ข่าวออนไลน์นสพ. Herald Sun วันที่ 22 ส.ค. 2020 เสนอข่าวกระทรวงสาธารณสุขรัฐวิกตอเรียออกมาแถลงข่าวว่าสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น โดยวันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 182 รายและเชื่อมั่นว่าในหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้าจะมีผู้ติดเชื้อวันละต่ำกว่า 150 ราย และในสัปดาห์นี้รัฐวิกตอเรียจะทำการประชุมร่วมกับรัฐเซาท์ออสเตรเลียเพื่อการเปิดพรมแดน
22 ส.ค. 2020 ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมในออสเตรเลียในช่วงสองวันที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 366 คนรวมเป็น 24,602 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 22 คนเป็น 485 คน และผลการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศทำไปแล้ว 5,647,677 คน พบอัตราการติดเชื้อโดยเฉลี่ยที่ 0.4%
#ในวันนี้เหลือผู้ป่วยติดเชื้อทั้งสิ้น 5,363 คน (ดีขึ้นกว่าสองวันก่อนถึง 564 คน) เป็นผู้เข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ 631 คน (ห้องไอซียู 43 คน) ส่วนที่เหลือเก็บตัวพักฟื้นอยู่ตามที่กักตัวและสถานที่พักส่วนบุคคล
นสพ. The Advertiser ฉบับ 22 ส.ค. 2020 เสนอข่าวความหวังที่จะยกเลิกการสั่งห้ามข้ามพรมแดนระหว่างรัฐเซาท์ออสเตรเลียกับรัฐวิกตอเรียมีแนวโน้มว่าจะผ่อนปรนลงภายในสองสัปดาห์ข้างหน้า หลังรัฐวิกตอเรียทำท่าจะเอาอยู่การควบคุมเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกล่าสุด
ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมทั่วโลก 50 ประเทศแรก ณ เวลา 23.00 น. ของวันที่ 22 สิงหาคม 2020 จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้ว 23,009,629 คน แยกเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา 5,633,879 คน, บราซิล 3,532,330 คน, อินเดีย 2,975,701 คน, รัสเซีย 949,531 คน, แอฟริกาใต้ 603,338 คน, เปรู 576,067 คน, เม็กซิโก 549,734 คน, คลัมเบีย 522,138 คน, ชิลี 395,708 คน, สเปน 386,054 คน, อิหร่าน 356,792 คน, อาร์เจนตินา 329,043 คน, สหราชอาณาจักร 326,559 คน, ซาอุดิอาระเบีย 306,370 คน, ปากีสถาน 292,625 คน, บังคลาเทศ 292,174 คน, ฝรั่งเศส 271,960 คน, อิตาลี 257,065 คน, ตุรกี 255,723 คน, เยอรมนี 233,353 คน, อิรัก 201,050 คน, ฟิลิปปินส์ 187,249 คน, อินโดนีเซีย 151,498 คน, แคนาดา 126,350 คน, กาตาร์ 116,765 คน, โบลิเวีย 107,435 คน, เอกวาดอร์ 106,481 คน, ยูเครน 105,337 คน, คาซัคสถาน 104,313 คน, อิสราเอล 100,716 คน, อียิปต์ 97,148 คน, สาธารณรัฐโดมินิกัน 90,561 คน, จีน 89,642 คน, สวีเดน 86,068 คน, ปานามา 84,392 คน, โอมาน 83,769 คน, เบลเยี่ยม 80,894 คน, คูเวต 79,957 คน, โรมาเนีย 77,544 คน, เบลารูส 70,285 คน, เนเธอร์แลนด์ 67,964 คน, กัวเตมาลา 67,856 คน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 66,617 คน, ญี่ปุ่น 61,914 คน, โปแลนด์ 61,181 คน, สิงคโปร์ 56,266 คน, โปรตุเกส 55,452 คน, ฮอนดูรัส 53,381 คน, ไนจีเรีย 51,304 คน,และโมร็อกโค 49,247 คน,/ ออสเตรเลีย 24,602 คน,และประเทศไทย 3,390 คน (ออสเตรเลียอยู่ในอันดับที่ 69 ของโลก / ไทยอยู่อันดับที่ 117 ของโลก ในสองวันนี้มีผู้ป่วยเพิ่ม 1 คน เป็นผู้ป่วยมาจากต่างประเทศในโรงแรมที่กักกันทั้งสิ้น ทำให้ประเทศไทยไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศมาเป็นเวลา 89 วันติดต่อกัน)
และผู้เสียชีวิตจากข้อมูลของมหาวิทยลัยจอห์นฮอปกินส์มีทั้งสิ้น 800,566 คน แยกผู้เสียชีวิตจากมากไปหาน้อยดังนี้ สหรัฐ 175,588 คน, บราซิล 113,358 คน, เม็กซิโก 59,610 คน, อินเดีย 55,794 คน, สหราชอาณาจักร 41,509 คน, อิตาลี 35,427 คน, ฝรั่งเศส 30,508 คน, สเปน 28,838 คน, เปรู 27,245 คน, อิหร่าน 20,502 คน, โคลัมเบีย 16,568 คน, รัสเซีย 16,268 คน, แอฟริกาใต้ 12,843 คน, ชิลี 10,792 คน, เบลเยี่ยม 9,985 คน, เยอรมนี 9,272 คน, แคนาดา 9,111 คน, อาร์เจนตินา 6,730 คน, อินโดนีเซีย 6,594 คน, อิรัก 6,353 คน, เอกวาดอร์ 6,248 คน, ปากีสถาน 6,231 คน, เนเธอร์แลนด์ 6,224 คน, ตุรกี 6,080 คน, สวีเดน 5,810 คน, อียิปต์ 5,231 คน, จีน 4,710 คน, โบลิเวีย 4,366 คน, บังคลาเทศ 3,907 คน, ซาอุดิอาระเบีย 3,619 คน, โรมาเนีย 3,233 คน, ฟิลิปปินส์ 2,966 คน, กัวเตมาลา 2,580 คน, ยูเคลน 2,286 คนและสวิตเซอร์แลนด์ 2,000 คน,/ ออสเตรเลีย 485 คน (แยกเป็นวิกตอเรีย 398 คน, น.ซ.ว. 52 คน, แทสเมเนีย 13 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 9 คน, ควีนสแลนด์ 6 คน, เซาท์ออสเตรเลีย 4 คนและ ACT 3 คน) และประเทศไทย 58 คน
มีผู้ป่วยได้รับการรักษาจนหายแล้วข้อมูลจากสารนุกรมเสรีวิกิพีเดียมีทั้งสิ้น 14,715,412 คน เรียงจากมากไปหาน้อย สหรัฐอเมริกา 2,920,852 คน, บราซิล 2,670,755 คน, อินเดีย 2,222,577 คน, รัสเซีย 767,477 คน, แอฟริกาใต้ 500,102 คน, เปรู 384,908 คน, เม็กซิโก 376,409 คน, ชิลี 369,730 คน, โคลัมเบีย 348,940 คน, อิหร่าน 307,702 คน, ซาอุดิอาระเบีย 278,441 คน, ปากีสถาน 275,317 คน, ตุรกี 235,569 คน, อาร์เจนตินา 239,793 คน, เยอรมนี 205,751 คน, อิตาลี 204,960 คน, บังคลาเทศ 175,567 คน, สเปน 150,376 คน (ยอดไม่เคลื่อนไหวมากว่าเดือนแล้ว), อิรัก 140,446 คน, ฟิลิปปินส์ 114,921 คน, การ์ต้า 113,531 คน, แคนาดา 110,522 คน, อินโดนีเซีย 105,198 คน, คาซัคสถาน 87,920 คน, เอกวาดอร์ 87,730 คน, ฝรั่งเศส 84,829 คน, จีน 79,851 คน (เหลือผู้ป่วย 454 คน เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ), โอมาน 78,386 คน, อิสราเอล 73,092 คน, คูเวต 71,264 คน, เบลารุส 68,256 คน, อียิปต์ 64,318 คน, สาธารณรัฐโดมิริกัน 59,132 คน, ปานามา 59,722 คน,และสหรัฐอาหรับอิมิเรทต์ 58,296 คน, / สิงคโปร์ 53,651 คน (เหลือผู้ป่วย 2,538 คน เริ่มดีขึ้น), ญี่ปุ่น 47,622 คน (เหลือผู้ป่วย 11,942 คน ยังน่าเป็นห่วง), เกาหลีใต้ 14,169 คน (เหลือผู้ป่วย 2,524 คน อาการน่าวิตก), ออสเตรเลีย 18,754 คน (เหลือผู้ป่วย 5,363 คน มีแนวโน้มดีขึ้น), ประเทศไทย 3,220 คน (เหลือผู้ป่วย 117 คน), (หมายเหตุ ที่มีวงเล็บต่อท้ายเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยจนเหลือต่ำกว่า 2,500 คน และสหราชอาณาจักรเป็นประเทศเดียวที่ไม่มีรายงานผู้หายป่วยมาตั้งแต่แรก)
ภาพกร๊าฟของกระทรวงสาธารณสุขเครือรัฐออสเตรเลียแสดงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระหว่างวันที่ 22 ม.ค. 2020 ถึง 22 ส.ค. 2020 ในรูปแบบของกร๊าฟแท่งสีฟ้าแสดงยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน / นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ถึง 22 ส.ค. 2020 ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่เฉลี่ยวันละ 322.5 คน / ส่วนกร๊าฟเส้นสีเหลืองแสดงยอดผู้ป่วยสะสมในระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2020 ถึง 22 ส.ค. 2020
ภาพกร๊าฟปัจจัยการเจริญเติบโต (growth factor) ของวันที่ 21 ส.ค. 2020 อยู่ที่ 0.94 ชี้ให้เห็นว่าออสเตรเลียสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ไว้ได้เป็นวันที่ 10 ติดต่อกันและในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่เฉลี่ยวันละ 253 คน : ข้อมูลจากสำนักข่าว ABC
รายงานยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในออสเตรเลีย
ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากตัวเลขล่าสุดโดยกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย ณ 15.00 น. ของวันที่ 22 สิงหาคม 2020 มีผู้ติดเชื้อสะสม 24,602 คน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในช่วงสองวัน 366 คน นับจากเวลา 15.00 น.ของเมื่อวานนี้สามารถแยกผู้ป่วยเป็น
รัฐวิกตอเรีย 18,029 คน (เพิ่มขึ้น 346 คน), รัฐน.ซ.ว. 3,981 คน (เพิ่มขึ้น 10 คน), รัฐควีนสแลนด์ 1,103 คน (เพิ่มขึ้น 10 คน), รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย 651 คน, รัฐเซาท์ออสเตรเลีย 462 คน, รัฐแทสเมเนีย 230 คน, ออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี 113 คน, นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี 33 คน
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขเครือรัฐออสเตรเลียวันที่ 22 สิงหาคม 2020 แสดงจำนวนวันที่แต่ละรัฐและดินแดนปลอดจากผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่ จะเห็นว่าดินแดน ACT ปลอดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นวันที่ 43 แล้ว : ข้อมูลจากสำนักข่าว ABC
ยอดผู้เสียชีวิตสะสมที่ 485 คน มีผู้รักษาหายแล้ว 18,754 ราย, มีการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศแล้วกว่า 5,647,600 คน โดยพบผู้ติดเชื้อในอัตรา 0.4%
ในจำนวนผู้ติดเชื้อรวมถึงผู้มาจากเรือสำราญ Diamond Princess จำนวน 10 คน แยกเป็นรัฐวิกตอเรีย 4 คน, ควีนสแลนด์ 3 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 2 คน และเซาท์ออสเตรเลีย 1 คน
และผู้ป่วยจากเรือสำราญ Ruby Princess จำนวน 189 คน, เรือสำราญ Ovation of the Seas 66 คน, Voyager of the Seas เรือสำราญ 26 คน, และจากเรือสำราญ Celebrity Solstice 2 คนให้ถือเป็นผู้ป่วยสะสมในรัฐนิวเซาท์เวลส์
ข่าวออนไลน์นสพ. The Courier Mail วันที่ 22 ส.ค. 2020 เสนอข่าวรัฐบาลรัฐควีนสแลนด์ประกาศมาตรการคุมเข้มแบบสายฟ้าแลบมีผลบังคับใช้ทันทีหลังวันนี้มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 9 คน 6 คนเกี่ยวกับศูนย์กักกันเยาวชน Brisbane Youth Detention centre สำหรับกฎระเบียบใหม่เช่นรวมตัวกันในที่สาธารณะได้ไม่เกิน 10 คนเป็นต้น พื้นที่ที่อยู่ภายใต้ข้อบังคับใหม่ได้แก่ Brisbane, Ipswich, Logan, Scenic Rim, Lockyer Valley, Moreton Bay และ Redlands / ส่วนข่าวด้านขวาพญ. Jeannette Young ปลัดสาธารณสุขรัฐ QLD เตือนว่า “ถ้าคุณมีอาการของไข้หวัดใหญ่ มันส่อเค้าว่าจะเป็นโควิด-19”
ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศนิวซีแลนด์และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ส่วนยอดผู้ติดเชื้อในนิวซีแลนด์ในวันนี้อยู่ที่ 1,671 คน มีผู้เสียชีวิต 22 คน และรักษาหายแล้ว 1,538 คน
ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สะสมเรียงจากมากไปหาน้อยดังนี้ ฟิลิปปินส์ 187,249 คน, อินโดนีเซีย 151,498 คน, สิงคโปร์ 56,266 คน, มาเลเซีย 9,257 คน, ไทย 3,390 คน, เวียดนาม 1,014 คน, พม่า 441 คน, กัมพูชา 273 คน, บรูไน 143 คน, ติมอร์-เลสเต 26 คน,และลาว 22 คน
ยอดผู้เสียชีวิตในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วยอินโดนีเซีย 6,594 คน, ฟิลิปปินส์ 2,966 คน, มาเลเซีย 125 คน, ประเทศไทย 58 คน, สิงคโปร์ 27 คน, เวียดนาม 25 คน, พม่า 6 คน, บรูไน 3 คน, กัมพูชา 0 คน, ลาว 0 คนและติมอร์-เลสเต 0 คน
นสพ. Herald Sun ฉบับ 22 ส.ค. 2020 ภาพบนเสนอข่าวครอบครัว Law เกษตรกรตรงตะเข็บชายแดนระหว่างรัฐเซาท์ออสเตรเลียและรัฐวิกตอเรียโอดครวญว่าคำสั่งห้ามข้ามพรมแดนทำให้ลูก ๆ ของพวกเขาข้ามพรมแดนไปโรงเรียนไม่ได้และยังกระทบต่อการทำฟาร์มเกษตรของครอบครัวอีกด้วย / ส่วนข่าวล่างจั่วหัวข่าวว่า “ความหลายหลาก(และ)ความไร้สาระ” เป็นเรื่องของความเหลวแหลกของระบบควบคุมโรงแรมที่ใช้กักกันผู้เดินทางเข้าประเทศ จากพนักงานที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลที่ปราศจากการฝึกอบรมใด ๆ จนเป็นต้นเหตุของไวรัสโควิด-19 ระบาดระลอกที่สองในรัฐวิกตอเรียและประเทศออสเตรเลีย มหากาพย์นี้มีท่าที่อีกยาวยังไม่จบง่าย ๆ
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply