย, ออสเตรเลีย, อันดับประเทศน่าศึกษา