สรุปสถานการณ์ไวรัส COVID-19 วันที่ 19 ก.ค. 2020

ข่าวออนไลน์นสพ. Herald Sun วันที่ 19 ก.ค. 2020 เสนอข่าวรัฐวิกตอเรียใช้กฎข้อบังคับให้ผู้อยู่ในนครเมลเบิร์นทุกคนต้องสวมหน้าการผ้าหรือหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะและที่ทำงานในขณะที่ไวรัส COVID-19 ยังคงกระจายทั่วนครหลวง ไปพร้อมกับมีผู้ป่วยรายใหม่ในรัฐวิกตอเรีย 363 คนและเสียชีวิตอีก 3 คนภายใน 24 ชั่วโมง

19 ก.ค. 2020 ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมในออสเตรเลียในช่วงสองที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 567 คนรวมเป็น 11,802 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 6 คนเป็น 122 คน และผลการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศทำไปแล้ว 3,476,463 คน พบอัตราการติดเชื้อโดยเฉลี่ยที่ 0.3%

ในวันนี้เหลือผู้ป่วยติดเชื้อทั้งสิ้น 3,408 คน เป็นผู้เข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ 135 คน รักษาตัวในห้องไอซียู 29 คน ส่วนที่เหลือเก็บตัวพักฟื้นอยู่ตามที่กักตัวและสถานที่พักส่วนบุคคล

ข่าวออนไลน์นสพ.The Age วันที่ 19 ก.ค. 2020  เสนอข่าวรัฐบาลรัฐวิกตอเรียได้ประกาศในเช้าวันนี้ให้ชาวนครเมลเบิร์นและ Mitchell Shire ต้องสวมหน้ากากอนามัย, ใช้ผ้าพันคอ scarf หรือผ้าผันคอ bandana หรือสิ่งปกคลุมอื่น ๆ ปิดปาก-ปิดจมูก, เมื่อต้องออกนอกเคหสถานในช่วงล็อคดาวน์ โดยมีผลตั้งแต่เที่ยงคืนของวันพุธที่ 22 กรกฎาคม ผู้ฝ่าฝืนจะถูกปรับ 200 เหรียญ

สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกล่าสุด

ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมทั่วโลก 50 ประเทศแรก ณ เวลา 23.00 น. ของวันที่ 19 กรกฎาคม 2020 จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้ว 14,317,239 คน แยกเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา 3,712,604 คน, บราซิล 2,074,860 คน, อินเดีย 1,077,281 คน, รัสเซีย 770,311 คน, แอฟริกาใต้ 350,879 คน, เปรู 349,500 คน, เม็กซิโก 338,913 คน, ชิลี 328,846 คน, สหราชอาณาจักร 295,632 คน, อิหร่าน 273,788 คน, ปากีสถาน 263,496 คน, สเปน 260,255 คน,  ซาอุดิอาระเบีย 250,920 คน, อิตาลี 244,26 คน (ยอดปรับลดลง), ตุรกี 218,717 คน, ฝรั่งเศส 211,943 คน, บังคลาเทศ 204,525 คน, เยอรมนี 202,599 คน, โคลัมเบีย 190,700 คน, อาร์เจนตินา 122,524 คน, แคนาดา 111,875 คน, กาตาร์ 106,648 คน, อิรัก 90,220 คน, อียิปต์ 87,172 คน, อินโดนีเซีย 86,521 คน, จีน 85,314 คน,  สวีเดน 77,281 คน, เอกวาดอร์ 73,382 คน, คาซัคสถาน 70,339 คน, ฟิลิปปินส์ 67,456 คน, โอมาน 66,661 คน, เบลารูส 66,095 คน, เบลเยี่ยม 63,706 คน, ยูเครน 60,077 คน, คูเวต 59,204 คน, โบลิเวีย 58,138 คน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 56,922 คน, ปานามา 52,261 คน, เนเธอร์แลนด์ 51,809 คน, สาธารณรัฐโดมินิกัน 51,519 คน, อิสราเอล 49,575 คน, โปรตุเกส 48,636 คน, สิงคโปร์ 47,912 คน, โปแลนด์ 40,104 คน, โรมาเนีย 37,458 คน, ไนจีเรีย 36,107 คน, บาห์เรน 36,004 คน, อัฟกานิสถาน 35,475 คน, อาร์มาเนีย 34,877 คนและกัวเตมาลา 33,809 คน,/ ออสเตรเลีย 11,802 คน,และประเทศไทย 3,249 คน (ไทยอยู่อันดับที่ 101 ของโลก ในสองวันนี้มีผู้ป่วยเพิ่ม 10 คน เป็นผู้ป่วยมาจากต่างประเทศในโรงแรมที่กักกันทั้งสิ้น ทำให้ประเทศไทยไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศมาเป็นเวลา 55 วันติดต่อกัน) 

และผู้เสียชีวิตจากข้อมูลของมหาวิทยลัยจอห์นฮอปกินส์มีทั้งสิ้น 602,777 คน แยกผู้เสียชีวิตจากมากไปหาน้อยดังนี้ สหรัฐ 140,120 คน, บราซิล 78,772 คน, สหราชอาณาจักร 45,358 คน, เม็กซิโก 38,888 คน, อิตาลี 35,042 คน, ฝรั่งเศส 30,155 คน, สเปน 28,420 คน, อินเดีย 26,816 คน, อิหร่าน 14,188 คน, เปรู 12,998 คน, รัสเซีย 12,323 คน, เบลเยี่ยม 9,800 คน, เยอรมนี 9,091 คน, แคนาดา 8,892 คน, ชิลี 8,445 คน, โคลัมเบีย 6,516 คน, เนเธอร์แลนด์ 6,155 คน, สวีเดน 5,619 คน, ปากีสถาน 5,568 คน, ตุรกี 5,475 คน, เอกวาดอร์ 5,282 คน, แอฟริกาใต้ 4,948 คน, จีน 4,644 คน, อียิปต์ 4,251 คน, อินโดนีเซีย 4,143 คน, อิรัก 3,691 คน, บังคลาเทศ 2,618 คน, ซาอุดิอาระเบีย 2,486 คน, อาร์เจนตินา 2,246 คน, โบลิเวีย 2,106 คน, โรมาเนีย 2,026 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 1,969 คน, ฟิลิปปินส์ 1,831 คน, ไอร์แลนด์ 1,753 คน, โปรตุเกส 1,689 คน, และ/ ออสเตรเลีย 122 คน (แยกเป็นน.ซ.ว. 49 คน, วิกตอเรีย 38 คน, แทสเมเนีย 13 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 9 คน, ควีนสแลนด์ 6 คน, เซาท์ออสเตรเลีย 4 คนและ ACT 3 คน) และประเทศไทย 58 คน

มีผู้ป่วยได้รับการรักษาจนหายแล้วข้อมูลจากสารนุกรมเสรีวิกิพีเดียมีทั้งสิ้น 8,044,178 คน เรียงจากมากไปหาน้อย บราซิล 1,366,775 คน, สหรัฐอเมริกา 1,108,518 คน, อินเดีย 677,423 คน, รัสเซีย 550,344 คน, ชิลี 299,499 คน, เปรู 238,088 คน, อิหร่าน 235,300 คน, เม็กซิโก 213,006 คน, ปากีสถาน 204,276 คน,  ตุรกี 201,013 คน, อิตาลี 196,806 คน, ซาอุดิอาระเบีย 194,218 คน, เยอรมนี 187,157 คน, แอฟริกาใต้ 182,230 คน, สเปน 150,376 คน (ยอดไม่เคลื่อนไหวมาเป็นเดือนแล้ว), บังคลาเทศ 110,096 คน, การ์ต้า 103,023 คน, แคนาดา 96,912 คน, โคลัมเบีย 85,836 คน, ฝรั่งเศส 79,244 คน, จีน 78,775 คน (เหลือผู้ป่วย 251 คน), อิรัก 58,492 คน, เบลารุส 58,204 คน, อาร์เจนตินา 52,594 คน, คูเวต 49,020 คน, สหรัฐอาหรับอิมิเรทต์ 48,917 คน, อินโดนีเซีย 45,401 คน, สิงคโปร์ 43,833 คน,  โอมาน 42,772 คน, คาซัคสถาน 42,388 คน, โปรตุเกส 33,153 คน, บาห์เรน 31,765 คน, ยูเครน 30,879 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 30,100 คน (เหลือผู้ป่วย 1,704 คน),  / ญี่ปุ่น 19,366 คน (เหลือผู้ป่วย 3,781 คน ส่งสัญญาณเริ่มมีปัญหา), เกาหลีใต้ 12,556 คน (เหลือผู้ป่วย 894 คน ส่งสัญญาณดีขึ้น), ออสเตรเลีย 8,575 คน (เหลือผู้ป่วย 3,408 คน ส่งสัญญาณเเริ่มมีปัญหา), ประเทศไทย 3,096 คน (เหลือผู้ป่วย 95 คน), (หมายเหตุ ที่มีวงเล็บต่อท้ายเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยจนเหลือต่ำกว่า 2,500 คน และสหราชอาณาจักรเป็นประเทศเดียวที่ไม่มีรายงานผู้หายป่วยมาตั้งแต่แรก)

ภาพกร๊าฟของกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียแสดงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระหว่างวันที่ 22 ม.ค. 2020 ถึง 19 ก.ค. 2020 ในรูปแบบของกร๊าฟแท่งสีฟ้าแสดงยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน / นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ถึง 19 ก.ค. 2020 ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่เฉลี่ยวันละ 215.66 คน / ส่วนกร๊าฟเส้นสีเหลืองแสดงยอดผู้ป่วยสะสมในระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2020 ถึง 18 ก.ค. 2020

ภาพกร๊าฟปัจจัยการเจริญเติบโต (growth factor) ของวันที่ 19 ก.ค. 2020 อยู่ที่ 1.05 แสดงว่าออสเตรเลียอยู่ในระยะประสบปัญหาในการควบคุมการแพร่ของเชื้อไวรัส COVID-19 ติดต่อกันเป็นวันที่ 37 ซึ่งต้นเหตุยังอยู่ที่รัฐวิกตอเรีย และในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่เฉลี่ยวันละ 302 คน : ข้อมูลจากสำนักข่าว ABC

รายงานยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในออสเตรเลีย

ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากตัวเลขล่าสุดโดยกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย ณ 15.00 น. ของวันที่ 19 กรกฎาคม 2020 มีผู้ติดเชื้อสะสม 11,802 คน  โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในช่วงสองวัน 567 คนนับจากเวลา 15.00 น.ของเมื่อวานนี้สามารถแยกผู้ป่วยเป็น

รัฐน.ซ.ว. 3,568 คน (เพิ่มขึ้น 33 คน), รัฐวิกตอเรีย 5,696 คน (เพิ่มขึ้น 531 คน), รัฐควีนสแลนด์ 1,071 คน, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย 651 (เพิ่มขึ้น 3 คน), รัฐเซาท์ออสเตรเลีย 444 คน, รัฐแทสเมเนีย 228 คน, ออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี 113 คน, นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี 31 คน

ยอดผู้เสียชีวิตสะสมที่ 122 คน มีผู้รักษาหาย 8,272 ราย, มีการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศแล้วกว่า 3,476,000 คน โดยพบผู้ติดเชื้อในอัตรา 0.3%   

ในจำนวนผู้ติดเชื้อรวมถึงผู้มาจากเรือสำราญ Diamond Princess จำนวน 10 คน แยกเป็นรัฐวิกตอเรีย 4 คน, ควีนสแลนด์ 3 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 2 คน และเซาท์ออสเตรเลีย 1 คน

และผู้ป่วยจากเรือสำราญ Ruby Princess จำนวน 189 คน, เรือสำราญ Ovation of the Seas 66 คน, Voyager of the Seas เรือสำราญ 26 คน, และจากเรือสำราญ Celebrity Solstice 2 คนให้ถือเป็นผู้ป่วยสะสมในรัฐนิวเซาท์เวลส์

ข่าวออนไลน์รายการนสพ. The SMH วันที่ 19 ก.ค. 2020 เสนอข่าวชาวซิดนีย์นำพาตัวเองอยู่ในสภาพเสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 ด้วยการเมินเฉยต่อคำเตือนของกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องของการเว้นระยะห่างทางสังคมเมื่อเข้าไปอยู่ในกลุ่มคนแออัด

ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศนิวซีแลนด์และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนยอดผู้ติดเชื้อในนิวซีแลนด์ในวันนี้อยู่ที่ 1,553 คน มีผู้เสียชีวิต 22 คน และรักษาหายแล้ว 1,509 คน

ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สะสมเรียงจากมากไปหาน้อยดังนี้  อินโดนีเซีย 86,521 คน, ฟิลิปปินส์ 67,456 คน, สิงคโปร์ 47,912 คน, มาเลเซีย 8,779 คน, ไทย 3,249 คน, เวียดนาม 383 คน, พม่า 341 คน, กัมพูชา 171 คน, บรูไน 141 คน, ติมอร์-เลสเต 24 คน,และลาว 19 คน (ลาวมีผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์มา 95 วันติดต่อกัน ปลอดผู้ติดเชื้อ 100% มาตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน)

ยอดผู้เสียชีวิตในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วยอินโดนีเซีย 4,143 คน, ฟิลิปปินส์ 1,831 คน, มาเลเซีย 123 คน, ประเทศไทย 58 คน, สิงคโปร์ 27 คน, พม่า 6 คน, บรูไน 3 คน, เวียดนาม 0 คน, กัมพูชา 0 คน, ลาว 0 คนและติมอร์-เลสเต 0 คน

นสพ. The Daily Telegtaph ฉบับ 19 ก.ค. 2020 พาดหัว “ทันเวลาพอดิบพอดี” ด้วยการเล่นคำ ‘Nic’ แทน ‘Nick’ อันเป็นชื่อย่อของเจ๊ Nicole Kidman ดาราสาวเจ้าบทบาทผู้ทำได้แจ่มจันทร์ด้วยการนำทีมงานและดาราฮอลิวูดหนีไวรัสโควิด-19 จากสหรัฐมาถ่ายทำภาพยนตร์ซีรีส์ Nine Perfect Strangers จากหนังสือขายดีของ Liane Moriarty มูลค่า 100 ล้านเหรียญในรัฐน.ซ.ว. ทีมงานถ่ายทำทุกคนจะเข้ารับการกักกันตัวภาคบังคับแบบไม่เสียเวลาถ่ายทำ 14 วันภายใต้แนวทางที่รัฐบาลรัฐและรัฐบาลกลางกำหนด โดยเจ๊ Nicole และผู้อำนวยการผลิตร่วมเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายการกักกันทั้งหมด นอกจากนั้นยังจะจ้างแรงงานชาวออสเตรเลียอีกหลายร้อยคน โครงการนี้จึงถือว่ามีแต่ได้กับได้เท่านั้น

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , , , , ,

Leave a Reply

%d bloggers like this: