นสพ. Herald Sun ฉบับ 27 ก.ค. 2020 เสนอข่าวรัฐวิกตอเรียยังไม่เห็นวี่แววว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 จะสิ้นสุดลง นับวันยิ่งหนักขึ้น เมื่อวานมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 459 คนและวันนี้อีก 532 คน ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่ามาตรการล็อคดาวน์ส่อเค้าจะขยายต่อไป
27 ก.ค. 2020 ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมในออสเตรเลียในช่วงสองที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 985 คนรวมเป็น 14,935 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 16 คนเป็น 161 คน และผลการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศทำไปแล้ว 3,987,090 คน พบอัตราการติดเชื้อโดยเฉลี่ยที่ 0.4%
ในวันนี้เหลือผู้ป่วยติดเชื้อทั้งสิ้น 5,463 คน เป็นผู้เข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ 259 คน (ห้องไอซียู 49 คน) ส่วนที่เหลือเก็บตัวพักฟื้นอยู่ตามที่กักตัวและสถานที่พักส่วนบุคคล
ข่าวออนไลน์นสพ. The Age วันที่ 27 ก.ค. 2020 เสนอข่าวรัฐวิกตอเรียทำสถิติติดเชื้อโควิด-19 สูงสุดอีกครั้งด้วยผู้ติดเชื้อรายใหม่ 532 ราย และมีผู้เสียชีวิตอีก 6 คน ในจำนวนนี้ 5 คนเกี่ยวข้องกับสถานดูแลคนชรา ในขณะที่หน้าหนาวมีผู้ป่วยโรคปอดอักเสบเพิ่มขึ้นเกรงว่าจะมีการวินิจฉัยโรคสับสนกับอาการป่วยของไวรัสโควิด-19
สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกล่าสุด
ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมทั่วโลก 50 ประเทศแรก ณ เวลา 23.00 น. ของวันที่ 27 กรกฎาคม 2020 จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้ว 16,296,635 คน แยกเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา 4,238,500 คน, บราซิล 2,419,091 คน, อินเดีย 1,435,616 คน, รัสเซีย 816,680 คน, แอฟริกาใต้ 445,433 คน, เม็กซิโก 390,516 คน, เปรู 375,961 คน, ชิลี 345,790 คน, สหราชอาณาจักร 301,020 คน, อิหร่าน 293,606 คน, ปากีสถาน 274,289 คน, สเปน 272,421 คน, ซาอุดิอาระเบีย 268,934 คน, โคลัมเบีย 248,976 คน, อิตาลี 246,118 คน, บังคลาเทศ 226,225 คน, ตุรกี 226,100 คน, ฝรั่งเศส 217,801 คน, เยอรมนี 206,902 คน, อาร์เจนตินา 162,526 คน, แคนาดา 115,789 คน, อิรัก 112,585 คน, กาตาร์ 109,597 คน, อินโดนีเซีย 100,303 คน, อียิปต์ 92,062 คน, จีน 86,715 คน, คาซัคสถาน 83,122 คน, ฟิลิปปินส์ 82,040 คน, เอกวาดอร์ 80,694 คน, สวีเดน 79,395 คน, โอมาน 77,058 คน, โบลิเวีย 69,429 คน, เบลารูส 67,251 คน, ยูเครน 67,096 คน, เบลเยี่ยม 66,026 คน, คูเวต 64,379 คน, สาธารณรัฐโดมินิกัน 62,908 คน, อิสราเอล 62,626 คน, ปานามา 60,296 คน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 58,913 คน, เนเธอร์แลนด์ 53,424 คน, สิงคโปร์ 50,838 คน, โปรตุเกส 50,299 คน, โรมาเนีย 45,902 คน, กัวเตมาลา 45,053 คน, โปแลนด์ 43,402 คน, ไนจีเรีย 40,532 คน, ฮอนดูรัส 39,276 คน, บาห์เรน 39,131 คน,และอาร์มาเนีย 37,390 คน,/ ออสเตรเลีย 14,935 คน,และประเทศไทย 3,295 คน (ออสเตรเลียพุ่งพรวดมาอยู่ในอันดับที่ 72 ของโลก / ไทยอยู่อันดับที่ 106 ของโลก ในสองวันนี้มีผู้ป่วยเพิ่ม 13 คน เป็นผู้ป่วยมาจากต่างประเทศในโรงแรมที่กักกันทั้งสิ้น ทำให้ประเทศไทยไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศมาเป็นเวลา 63 วันติดต่อกัน)
และผู้เสียชีวิตจากข้อมูลของมหาวิทยลัยจอห์นฮอปกินส์มีทั้งสิ้น 649,662 คน แยกผู้เสียชีวิตจากมากไปหาน้อยดังนี้ สหรัฐ 146,968 คน, บราซิล 87,004 คน, สหราชอาณาจักร 45,837 คน, เม็กซิโก 43,680 คน, อิตาลี 35,107 คน, อินเดีย 32,771 คน, ฝรั่งเศส 30,195 คน, สเปน 28,432 คน, เปรู 17,843 คน, อิหร่าน 15,912 คน, รัสเซีย 13,334 คน, เบลเยี่ยม 9,821 คน, เยอรมนี 9,125 คน, ชิลี 9,112 คน, แคนาดา 8,934 คน, โคลัมเบีย 8,525 คน, แอฟริกาใต้ 6,769 คน, เนเธอร์แลนด์ 6,160 คน, ปากีสถาน 5,842 คน, สวีเดน 5,700 คน, ตุรกี 5,613 คน, เอกวาดอร์ 5,515 คน, อินโดนีเซีย 4,838 คน, จีน 4,654 คน, อียิปต์ 4,606 คน, อิรัก 4,458 คน, บังคลาเทศ 2,965 คน, อาร์เจนตินา 2,956 คน, ซาอุดิอาระเบีย 2,760 คน, โบลิเวีย 2,583 คน, โรมาเนีย 2,206 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 1,978 คน, ฟิลิปปินส์ 1,945 คน, ไอร์แลนด์ 1,764 คน,และกัวเตมาลา 1,734 คน,/ ออสเตรเลีย 161 คน (แยกเป็นน.ซ.ว. 49 คน, วิกตอเรีย 77 คน, แทสเมเนีย 13 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 9 คน, ควีนสแลนด์ 6 คน, เซาท์ออสเตรเลีย 4 คนและ ACT 3 คน) และประเทศไทย 58 คน
มีผู้ป่วยได้รับการรักษาจนหายแล้วข้อมูลจากสารนุกรมเสรีวิกิพีเดียมีทั้งสิ้น 9,431,033 คน เรียงจากมากไปหาน้อย บราซิล 1,634,274 คน, สหรัฐอเมริกา 1,300,254 คน, อินเดีย 917,568 คน, รัสเซีย 603,329 คน, ชิลี 319,954 คน, เปรู 267,850 คน, แอฟริกาใต้ 265,077 คน, อิหร่าน 255,144 คน, เม็กซิโก 251,505 คน, ปากีสถาน 241,026 คน, ซาอุดิอาระเบีย 222,936 คน, ตุรกี 209,487 คน, อิตาลี 198,593 คน, เยอรมนี 190,350 คน, สเปน 150,376 คน (ยอดไม่เคลื่อนไหวมาเป็นเดือนแล้ว), บังคลาเทศ 125,683 คน, โคลัมเบีย 125,037 คน, การ์ต้า 106,328 คน, แคนาดา 99,531 คน (ยอดถูกปรับลดลง), ฝรั่งเศส 80,815 คน, จีน 78,918 คน (เหลือผู้ป่วย 339 คน), อิรัก 77,144 คน, อาร์เจนตินา 70,505 คน, เบลารุส 60,492 คน, อินโดนีเซีย 58,173 คน, โอมาน 57,028 คน, คูเวต 55,057 คน, คาซัคสถาน 52,571 คน, สหรัฐอาหรับอิมิเรทต์ 52,510 คน, สิงคโปร์ 45,521 คน, ยูเครน 36,112 คน, บาห์เรน 35,689 คน, โปรตุเกส 35,375 คน,และเอกวาดอร์ 34,544 คน,/ ญี่ปุ่น 22,116 คน (เหลือผู้ป่วย 6,877 คน เข้าข่ายมีปัญหา), เกาหลีใต้ 12,905 คน (เหลือผู้ป่วย 971 คน), ออสเตรเลีย 9,311 คน (เหลือผู้ป่วย 5,463 คน น่าจะมีปัญหา), ประเทศไทย 3,111 คน (เหลือผู้ป่วย 126 คน), (หมายเหตุ ที่มีวงเล็บต่อท้ายเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยจนเหลือต่ำกว่า 2,500 คน และสหราชอาณาจักรเป็นประเทศเดียวที่ไม่มีรายงานผู้หายป่วยมาตั้งแต่แรก)
ภาพกร๊าฟของกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียแสดงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระหว่างวันที่ 22 ม.ค. 2020 ถึง 27 ก.ค. 2020 ในรูปแบบของกร๊าฟแท่งสีฟ้าแสดงยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน / นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ถึง 27 ก.ค. 2020 ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่เฉลี่ยวันละ 269.8 คน / ส่วนกร๊าฟเส้นสีเหลืองแสดงยอดผู้ป่วยสะสมในระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2020 ถึง 27 ก.ค. 2020
ภาพกร๊าฟปัจจัยการเจริญเติบโต (growth factor) ของวันที่ 27 ก.ค. 2020 อยู่ที่ 1.04 แสดงว่าออสเตรเลียยังอยู่ในระยะประสบปัญหาในการควบคุมการแพร่ของเชื้อไวรัส COVID-19 ติดต่อกันเป็นวันที่ 45 ซึ่งต้นเหตุยังอยู่ที่รัฐวิกตอเรีย และในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่เฉลี่ยวันละ 431 คน : ข้อมูลจากสำนักข่าว ABC
รายงานยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในออสเตรเลีย
ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากตัวเลขล่าสุดโดยกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย ณ 15.00 น. ของวันที่ 27 กรกฎาคม 2020 มีผู้ติดเชื้อสะสม 14,935 คน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในช่วงสองวัน 985 คนนับจากเวลา 15.00 น.ของเมื่อวานนี้สามารถแยกผู้ป่วยเป็น
รัฐน.ซ.ว. 3,685 คน (เพิ่มขึ้น 31 คน), รัฐวิกตอเรีย 8,696 คน (เพิ่มขึ้น 952 คน), รัฐควีนสแลนด์ 1,076 คน, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย 658 คน (เพิ่มขึ้น 2 คน), รัฐเซาท์ออสเตรเลีย 447 คน, รัฐแทสเมเนีย 229 คน, ออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี 113 คน, นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี 31 คน
ยอดผู้เสียชีวิตสะสมที่ 161 คน มีผู้รักษาหาย 9,311 ราย, มีการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศแล้วกว่า 3,987,000 คน โดยพบผู้ติดเชื้อในอัตรา 0.4%
ในจำนวนผู้ติดเชื้อรวมถึงผู้มาจากเรือสำราญ Diamond Princess จำนวน 10 คน แยกเป็นรัฐวิกตอเรีย 4 คน, ควีนสแลนด์ 3 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 2 คน และเซาท์ออสเตรเลีย 1 คน
และผู้ป่วยจากเรือสำราญ Ruby Princess จำนวน 189 คน, เรือสำราญ Ovation of the Seas 66 คน, Voyager of the Seas เรือสำราญ 26 คน, และจากเรือสำราญ Celebrity Solstice 2 คนให้ถือเป็นผู้ป่วยสะสมในรัฐนิวเซาท์เวลส์
ข่าวออนไลน์นสพ. Herald Sun วันที่ 27 ก.ค. 2020 เสนอข่าวถึงสตรีผู้ปฏิเสธไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัยเข้าห้าง Bunnings ซึ่งสื่อฯให้ฉายาเธอว่า “Bunnings Karen” และจั่วหัว ‘ไม่มีอะไรนอกจากดราม่า’ ถูกเพื่อนบ้านเปิดเผยเธอเป็นนักแอนตี้สังคม, ชอบเผชิญหน้ากับตำรวจ, ทำกิจกรรมก่อกองไฟสนามหลังบ้าน และมักโวยวายถึงกฎหมายบ้านเมืองว่า “เฮงซวย” / ในภาพคือ Kerry Nash เจ้าของฉายา Bunnings Karen
ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศนิวซีแลนด์และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ส่วนยอดผู้ติดเชื้อในนิวซีแลนด์ในวันนี้อยู่ที่ 1,556 คน มีผู้เสียชีวิต 22 คน และรักษาหายแล้ว 1,513 คน
ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สะสมเรียงจากมากไปหาน้อยดังนี้ อินโดนีเซีย 100,303 คน, ฟิลิปปินส์ 82,040 คน, สิงคโปร์ 50,838 คน, มาเลเซีย 8,904 คน, ไทย 3,295 คน, เวียดนาม 431 คน, พม่า 350 คน, กัมพูชา 225 คน, บรูไน 141 คน, ติมอร์-เลสเต 24 คน,และลาว 20 คน
ยอดผู้เสียชีวิตในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วยอินโดนีเซีย 4,838 คน, ฟิลิปปินส์ 1,945 คน, มาเลเซีย 124 คน, ประเทศไทย 58 คน, สิงคโปร์ 27 คน, พม่า 6 คน, บรูไน 3 คน, เวียดนาม 0 คน, กัมพูชา 0 คน, ลาว 0 คนและติมอร์-เลสเต 0 คน
นสพ. The Australian ฉบับ 27 ก.ค. 2020 เสนอข่าวสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในรัฐวิกตอเรียว่ายังอยู่ในกำมือของความตายและความกลัว มาตรการล็อคดาวน์ทำท่าจะต้องขยายออกไป หลังจากมาตรการคุ้มเข้มรวมถึงการสวมหน้ากากอนามัยยังใช้ไม่ได้ผล มีประชาชนส่วนหนึ่งต่อต้านอ้างว่าเป็นการลิดรอนเสรีภาพ / ผู้เสียชีวิตในรัฐวิกตอเรียในวันนี้มาอยู่ที่ 77 คนหรือเกือบครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ (48%) ในขณะที่ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 8,696 คนหรือเกือบสามในห้าของประเทศ (58%)
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply