
นสพ. Herald Sun ฉบับ 12 ส.ค. 2020 เสนอข่าวมูลเหตุของเชื้อไวรัสโควิด 19 เล็ดลอดเข้ามาระบาดในรัฐวิกตอเรียจนทำให้ประเทศเจอการระบาดระลอกที่ 2 ความผิดพลาดครั้งใหญ่เกิดขึ้นจากรัฐบาลรัฐวิกตอเรียปฏิเสธข้อเสนอจากกองทัพออสเตรเลียเข้าทำหน้าที่ควบคุมดูแลผู้เดินทางกลับจากต่างประทศถูกกักกันในโรงแรม แต่หันไปว่าจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยที่ีไม่ได้มาตรฐานทำหน้าที่แทน
12 ส.ค. 2020 ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมในออสเตรเลียในช่วงสองที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 730 คนรวมเป็น 22,127 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 39 คนเป็น 352 คน และผลการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศทำไปแล้ว 5,041,344 คน พบอัตราการติดเชื้อโดยเฉลี่ยที่ 0.4%
ในวันนี้เหลือผู้ป่วยติดเชื้อทั้งสิ้น 9,001 คน เป็นผู้เข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ 685 คน (ห้องไอซียู 51 คน) ส่วนที่เหลือเก็บตัวพักฟื้นอยู่ตามที่กักตัวและสถานที่พักส่วนบุคคล

นสพ. The NT News ฉบับ 12 ส.ค. 2020 เสนอข่าวนาย Michael Gunner ผู้นำดินแดนนอร์เทิร์นเทร์รีทอรีเกิดจิตตกชั่วคราว (มาจากคำว่า ‘brain fart’ หรือ ‘ตดสมอง’ เป็นอาการลืมในสิ่งที่ตนรับรู้โดยขึ้นใจขึ้นมาเฉยๆ) ต่อการแนะนำให้ชาว NT อยู่บ้าน เพื่อความปลอดภัย งดการเดินทาง และแนะนำให้ยกเลิกแผนการท่องเที่ยวในช่วงคริสต์มาส จนก่อให้เกิดความสับสนว่าผู้ทำ NT จะเอาอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ยังแนะนำให้ท่องเที่ยวภายในดินแดนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นสพ. NT News จึงเปรียบนาย Gunner เป็น “เดอะกริ๊นช์” (The Grinch) เจ้าตัวสีเขียวทำลายวันคริสต์มาสในภาพยนตร์การ์ตูนตลกในชื่อเดียวกันออกฉายในปี 2018
สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกล่าสุด
ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมทั่วโลก 50 ประเทศแรก ณ เวลา 23.00 น. ของวันที่ 12 สิงหาคม 2020 จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้ว 20,412,501 คน แยกเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา 5,163,509 คน, บราซิล 3,109,630 คน, อินเดีย 2,329,638 คน, รัสเซีย 900,745 คน, แอฟริกาใต้ 566,109 คน, เม็กซิโก 492,522 คน, เปรู 489,680 คน, โคลัมเบีย 410,453 คน, ชิลี 378,168 คน, อิหร่าน 333,699 คน, สเปน 326,612 คน, สหราชอาณาจักร 315,560 คน, ซาอุดิอาระเบีย 293,037 คน, ปากีสถาน 285,921 คน, บังคลาเทศ 266,498 คน, อาร์เจนตินา 260,911 คน, อิตาลี 251,713 คน, ฝรั่งเศส 244,061 คน, ตุรกี 243,180 คน, เยอรมนี 219,766 คน, อิรัก 160,436 คน, ฟิลิปปินส์ 143,749 คน, อินโดนีเซีย 130,718 คน, แคนาดา 122,508 คน, กาตาร์ 113,938 คน, คาซัคสถาน 100,855 คน, อียิปต์ 95,834 คน, เอกวาดอร์ 95,563 คน, โบลิเวีย 93,328 คน, จีน 89,020 คน, อิสราเอล 87,173 คน, ยูเครน 86,504 คน, สวีเดน 83,445 คน, โอมาน 82,299 คน, สาธารณรัฐโดมินิกัน 82,224 คน, ปานามา 76,464 คน, เบลเยี่ยม 75,008 คน, คูเวต 73,785 คน, เบลารูส 69,102 คน, โรมาเนีย 65,177 คน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 63,212 คน, เนเธอร์แลนด์ 61,608 คน, กัวเตมาลา 57,966 คน, สิงคโปร์ 55,395 คน, โปแลนด์ 53,676 คน, โปรตุเกส 53,223 คน, ญี่ปุ่น 51,278 คน, ฮอนดูรัส 48,403 คน, ไนจีเรีย 47,290 คน,และบาห์เรน 44,804 คน,/ ออสเตรเลีย 22,127 คน,และประเทศไทย 3,356 คน (ออสเตรเลียพุ่งพรวดมาอยู่ในอันดับที่ 69 ของโลก / ไทยอยู่อันดับที่ 112 ของโลก ในสองวันนี้มีผู้ป่วยเพิ่ม 5 คน เป็นผู้ป่วยมาจากต่างประเทศในโรงแรมที่กักกันทั้งสิ้น ทำให้ประเทศไทยไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศมาเป็นเวลา 79 วันติดต่อกัน)
และผู้เสียชีวิตจากข้อมูลของมหาวิทยลัยจอห์นฮอปกินส์มีทั้งสิ้น 744,311 คน แยกผู้เสียชีวิตจากมากไปหาน้อยดังนี้ สหรัฐ 164,994 คน, บราซิล 103,026 คน, เม็กซิโก 53,929 คน, สหราชอาณาจักร 46,791 คน, อินเดีย 46,091 คน, อิตาลี 35,225 คน, ฝรั่งเศส 30,375 คน, สเปน 28,581 คน, เปรู 21,501 คน, อิหร่าน 18,988 คน, รัสเซีย 15,231 คน, โคลัมเบีย 13,475 คน, แอฟริกาใต้ 10,751 คน, ชิลี 10,205 คน, เบลเยี่ยม 9,885 คน, เยอรมนี 9,213 คน, แคนาดา 9,051 คน, เนเธอร์แลนด์ 6,182 คน, ปากีสถาน 6,129 คน, เอกวาดอร์ 5,951 คน, อินโดนีเซีย 5,903 คน, ตุรกี 5,873 คน, สวีเดน 5,774 คน, อิรัก 5,588 คน, อาร์เจนตินา 5,088 คน, อียิปต์ 5,059 คน, จีน 4,697 คน, โบลิเวีย 3,761 คน, บังคลาเทศ 3,513 คน, ซาอุดิอาระเบีย 3,269 คน, โรมาเนีย 2,807 คน, ฟิลิปปินส์ 2,404 คน, กัวเตมาลา 2,233 คน, ยูเคลน 1,999 คนและสวิตเซอร์แลนด์ 1,991 คน,/ ออสเตรเลีย 352 คน (แยกเป็นวิกตอเรีย 267 คน, น.ซ.ว. 50 คน, แทสเมเนีย 13 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 9 คน, ควีนสแลนด์ 6 คน, เซาท์ออสเตรเลีย 4 คนและ ACT 3 คน) และประเทศไทย 58 คน
มีผู้ป่วยได้รับการรักษาจนหายแล้วข้อมูลจากสารนุกรมเสรีวิกิพีเดียมีทั้งสิ้น 12,631,548 คน เรียงจากมากไปหาน้อย สหรัฐอเมริกา 2,648,373 คน, บราซิล 2,243,124 คน, อินเดีย 1,639,599 คน, รัสเซีย 710,298 คน, แอฟริกาใต้ 426,125 คน, ชิลี 351,419 คน, เปรู 335,756 คน, เม็กซิโก 332,800 คน, อิหร่าน 290,244 คน, ปากีสถาน 263,193 คน, ซาอุดิอาระเบีย 257,269 คน, โคลัมเบีย 230,427 คน, ตุรกี 226,155 คน, อิตาลี 202,461 คน, เยอรมนี 198,067 คน, อาร์เจนตินา 181,376 คน, บังคลาเทศ 153,089 คน, สเปน 150,376 คน (ยอดไม่เคลื่อนไหวมากว่าเดือนแล้ว), อิรัก 114,541 คน, การ์ต้า 110,627 คน, แคนาดา 107,023 คน, อินโดนีเซีย 85,798 คน, ฝรั่งเศส 82,836 คน, จีน 79,342 คน (เหลือผู้ป่วย 761 คน เริ่มดีขึ้น), โอมาน 77,072 คน, คาซัคสถาน 74,677 คน, ฟิลิปปินส์ 68,997 คน, เบลารุส 65,893 คน, คูเวต 65,451 คน, อิสราเอล 61,577 คน, สหรัฐอาหรับอิมิเรทต์ 56,961 คน, อียิปต์ 54,888 คน, ปานามา 50,665 คน, สิงคโปร์ 50,520 คน, กัวเตมาลา 46,442 คน,/ ญี่ปุ่น 34,888 คน (เหลือผู้ป่วย 14,263 คน สถานการณ์น่าเป็นห่วงมาก), เกาหลีใต้ 13,786 คน (เหลือผู้ป่วย 623 คน ดีขึ้นตามลำดับ), ออสเตรเลีย 12,774 คน (เหลือผู้ป่วย 9,001 คน น่าเป็นห่วง), ประเทศไทย 3,169 คน (เหลือผู้ป่วย 129 คน), (หมายเหตุ ที่มีวงเล็บต่อท้ายเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยจนเหลือต่ำกว่า 2,500 คน และสหราชอาณาจักรเป็นประเทศเดียวที่ไม่มีรายงานผู้หายป่วยมาตั้งแต่แรก)

ภาพกร๊าฟของกระทรวงสาธารณสุขเครือรัฐออสเตรเลียแสดงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระหว่างวันที่ 22 ม.ค. 2020 ถึง 12 ส.ค. 2020 ในรูปแบบของกร๊าฟแท่งสีฟ้าแสดงยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน / นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ถึง 12 ส.ค. 2020 ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่เฉลี่ยวันละ 340.4 คน / ส่วนกร๊าฟเส้นสีเหลืองแสดงยอดผู้ป่วยสะสมในระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2020 ถึง 12 ส.ค. 2020

ภาพกร๊าฟปัจจัยการเจริญเติบโต (growth factor) ของวันที่ 12 ส.ค. 2020 อยู่ที่ 0.95 ชี้ให้เห็นออสเตรเลียสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ไว้ได้เป็นวันที่สาม และในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่เฉลี่ยวันละ 421 คน : ข้อมูลจากสำนักข่าว ABC
รายงานยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในออสเตรเลีย
ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากตัวเลขล่าสุดโดยกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย ณ 15.00 น. ของวันที่ 12 สิงหาคม 2020 มีผู้ติดเชื้อสะสม 22,127 คน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในช่วงสองวัน 730 คน นับจากเวลา 15.00 น.ของเมื่อวานนี้สามารถแยกผู้ป่วยเป็น
รัฐวิกตอเรีย 15,646 คน (เพิ่มขึ้น 689 คน), รัฐน.ซ.ว. 3,915 คน (เพิ่มขึ้น 40 คน), รัฐควีนสแลนด์ 1,089 คน, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย 642 คน, รัฐเซาท์ออสเตรเลีย 459 คน, รัฐแทสเมเนีย 230 คน (เพิ่มขึ้น 1 คน), ออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี 113 คน, นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี 33 คน

ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขเครือรัฐออสเตรเลียวันที่ 12 สิงหาคม 2020 แสดงจำนวนวันที่แต่ละรัฐและดินแดนปลอดจากผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่ : ข้อมูลจากสำนักข่าว ABC
ยอดผู้เสียชีวิตสะสมที่ 352 คน มีผู้รักษาหายแล้ว 12,774 ราย, มีการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศแล้วกว่า 5,041,00 คน โดยพบผู้ติดเชื้อในอัตรา 0.4%
ในจำนวนผู้ติดเชื้อรวมถึงผู้มาจากเรือสำราญ Diamond Princess จำนวน 10 คน แยกเป็นรัฐวิกตอเรีย 4 คน, ควีนสแลนด์ 3 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 2 คน และเซาท์ออสเตรเลีย 1 คน
และผู้ป่วยจากเรือสำราญ Ruby Princess จำนวน 189 คน, เรือสำราญ Ovation of the Seas 66 คน, Voyager of the Seas เรือสำราญ 26 คน, และจากเรือสำราญ Celebrity Solstice 2 คนให้ถือเป็นผู้ป่วยสะสมในรัฐนิวเซาท์เวลส์

ข่าวออนไลน์นสพ. The Mercury วันที่ 12 ส.ค. 2020 เสนอข่าวทางการรัฐแทสเมเนียมีความมั่นใจว่าจะเอาอยู่สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาดทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐ จากกรณีตรวจพบชายคนหนึ่งติดเชื้อไวรัสในวันที่ 11 ส.ค. 2020 หลังจากเขากลับจากนครเมลเบิร์น

ข่าวออนไลน์นสพ. The SMH วันที่ 12 ส.ค. 2020 เสนอข่าวการเปิดอุโมงค์ NorthConnex เชื่อมนครซิดนีย์เหนือและใต้ได้เกิดปัญหาใหม่ หลังมีความหวั่นเกรงว่าการเปิดอุโมงค์จะเป็นการเปิดทางสะดวกต่อการเคลื่อนที่ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากทางเหนือลงมาทางใต้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศนิวซีแลนด์และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ส่วนยอดผู้ติดเชื้อในนิวซีแลนด์ในวันนี้อยู่ที่ 1,579 คน มีผู้เสียชีวิต 22 คน และรักษาหายแล้ว 1,535 คน
ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สะสมเรียงจากมากไปหาน้อยดังนี้ ฟิลิปปินส์ 143,749 คน, อินโดนีเซีย 130,718 คน, สิงคโปร์ 55,395 คน, มาเลเซีย 9,114 คน, ไทย 3,356 คน, เวียดนาม 880 คน, พม่า 361 คน, กัมพูชา 268 คน, บรูไน 142 คน, ติมอร์-เลสเต 25 คน,และลาว 20 คน
ยอดผู้เสียชีวิตในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วยอินโดนีเซีย 5,903 คน, ฟิลิปปินส์ 2,404 คน, มาเลเซีย 125 คน, ประเทศไทย 58 คน, สิงคโปร์ 27 คน, เวียดนาม 17 คน, พม่า 6 คน, บรูไน 3 คน, กัมพูชา 0 คน, ลาว 0 คนและติมอร์-เลสเต 0 คน

นสพ. The Daily Telegraph ฉบับ 12 ส.ค. 2020 พาดหัวข่าว “การทดสอบที่ยากที่สุด” ไม่ใช่เป็นการทดสอบการเรียนของนักเรียน แต่เป็นการทดสอบการติดเชื้อโควิด-19 ในหมู่นักเรียนจำนวนมากหลังเกิดการติดเชื้อแบบกลุ่มในโรงเรียนทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครซิดนีย์ โดยเฉพาะที่โรงเรียน Tangara School for Girl ในย่าน Cherrybrook เขต Hornsby Shire มียอดนักเรียนและครูติดเชื้อเมื่อวานนี้เพิ่มจาก 9 คนเป็น 17 คน
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply