Black Lives Matter ทำครีมบำรุงผิวไวท์เทนนิ่งกลายเป็นสินค้าเหยียดสีผิว

ข่าวออนไลน์สำนักข่าว SBS วันที่ 27 มิ.ย. 2020 เสนอข่าวครีมบำรุงผิวขาวเผชิญถูกโจมตีเพิ่มขึ้นจากผลของกระแสเคลื่อนไหว “Black Lives Matter” / ภาพประกอบ SBS ระบุว่าเป็นร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามในกรุงเทพมหานครถ่ายในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2018

27 มิ.ย. 2020 การทบทวนระดับโลกาอภิปรายเกี่ยวกับลัทธิเหยียดหยามเชื้อชาติ ทำให้โรงงานผู้ผลิตต้องกับมาทบทวนสินค้าและแบรนด์ของตนเองเพิ่มขึ้น นับจากสินค้าบางอย่างได้ถูกโจมตีมาเป็นเวลานานแล้ว

อย่างเช่นครีมบำรุงผิวไวท์เทนนิ่งครีมที่ใช้แล้วช่วยทำให้ผิวดูขาวขึ้นกลายเป็นสินค้าล่าสุดที่ถูกเพ่งเล็งและมีการโจมตีในทั่วโลก โดยเริ่มปะทุขึ้นหลังจากเหตุการณ์เคลื่อนไหว “Black Lives Matter” หรือ “ชีวิตคนผิวสีก็มีความสำคัญ”

การเสียชีวิตของนาย George Floyd  ชายผิวสีขณะถูกตำรวจนครมินนีแอโพลิสในรัฐมินนิโซตาจับกุมเมื่อเดือนที่แล้วได้เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดกระแสเคลื่อนไหวการต่อต้านการรังเกียจเชื้อชาติกลับฟื้นขึ้นมาและเกิดการอภิปรายระดับโลกถึงความไม่เท่าเทียมกันทางเชื้อชาติ

ในสัปดาห์นี้บริษัท Unilever ซึ่งมีฐานอยู่ในอังกฤษได้ประกาศเปลี่ยนชื่อผลิตภัณฑ์ครีม Fair & Lovely  ซึ่งขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในทวีปเอเชีย ด้วยการลบคำว่า  “whitening” หรือ “lightening” ในการอ้างสรรพคุณทำให้ผิวขาวขึ้นออกไปจากฉลากแสดงสินค้า

นาง Sunny Jain ประธานผลิตภัณฑ์ความงามและการดูแลส่วนบุคคลของ Unilever ได้แถลงถึงการเปลี่ยนแปลงว่าเป็น “แนวคิดที่เป็นเอกลักษ์ของความงาม” แต่ก็ยังมีการโจมตีต่อไป เนื่องจากบริษัทไม่ได้ยุติการผลิตและจำหน่ายสินค้านี้ออกไป พวกเขาเห็นว่าเป็นการทำกำไรบนการเหยียดสีผิว

ไปพร้อมกับมีการเคลื่อนไหวขอให้ Unilever ยกเลิกสินค้า Fair & Lovely ออกไปโดยมีคนลงนามสนับสนุนแล้วกว่า 20,000 คนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ก่อนหน้านั้นไม่นานบริษัท Johnson & Johnson  ในสหรัฐอเมริกาประเทศต้นตอของการเคลื่อนไหว “Black Lives Matter” ได้ยุติการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Clean & Clear Fairness  ออกไปจากการขายในเอเชียและตะวันออกกลาง อันเนื่องมาจากชื่อและสรรพคุณสินค้าถูกทำให้เชื่อว่าผิวนวลสะอาดและผิวขาว (fairness or white) ดีกว่าสีผิวของผู้ใช้ ซึ่งหมายความว่าสินค้ากลุ่มนี้ไม่เข้าข่าย “ผิวที่มีสุขภาพดีคือผิวสวย” แต่ได้สื่อว่า “ผิวขาวคือผิวที่สวยกว่าผิวอื่นๆ”

การต่อต้านสินค้าที่แสดงการรังเกียจสีผิวมีมาอย่างยาวนาน ในปี 1989 บริษัท Colgate-Palmolive ได้เปลี่ยนชื่อยาสีฟันของตนที่ขายดีในประเทศจีนรวมถึงประเทศไทยจากยี่ห้อ “Darkie” เป็น “Darlie” แต่ยังคงโลโก้ ชายผิวดำสวมหมวกทรงสูงเอาไว้ และเมื่อไม่นานมานี้ได้เปลี่ยนเป็นคนผิวขาวสวมหมวกทรงสูงแทน หลังจากถูกโจมตีมาอย่างต่อเนื่อง

เมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมานาย Josh Thomas  ดาราตลกชาวออสเตรเลียได้ออกมาเรียกร้องให้ผลิตภัณฑ์เนยแข็ง Coon Cheese ของบริษัท Warrnambool Cheese and Butter เปลี่ยนชื่อสินค้าใหม่ เพราะคำว่า ‘Coon’ เป็นคำเรียกเหยียดชาวอะบอริจิน หากเรียกคนผิวขาวด้วยกันอาจหมายถึง “ไอ้คนไร้ค่า”

ภาพ คริส หอวังทาตัวสีดำในโฆษณาของบริษัท Seoul Secret ที่ถูกโจมตีเกลียดชังสีผิว

เมื่อต้นปี 2016 ที่ผ่านมาโฆษณาครีมบำรุงผิวขาวในประเทศไทยโดยบริษัท Seoul Secret ผู้นำเข้าสินค้าเสริมความงามจากเกาหลีใต้ด้วยการอ้างสรรพคุณว่าจะทำให้หญิงไทยมีผิวขาวผุดผ่องเหมือนผิวสาวชาวเกาหลี โดยมีคริส หอวังเซเลบริตี้และดาราชั้นแนวหน้าของไทยเป็นพรีเซ็นเตอร์ ด้วยสโลแกนว่า “แค่มีผิวขาว คุณก็ชนะแล้ว” หรือ “To win, you just have to be white.” ได้ถูกต่อต้านไปทั่วโลก และกลายเป็นตัวอย่างของสินค้าแสดงการเหยียดสีผิวแห่งปี จนบริษัทต้องออกมาขออภัยและถอนโฆษณาออกไป 

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , ,

Leave a Reply

%d bloggers like this: