สรุปสถานการณ์ไวรัส COVID-19 วันที่ 21 ก.ค. 2020

นสพ. The Daily Telegraph ฉบับ 21 ก.ค. 2020 พาดหัวข่าว ‘พระเจ้าช่วยด้วย’ ‘นักบวชป่วยได้แพร่กระจายเชื้อ’ เป็นเรื่องของการแพร่กระจายเชื้อที่โบสถ์ Our Lady of Lebanon ที่ย่าน Harris Park เขต City of Parramatta นครซิดนีย์ในระหว่างพิธีมิสซาวันที่ 15, 16 และ 17 กรกฎาคม

21 ก.ค. 2020 ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมในออสเตรเลียในช่วงสองที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 626 คนรวมเป็น 12,428 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 4 คนเป็น 126 คน และผลการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศทำไปแล้ว 3,590,735 คน พบอัตราการติดเชื้อโดยเฉลี่ยที่ 0.3%

ในวันนี้เหลือผู้ป่วยติดเชื้อทั้งสิ้น 3,761 คน เป็นผู้เข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ 183 คน รักษาตัวในห้องไอซียู 38 คน ส่วนที่เหลือเก็บตัวพักฟื้นอยู่ตามที่กักตัวและสถานที่พักส่วนบุคคล

ข่าวออนไลน์นสพ. Mercury วันที่ 21 ก.ค. 2020 เสนอข่าวพบผู้ป่วยรายแรกในรัฐแทสมาเนียทำให้สถิติไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ติดต่อกัน 66 วันสะดุดลงทันที หลังจากวันที่ 20 กรกฎาคมพบสตรีคนหนึ่งติดเชื้อไวรัส COVID-19 ภายในโรงแรมที่ใช้เป็นที่กักกันตัวหลังจากเธอกลับจากนครเมลเบิร์น ในภาพเป็นผู้ถูกกักกันภายในโรงแรมในนครโฮบาร์ทหลังจากทราบมีผู้ติดเชื้อแล้ว ต่างก็รับปากว่า “พวกเราจะไม่ออกจากห้อง”

สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกล่าสุด

ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมทั่วโลก 50 ประเทศแรก ณ เวลา 23.00 น. ของวันที่ 21 กรกฎาคม 2020 จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้ว 14,755,228 คน แยกเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา 3,845,680 คน, บราซิล 2,118,646 คน, อินเดีย 1,155,354 คน, รัสเซีย 782,040 คน, แอฟริกาใต้ 373,628 คน, เปรู 353,590 คน, เม็กซิโก 349,396 คน, ชิลี 330,930 คน, สหราชอาณาจักร 297,389 คน, อิหร่าน 278,827 คน, สเปน 266,194 คน, ปากีสถาน 266,096 คน,  ซาอุดิอาระเบีย 255,825 คน, อิตาลี 244,752 คน, ตุรกี 220,572 คน, ฝรั่งเศส 214,023 คน, บังคลาเทศ 210,510 คน, โคลัมเบีย 204,005 คน, เยอรมนี 203,565 คน, อาร์เจนตินา 130,774 คน, แคนาดา 112,938 คน, กาตาร์ 107,430 คน, อิรัก 97,159 คน, อินโดนีเซีย 89,869 คน, อียิปต์ 88,402 คน,  จีน 85,314 คน, สวีเดน 78,166 คน, เอกวาดอร์ 74,620 คน, คาซัคสถาน 73,468 คน, ฟิลิปปินส์ 70,764 คน, โอมาน 69,887 คน, เบลารูส 66,348 คน, เบลเยี่ยม 64,094 คน, ยูเครน 61,454 คน, โบลิเวีย 60,991 คน, คูเวต 60,434 คน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 57,498 คน, สาธารณรัฐโดมินิกัน 54,797 คน, ปานามา 54,426 คน, อิสราเอล 52,687 คน, เนเธอร์แลนด์ 52,305 คน, โปรตุเกส 48,898 คน, สิงคโปร์ 48,434 คน, โปแลนด์ 40,782 คน, โรมาเนีย 39,133 คน, กัวเตมาลา 39,039 คน, ไนจีเรีย 37,225 คน, บาห์เรน 36,936 คน, อัฟกานิสถาน 35,615 คน, และอาร์มาเนีย 35,254 คน,/ ออสเตรเลีย 12,428 คน,และประเทศไทย 3,255 คน (ออสเตรเลียพุ่งพรวดมาอยู่ในอันดับที่ 72 ของโลก / ไทยอยู่อันดับที่ 102 ของโลก ในสองวันนี้มีผู้ป่วยเพิ่ม 6 คน เป็นผู้ป่วยมาจากต่างประเทศในโรงแรมที่กักกันทั้งสิ้น ทำให้ประเทศไทยไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศมาเป็นเวลา 57 วันติดต่อกัน) 

และผู้เสียชีวิตจากข้อมูลของมหาวิทยลัยจอห์นฮอปกินส์มีทั้งสิ้น 611,090 คน แยกผู้เสียชีวิตจากมากไปหาน้อยดังนี้ สหรัฐ 141,118 คน, บราซิล 80,120 คน, สหราชอาณาจักร 45,507 คน, เม็กซิโก 39,485 คน, อิตาลี 35,073 คน, ฝรั่งเศส 30,180 คน, สเปน 28,424 คน, อินเดีย 28,084 คน, อิหร่าน 14,634 คน, เปรู 13,187 คน, รัสเซีย 12,561 คน, เบลเยี่ยม 9,805 คน, เยอรมนี 9,098 คน, แคนาดา 8,902 คน, ชิลี 8,503 คน, โคลัมเบีย 6,929 คน, เนเธอร์แลนด์ 6,155 คน, สวีเดน 5,646 คน, ปากีสถาน 5,639 คน, ตุรกี 5,508 คน, เอกวาดอร์ 5,318 คน, แอฟริกาใต้ 5,173 คน, จีน 4,644 คน, อียิปต์ 4,352 คน, อินโดนีเซีย 4,320 คน, อิรัก 3,950 คน, บังคลาเทศ 2,709 คน, ซาอุดิอาระเบีย 2,557 คน, อาร์เจนตินา 2,373 คน, โบลิเวีย 2,218 คน, โรมาเนีย 2,074 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 1,972 คน, ฟิลิปปินส์ 1,837 คน, ไอร์แลนด์ 1,753 คน, โปรตุเกส 1,697 คน, และ/ ออสเตรเลีย 126 คน (แยกเป็นน.ซ.ว. 49 คน, วิกตอเรีย 42 คน, แทสเมเนีย 13 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 9 คน, ควีนสแลนด์ 6 คน, เซาท์ออสเตรเลีย 4 คนและ ACT 3 คน) และประเทศไทย 58 คน

มีผู้ป่วยได้รับการรักษาจนหายแล้วข้อมูลจากสารนุกรมเสรีวิกิพีเดียมีทั้งสิ้น 8,332,461 คน เรียงจากมากไปหาน้อย บราซิล 1,409,202 คน, สหรัฐอเมริกา 1,130,205 คน, อินเดีย 724,578 คน, รัสเซีย 562,384 คน, ชิลี 303,992 คน, เปรู 245,081 คน, อิหร่าน 240,087 คน, เม็กซิโก 222,068 คน, ปากีสถาน 208,030 คน, ซาอุดิอาระเบีย 203,259 คน, ตุรกี 203,002 คน, อิตาลี 197,162 คน, แอฟริกาใต้ 194,865 คน, เยอรมนี 187,757 คน,  สเปน 150,376 คน (ยอดไม่เคลื่อนไหวมาเป็นเดือนแล้ว), บังคลาเทศ 111,870 คน, การ์ต้า 104,191 คน, แคนาดา 97,303 คน, โคลัมเบีย 95,804 คน, ฝรั่งเศส 79,244 คน, จีน 78,817 คน (เหลือผู้ป่วย 242 คน), อิรัก 62,836 คน, เบลารุส 58,592 คน, อาร์เจนตินา 55,900 คน, คูเวต 50,339 คน, สหรัฐอาหรับอิมิเรทต์ 49,964 คน, อินโดนีเซีย 48,466 คน, โอมาน 45,150 คน, สิงคโปร์ 44,371 คน, คาซัคสถาน 43,401 คน, โปรตุเกส 33,769 คน, บาห์เรน 32,965คน, ยูเครน 32,199 คน, โปแลนด์ 30,539 คน,/ ญี่ปุ่น 19,757 คน (เหลือผู้ป่วย 4,354 คน ส่งสัญญาณมีปัญหา), เกาหลีใต้ 12,643 คน (เหลือผู้ป่วย 877 คน ส่งสัญญาณดีขึ้น), ออสเตรเลีย 8,541 คน (เหลือผู้ป่วย 3,761 คน ส่งสัญญาณมีปัญหา), ประเทศไทย 3,105  คน (เหลือผู้ป่วย 92 คน), (หมายเหตุ ที่มีวงเล็บต่อท้ายเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยจนเหลือต่ำกว่า 2,500 คน และสหราชอาณาจักรเป็นประเทศเดียวที่ไม่มีรายงานผู้หายป่วยมาตั้งแต่แรก)

ภาพกร๊าฟของกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียแสดงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระหว่างวันที่ 22 ม.ค. 2020 ถึง 21 ก.ค. 2020 ในรูปแบบของกร๊าฟแท่งสีฟ้าแสดงยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน / นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ถึง 21 ก.ค. 2020 ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่เฉลี่ยวันละ 225.40 คน / ส่วนกร๊าฟเส้นสีเหลืองแสดงยอดผู้ป่วยสะสมในระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2020 ถึง 21 ก.ค. 2020

ภาพกร๊าฟปัจจัยการเจริญเติบโต (growth factor) ของวันที่ 21 ก.ค. 2020 อยู่ที่ 1.05 แสดงว่าออสเตรเลียอยู่ในระยะประสบปัญหาในการควบคุมการแพร่ของเชื้อไวรัส COVID-19 ติดต่อกันเป็นวันที่ 39 ซึ่งต้นเหตุยังอยู่ที่รัฐวิกตอเรีย และในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่เฉลี่ยวันละ 332 คน : ข้อมูลจากสำนักข่าว ABC

รายงานยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในออสเตรเลีย

ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากตัวเลขล่าสุดโดยกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย ณ 15.00 น. ของวันที่ 21 กรกฎาคม 2020 มีผู้ติดเชื้อสะสม 12,428 คน  โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในช่วงสองวัน 626 คนนับจากเวลา 15.00 น.ของเมื่อวานนี้สามารถแยกผู้ป่วยเป็น

รัฐน.ซ.ว. 3,599 คน (เพิ่มขึ้น 31 คน), รัฐวิกตอเรีย 6,289 คน (เพิ่มขึ้น 593 คน), รัฐควีนสแลนด์ 1,072 คน (เพิ่มขึ้น 1 คน), รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย 651คน, รัฐเซาท์ออสเตรเลีย 444 คน, รัฐแทสเมเนีย 229 คน (เพิ่มขึ้น 1 คน), ออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี 113 คน, นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี 31 คน

ยอดผู้เสียชีวิตสะสมที่ 126 คน มีผู้รักษาหาย 8,541 ราย, มีการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศแล้วกว่า 3,590,700 คน โดยพบผู้ติดเชื้อในอัตรา 0.3%   

ในจำนวนผู้ติดเชื้อรวมถึงผู้มาจากเรือสำราญ Diamond Princess จำนวน 10 คน แยกเป็นรัฐวิกตอเรีย 4 คน, ควีนสแลนด์ 3 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 2 คน และเซาท์ออสเตรเลีย 1 คน

และผู้ป่วยจากเรือสำราญ Ruby Princess จำนวน 189 คน, เรือสำราญ Ovation of the Seas 66 คน, Voyager of the Seas เรือสำราญ 26 คน, และจากเรือสำราญ Celebrity Solstice 2 คนให้ถือเป็นผู้ป่วยสะสมในรัฐนิวเซาท์เวลส์

ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขเครือรัฐออสเตรเลีย วันที่ 21 กรกฎาคม 2020 แสดงจำนวนวันที่แต่ละรัฐและดินแดนปลอดจากผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่ รัฐแทสเมเนียซึ่งปลอดผู้ติดเชื้อมาเป็นวันที่ 66 ติดต่อกันต้องกลับมาตั้งไข่ใหม่หลังมีสตรีชาวนครโฮบาร์ทคนหนึ่งกลับมาจากนครเมลเบิร์นแล้วถูกพบติดเชื้อ COVID-19 ในระหว่างถูกกันตัวภายในโรงแรม

ข่าวออนไลน์นสพ. The Courier Mail วันที่ 21 ก.ค. 2020 เสนอข่าว ตำรวจรัฐควีนสแลนด์ตามล่าผู้เดินทางจากต่างรัฐและต่างประเทศเข้ามาในรัฐ 185 คนได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย หลังจากพวกเขาได้ให้ข้อมูลเท็จเพื่อผ่านด่านเข้ามาในรัฐ ทำให้หวั่นวิตกว่าหากมีคนใดติดเชื้อก็จะทำให้รัฐ QLD เกิดการระบาดของเชื้อ COVID-19 อย่างที่เกิดในรัฐวิกตอเรีย

ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศนิวซีแลนด์และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนยอดผู้ติดเชื้อในนิวซีแลนด์ในวันนี้อยู่ที่ 1,555 คน มีผู้เสียชีวิต 22 คน และรักษาหายแล้ว 1,511 คน

ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สะสมเรียงจากมากไปหาน้อยดังนี้  อินโดนีเซีย 89,869 คน, ฟิลิปปินส์ 70,764 คน, สิงคโปร์ 48,434 คน, มาเลเซีย 8,815 คน, ไทย 3,255 คน, เวียดนาม 396 คน, พม่า 341 คน, กัมพูชา 197 คน, บรูไน 141 คน, ติมอร์-เลสเต 24 คน,และลาว 19 คน (ลาวมีผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์มา 97 วันติดต่อกัน ปลอดผู้ติดเชื้อ 100% มาตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน)

ยอดผู้เสียชีวิตในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วยอินโดนีเซีย 4,320 คน, ฟิลิปปินส์ 1,837 คน, มาเลเซีย 123 คน, ประเทศไทย 58 คน, สิงคโปร์ 27 คน, พม่า 6 คน, บรูไน 3 คน, เวียดนาม 0 คน, กัมพูชา 0 คน, ลาว 0 คนและติมอร์-เลสเต 0 คน

นสพ. The Australian ฉบับ 21 ก.ค. 2020 เสนอข่าวการระบาดของไวรัส COVID-19 ระลอกสองได้ทำลายแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ทำให้รัฐบาลกลางต้องขยายโครงการช่วยนายจ้างยังคงจ้างแรงงานตามโครงการ JobKeeper ต่อไปอีกโดยคาดว่าขยายจาก 6 เดือนเป็น 12 เดือน

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , , , ,

Leave a Reply

Discover more from jingjonews

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading