
ข่าวออนไลน์นสพ. Herald Sun วันที่ 28 ส.ค. 2020 เสนอข่าวนาย Luke Cotnelius รองผู้ว่าสำนักงานตำรวจรัฐวิกตอเรีย (คนในภาพบนขวา) ตำหนิพวก “สวมหมวกฟอยล์” มีแผนชุมนุมประท้วงต่อต้านการมาตรการล็อคดาวน์ กำหนดรวมพลในเขต CBD ของนครเมลเบิร์นในวันที่ 5 กันยายนว่า เป็นหนึ่งในกลุ่มทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด จัดเป็นขั้นสูงสุดของพวกบ้าหรือ ‘Batshit Crazy’
28 ส.ค. 2020 ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมในออสเตรเลียในช่วงสองวันที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 243 คนรวมเป็น 25,448 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 34 คนจากรัฐวิกตอเรียทั้งหมดเป็น 583 คน และผลการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศทำไปแล้ว 6,052,236 คน พบอัตราการติดเชื้อโดยเฉลี่ยที่ 0.4%
ในวันนี้เหลือผู้ป่วยติดเชื้อทั้งสิ้น 4,237 คน (ดีขึ้นกว่าสองวันก่อนถึง 324 คน) เป็นผู้เข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ 543 คน (ห้องไอซียู 35 คน) ส่วนที่เหลือเก็บตัวพักฟื้นอยู่ตามที่กักตัวและสถานที่พักส่วนบุคคล

ข่าวออนไลน์นสพ. The Age วันที่ 28 ส.ค. 2020 เป็นข่าวระดับรองแต่เห็นว่ามีความสำคัญ ด้วยข่าวของประเทศนิวซีแลนด์ออกมาเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในนครโอคแลนด์ซึ่งเป็นจุดฮอตสปอตส่วนใหญ่ติดเชื้อมาจากผู้เดินทางเข้าประเทศผ่านสายการบินจากประเทศอินเดีย ซึ่งก็เหมือนกับหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยมีเที่ยวบินหนึ่งจากประเทศอินเดียเพียงลำเดียวพบผู้ติดเชื้อแล้ว 23 คน ดีที่ตรวจพบขณะถูกกักกันในโรงแรม ไทยจึงรับมือกับผู้ที่เดินทางเข้ามาทางอากาศได้ทั้งหมด แต่ทางภาคพื้นดินน่าเป็นห่วง เพราะขณะนี้เกิดการระบาดของโควิด-19 อย่างรวดเร็วในประเทศพม่าสาเหตุมาจากการติดเชื้อข้ามพรมแดนมาจากอินเดีย ในขณะที่มีชาวพม่าหลบเข้ามาหางานทำในประเทศไทยโดยผ่านทางธรรมชาติวันละหลายร้อยคน
สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกล่าสุด
ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมทั่วโลก 50 ประเทศแรก ณ เวลา 23.00 น. ของวันที่ 28 สิงหาคม 2020 จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้ว 24,532,147 คน แยกเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา 5,884,174 คน, บราซิล 3,761,391 คน, อินเดีย 3,387,500 คน, รัสเซีย 977,730 คน, เปรู 621,997 คน, แอฟริกาใต้ 618,286 คน, โคลัมเบีย 581,995 คน, เม็กซิโก 579,914 คน, สเปน 439,286 คน, ชิลี 405,972 คน, อาร์เจนตินา 380,292 คน, อิหร่าน 369,911 คน, สหราชอาณาจักร 332,511 คน, ซาอุดิอาระเบีย 312,924 คน, บังคลาเทศ 306,794 คน, ฝรั่งเศส 304,864 คน, ปากีสถาน 295,053 คน, อิตาลี 265,409 คน, ตุรกี 263,998 คน, เยอรมนี 241,595 คน, อิรัก 219,435 คน, ฟิลิปปินส์ 209,544 คน, อินโดนีเซีย 165,887 คน, แคนาดา 128,868 คน, กาตาร์ 118,196 คน, ยูเครน 117,172 คน, โบลิเวีย 113,129 คน, อิสราเอล 111,493 คน, เอกวาดอร์ 111,219 คน, คาซัคสถาน 105,408 คน, อียิปต์ 98,062 คน, สาธารณรัฐโดมินิกัน 92,964 คน, ปานามา 89,982 คน, จีน 89,827 คน, โอมาน 85,005 คน, โรมาเนีย 84,468 คน, สวีเดน 83,958 คน, คูเวต 83,578 คน, เบลเยี่ยม 83,500 คน, กัวเตมาลา 71,856 คน, เนเธอร์แลนด์ 71,491 คน, เบลารูส 71,346 คน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 68,901 คน, ญี่ปุ่น 66,499 คน, โปแลนด์ 65,480 คน, ฮอนดูรัส 57,669 คน, โมร็อกโค 57,085 คน, โปรตุเกส 57,074 คน, สิงคโปร์ 56,666 คน, และไนจีเรีย 53,317 คน,/ ออสเตรเลีย 25,448 คน,และประเทศไทย 3,410 คน (ออสเตรเลียอยู่ในอันดับที่ 69 ของโลก / ไทยอยู่อันดับที่ 119 ของโลก ในสองวันนี้มีผู้ป่วยเพิ่ม 7 คน เป็นผู้ป่วยมาจากต่างประเทศในโรงแรมที่กักกันทั้งสิ้น ทำให้ประเทศไทยไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศมาเป็นเวลา 95 วันติดต่อกัน)
ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัส COVID-19 สูงสุด
และผู้เสียชีวิตจากข้อมูลของมหาวิทยลัยจอห์นฮอปกินส์มีทั้งสิ้น 832,918 คน แยกผู้เสียชีวิตจากมากไปหาน้อยดังนี้ สหรัฐ 181,092 คน, บราซิล 118,649 คน, เม็กซิโก 62,529 คน, อินเดีย 61,529 คน, สหราชอาณาจักร 41,564 คน, อิตาลี 35,472 คน, ฝรั่งเศส 30,601 คน, สเปน 29,011 คน, เปรู 28,277 คน, อิหร่าน 21,249 คน, โคลัมเบีย 18,467 คน, รัสเซีย 16,866 คน, แอฟริกาใต้ 13,628 คน, ชิลี 11,132 คน, เบลเยี่ยม 9,884 คน, เยอรมนี 9,291 คน, แคนาดา 9,148 คน, อาร์เจนตินา 8,129 คน, อินโดนีเซีย 7,169 คน, อิรัก 6,740 คน, เอกวาดอร์ 6,471 คน, ปากีสถาน 6,283 คน, เนเธอร์แลนด์ 6,246 คน, ตุรกี 6,209 คน, สวีเดน 5,821 คน, อียิปต์ 5,342 คน, โบลิเวีย 4,791 คน, จีน 4,718 คน, บังคลาเทศ 4,174 คน, ซาอุดิอาระเบีย 3,813 คน, โรมาเนีย 3,507 คน, ฟิลิปปินส์ 3,325 คน, กัวเตมาลา 2,685 คน, ยูเคลน 2,499 คนและโปแลนด์ 2,018 คน,/ ออสเตรเลีย 583 คน (แยกเป็นวิกตอเรีย 496 คน, น.ซ.ว. 52 คน, แทสเมเนีย 13 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 9 คน, ควีนสแลนด์ 6 คน, เซาท์ออสเตรเลีย 4 คนและ ACT 3 คน) และประเทศไทย 58 คน
ประเทศที่มีผู้หายป่วยแล้วจากมากไปหาน้อย
มีผู้ป่วยได้รับการรักษาจนหายแล้วข้อมูลจากสารนุกรมเสรีวิกิพีเดียมีทั้งสิ้น 16,000,137 คน เรียงจากมากไปหาน้อย สหรัฐอเมริกา 3,119,728 คน, บราซิล 2,947,250 คน, อินเดีย 2,583,948 คน, รัสเซีย 798,466 คน, แอฟริกาใต้ 531,338 คน, เปรู 429,662 คน, โคลัมเบีย 417,793 คน, เม็กซิโก 400,479 คน, ชิลี 379,452 คน, อิหร่าน 318,270 คน, ซาอุดิอาระเบีย 287,403 คน, ปากีสถาน 279,937 คน, อาร์เจนตินา 274,445 คน, ตุรกี 240,792 คน, เยอรมนี 211,858 คน, อิตาลี 206,554 คน, บังคลาเทศ 196,836 คน, อิรัก 161,009 คน, สเปน 150,376 คน (ยอดไม่เคลื่อนไหวมากว่าเดือนแล้ว), ฟิลิปปินส์ 134,474 คน, อินโดนีเซีย 120,900 คน, การ์ต้า 115,017 คน, แคนาดา 112,834 คน, เอกวาดอร์ 95,202 คน, คาซัคสถาน 94,713 คน, อิสราเอล 91,051 คน, ฝรั่งเศส 85,984 คน, จีน 80,091 คน (เหลือผู้ป่วย 288 คน ดีขึ้นมาก), โอมาน 79,608 คน, คูเวต 75,320 คน, เบลารุส 69,887 คน, อียิปต์ 69,612 คน, สาธารณรัฐโดมินิกัน 64,347 คน, ปานามา 63,996 คน,และกัวเตมาลา 59,641 คน, / สิงคโปร์ 55,139 คน (เหลือผู้ป่วย 1,406 คน ดีขึ้นมาก), ญี่ปุ่น 53,995 คน (เหลือผู้ป่วย 10,340 คน มีแนวโน้มอาจดีขึ้น), เกาหลีใต้ 14,551 คน (เหลือผู้ป่วย 4,210 คน อาการน่าเป็นห่วง), ออสเตรเลีย 20,628 คน (เหลือผู้ป่วย 4,237 คน มีแนวโน้มดีขึ้น), ประเทศไทย 3,237 คน (เหลือผู้ป่วย 115 คน), (หมายเหตุ ที่มีวงเล็บต่อท้ายเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยจนเหลือต่ำกว่า 2,500 คน และสหราชอาณาจักรเป็นประเทศเดียวที่ไม่มีรายงานผู้หายป่วยมาตั้งแต่แรก)

ภาพกร๊าฟของกระทรวงสาธารณสุขเครือรัฐออสเตรเลียแสดงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระหว่างวันที่ 22 ม.ค. 2020 ถึง 28 ส.ค. 2020 ในรูปแบบของกร๊าฟแท่งสีฟ้าแสดงยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน / นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ถึง 28 ส.ค. 2020 ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่เฉลี่ยวันละ 303.8 คน / ส่วนกร๊าฟเส้นสีเหลืองแสดงยอดผู้ป่วยสะสมในระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2020 ถึง 28 ส.ค. 2020 / โปรดสังเกตเส้นกร๊าฟแท่งระลอกที่สอง (ขวามือ) เป็นรูประฆังคว่ำใกล้จะสมบูรณ์แล้ว
รายงานยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในออสเตรเลีย
ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากตัวเลขล่าสุดโดยกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย ณ 15.00 น. ของวันที่ 28 สิงหาคม 2020 มีผู้ติดเชื้อสะสม 25,448 คน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในช่วงสองวัน 243 คน นับจากเวลา 15.00 น.ของเมื่อวานนี้สามารถแยกผู้ป่วยเป็น
รัฐวิกตอเรีย 18,822 คน (เพิ่มขึ้น 214 คน), รัฐน.ซ.ว. 4,019 คน (เพิ่มขึ้น 22 คน), รัฐควีนสแลนด์ 1,113 คน (เพิ่มขึ้น 5 คน), รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย 655 คน (เพิ่มขึ้น 2 คน), รัฐเซาท์ออสเตรเลีย 463 คน, รัฐแทสเมเนีย 230 คน, ออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี 113 คน, นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี 33 คน

ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขเครือรัฐออสเตรเลียวันที่ 28 สิงหาคม 2020 แสดงจำนวนวันที่แต่ละรัฐและดินแดนปลอดจากผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่ จะเห็นว่าดินแดน ACT ปลอดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นวันที่ 49 แล้ว : ข้อมูลจากสำนักข่าว ABC
ยอดผู้เสียชีวิตสะสมที่ 583 คน มีผู้รักษาหายแล้ว 20,628 ราย, มีการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศแล้วกว่า 6,052,000 คน โดยพบผู้ติดเชื้อในอัตรา 0.4%
ในจำนวนผู้ติดเชื้อรวมถึงผู้มาจากเรือสำราญ Diamond Princess จำนวน 10 คน แยกเป็นรัฐวิกตอเรีย 4 คน, ควีนสแลนด์ 3 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 2 คน และเซาท์ออสเตรเลีย 1 คน
และผู้ป่วยจากเรือสำราญ Ruby Princess จำนวน 189 คน, เรือสำราญ Ovation of the Seas 66 คน, Voyager of the Seas เรือสำราญ 26 คน, และจากเรือสำราญ Celebrity Solstice 2 คนให้ถือเป็นผู้ป่วยสะสมในรัฐนิวเซาท์เวลส์

ข่าวออนไลน์นสพ. The Courier Mail วันที่ 28 ส.ค. 2020 เสนอข่าว เจ้าหน้าที่เรือนจำรายที่สองทำงานที่เรือนจำที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของรัฐควีนสแลนด์ที่มีนักโทษกว่า 1,000 คน ได้ถูกตรวจพบติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนจากเรือนจำได้เพิ่มเป็น 5 คนแล้ว
ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศนิวซีแลนด์และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ส่วนยอดผู้ติดเชื้อในนิวซีแลนด์ในวันนี้อยู่ที่ 1,714 คน มีผู้เสียชีวิต 22 คน และรักษาหายแล้ว 1,561 คน
ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สะสมเรียงจากมากไปหาน้อยดังนี้ ฟิลิปปินส์ 209,544 คน, อินโดนีเซีย 165,887 คน, สิงคโปร์ 56,666 คน, มาเลเซีย 9,306 คน, ไทย 3,410 คน, เวียดนาม 1,038 คน, พม่า 628 คน (น่าเป็นห่วง), กัมพูชา 273 คน, บรูไน 144 คน, ติมอร์-เลสเต 27 คน,และลาว 22 คน
ยอดผู้เสียชีวิตในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วยอินโดนีเซีย 7,169 คน, ฟิลิปปินส์ 3,325 คน, มาเลเซีย 125 คน, ประเทศไทย 58 คน, เวียดนาม 30 คน, สิงคโปร์ 27 คน, พม่า 6 คน, บรูไน 3 คน, กัมพูชา 0 คน, ลาว 0 คนและติมอร์-เลสเต 0 คน

ข่าวออนไลน์นสพ. The West Australian วันที่ 28 ส.ค. 2020 ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์หัวนี้เสนอข่าวของนาย Clive Palmer มหาเศรษฐีเหมืองแร่และอสังหาริมทรัพย์และหัวหน้าพรรค Clive Palmer United Australia เรียกได้ว่าวันเว้นวันจนกลายเป็นคู่แค้นแสนสาหัสระหว่างกัน The West รายงานว่านาย Palmer ต้องเจ็บปวดกับการแพ้อีกคดีหนึ่ง จิงโจ้นิวส์เคยเสนอข่าวนาย Palmer ได้ฟ้องร้องรัฐบาลรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียต่อการปิดพรมแดนว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ หลังจากเขาถูกปฎิเสธไม่ให้ข้ามพรมแดนเข้าไปในเขตรัฐออสเตรเลียตะวันตก แต่ศาลชั่งน้ำหนักถึงความปลอดภัยเหนือกว่าเสรีภาพ จึงตัดสินให้นาย Palmer เป็นฝ่ายแพ้คดีแล้วคดีเล่า
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply