
โรงแรม Stamford Plaza Melbourne หนึ่งในโรงแรมกักกันผู้เดินทางจากต่างประเทศที่เกิดการติดเชื้อกลุ่ม ในหมู่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย : ภาพจิงโจ้นิวส์แคปจากวิดีโอข่าว 7 News
2 ก.ค. 2020 พบบริษัทเอกชนผู้ทำสัญญาดูแลผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศนำมากักกันตัวในโรงแรมโดยรัฐวิกตอเรียทำแสบทั้งฉ้อฉลและยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้าไปอีก
จากการสอบสวนหาความผิดพลาดของการระบาดไวรัสโคโรนา 2019 ในรัฐวิกตอเรียพบว่า ส่วนหนึ่งมาจากความเละเทะในระบบการกักกันโรคติดต่อที่โรงแรม
มีการกล่าวหาว่า บริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชนได้ฉ้อฉลและละเลยต่อการทำหน้าที่ควบคุมดูแลผู้ถูกกักกันโดยรัฐ (state quarantine หรือ hotel quarantine) อย่างร้ายแรงเป็นต้นว่า
1-เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (มี s) มีเซ็กซ์และร่วมหลับนอนกับผู้ถูกกักกันอย่างโจ๋งครึ่ม
2-เจ้าหน้าที่สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันนานเป็นเวลา 8 ชั่วโมงโดยไม่มีการเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่
3-เจ้าหน้าที่ทักทายกันด้วยการจับมือและใช้ลิฟท์ร่วมกันซึ่งถือว่าฝ่าฝืนกฎหลักการทิ้งระยะห่างทางร่างกายที่กำหนดไว้
4-เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (มี s) มักผลัดกันแอบไปหลับนอนในขณะปฏิบัติหน้าที่
5-ผู้ถูกกักกันที่เป็นครอบครัวได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องมาพบปะกับสมาชิกในครอบครัวเพื่อร่วมกิจกรรมเช่นเล่นไพ่และเล่นเกมส์อื่น ๆ
6-และที่ซ้ำหนักไปอีกก็คือมีการฉ้อฉลเงินภาษีของประชาชน

ป้ายปิดประตูหน้าโรงแรม Stamford Plaza Melbourne ประกาศปิดโรงแรมชั่วคราวหลังเกิดการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 : ภาพจิงโจ้นิวส์แคปจากวิดีโอข่าว 7 News
การฉ้อฉลภาษีของประชาชนด้วยการใช้บัญชีผี (ghosting rorts) เป็นต้นว่าพวกเขาแจ้งว่าใช้เจ้าหน้าที่ 30 นายเข้าดูแลในแต่ละกะ แต่แท้จริงแล้วใช้เจ้าหน้าที่เพียง 20 คน แล้วใช้ชื่อปลอมอีก 10 คนในการเบิกเงิน ซึ่งนอกจากจะเป็นการฉ้อฉลเงินภาษีของประชาชนแล้ว ยังทำให้คุณภาพในการกักกันขาดประสิทธิภาพ จนเป็นเหตุให้เกิดการติดเชื้อกลุ่ม (cluster) ในหมู่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
อย่างไรก็ตามบริษัทที่ก่อเหตุเป็นบริษัททำสัญญาช่วงต่อจากบริษัทที่ทำสัญญาหลักผู้ทำสัญญากับรัฐบาลวิกตอเรีย บริษัทรับช่วงเหล่านี้จ่ายเงินให้พนักงานด้วยเงินสด ไม่มีการออกใบสลิปการจ่ายค่าแรง
บริษัทรับช่วงใช้พนักงานที่ไม่มีประสบการณ์ เข้ารับการอบรมเพียงแค่ 6 ชั่วโมง พนักงานเหล่านี้คือตัวการที่ไม่ให้ความสำคัญต่อระเบียบการปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งคัดรวมถึงการมีเซ็กซ์กับผู้ถูกกักกัน จนเป็นสาเหตุของการติดเชื้อกลุ่ม
นาย Greg Hunt รัฐมนตรีสาธารณสุขของรัฐบาลกลางกล่าวว่า ถ้ารายงานนี้เป็นความจริง ถือว่าเป็นสิ่งยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง และสนับสนุนให้รัฐบาลรัฐวิกตอเรียเอาความผิดทางอาญา ไม่ว่าจะเป็นความผิดส่วนบุคคลหรือบริษัทก็ตาม
ในขณะเดียวกันคณะไต่สวนอิสระได้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อสอบสวนถึงเหตุที่บริษัทผู้รับสัญญาควบคุมดูแลผู้ถูกกักกันตามโรงแรมต่าง ๆ ในรัฐวิกตอเรียถึงได้เป็นจุดแพร่เชื้อและแพร่กระจายเชื้อไวรัสในหมู่เจ้าหน้าที่ด้วยกันและคนใกล้ชิดของพวกเขา

โรงแรม Rydges on Swanston หนึ่งในโรงแรมกักกันผู้เดินทางจากต่างประเทศที่เกิดการติดเชื้อกลุ่ม (cluster) ในหมู่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย : ภาพจิงโจ้นิวส์แคปจากวิดีโอข่าว 7 News
ขณะนี้รัฐวิกตอเรียได้ปิดโรงแรมทุกแห่งที่ใช้เป็นสถานที่กักกันผู้เดินทางเข้าประเทศ ผู้เดินทางเข้าประเทศรายใหม่จะถูกย้ายไปกักกันตัวในรัฐใกล้เคียง
เป็นที่คาดว่ารัฐนิวเซาท์เวลส์จะทำหน้าที่รับผู้เดินทางมารัฐวิกตอเรียแทน แต่นาง Gladys Berejiklian นายกรัฐมนตรีรัฐน.ซ.ว.ได้ขอให้รัฐบาลรัฐอื่น ๆ ช่วยแบ่งเบาภาระนี้ด้วย เนื่องจากในรัฐน.ซ.ว.มีโรงแรมเข้าร่วมโครงการจำกัด
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply