นสพ. Herald Sun ฉบับ 9 ก.ค. 2014 เป็นภาพหน้าหนึ่งฉบับที่สองหลังจากนักข่าวของค่ายนี้ตามสืบไปพบ Lisa Marie Smith หลบหนีตำรวจสากลไปใช้ชีวิตอยู่ที่สาธารณรัฐไอร์แลนด์
25 มิ.ย. 2020 ชื่อ Lisa Marie Smith สำหรับคนไทยแล้วอาจไม่เคยชินเท่านาย Martin Garnett ชาวออสเตรเลียผู้ถูกกักขังในต่างประเทศที่ยาวนานที่สุดหรือนาย David McMillan อดีตพ่อค้ายาเสพติดชาวออสเตรเลียและผู้เคยหลบหนีจากเรือนจำในประเทศไทยก่อนออกหนังสือ Escape เล่าเรื่องประสบการณ์ใช้ชีวิตในเรือนจำและการแหกคุกในประเทศไทย
แต่ในออสเตรเลียชื่อ Lisa Marie Smith เป็นที่สนใจของชาวออสเตรเลียในชะตากรรมที่น่าสงสารของเธอ นอกจากนั้นเธอยังเป็นผู้หลบหนีคดียาเสพติดจากคุกไทยด้วยวิธีนิ่มนวลที่สุดคนหนึ่งที่สื่อ Herald Sun เคยกล่าวไว้ว่า “Money talks and bullsh-t walks” หรือ “เงินคือตัวบันดาล..การเจรจาโดยไร้ปัจจัยไม่ได้ผล” (หากให้ความหมายผิดพลาดต้องขออภัย)
Lisa ผู้นี้เคยเป็นสตรีที่โลกต้องการมากที่สุด ขณะนี้เธอไม่ได้อยู่ในบัญชีตามล่าตัวของตำรวจสากลอีกต่อไป หลังจากถูกขึ้นบัญชีตามล่ามาเป็นเวลา 24 ปี
ด้วยวัย 44 ปีในปัจจุบัน Lisa ขณะนี้ใช้ชีวิตอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ ในกรุงดับลินประเทศไอร์แลนด์ หลังจากธุรกิจร้านคาเฟ่ Hippetys Cafe Gallery Wine Bar ของเธอต้องปิดตัวลงอันเนื่องมาจากหนี้สินล้นตัว
Herald Sun เปิดเผยว่าหมาย(จับ)แดง (rad notice) ของตำรวจสากลซึ่งใช้แจ้งจับตัว Lisa ในทั่วโลกได้ขาดอายุลง
หมายแดงดังกล่าวตำรวจสากลได้ออกมาตั้งแต่ Lisa หลบหนีออกจากประเทศไทยในปี 1996 ขณะนี้ไม่ปรากฎชื่อของเธอในเว็บไซท์ของตำรวจสากล
แหล่งข่าวในประเทศไทยกล่าวว่า ตามกฎหมายของไทยว่าด้วยการออกหมายจับจะขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของข้อหา แต่หมายจับจะมีอายุไม่เกิน 20 ปี
ในปี 1996 Lisa แห่งนครเมลเบิร์นได้หลบหนีออกจากประเทศไทยโดยบินไปหลบอยู่ในประเทศกรีซ ก่อนต่อไปยังประเทศไอร์แลนด์ซึ่งไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย หลังจากถูกตรวจพบฝิ่นดิบ 4 กก.และยาบ้า 565 เม็ดในกระเป๋าเดินทางที่สนามบินดอนเมืองขณะจะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น
เธอใช้เวลา 5 เดือนอยู่ในเรือนจำกรุงเทพฯที่ชาวออสเตรเลียและคนทั่วโลกรู้จักดีในชื่อ “Bangkok Hilton” ที่ขึ้นชื่อถึงความโหดระดับต้น ๆ ของโลก (ในขณะนั้น) ก่อนที่นาย Terence Smith บิดาซึ่งขณะนั้นเป็นผู้บริหารของบริษัท National Mutual Asia ใช้เงิน 74,000 เหรียญเพื่อประกันตัวบุตรสาวออกมา
กว่าที่ทางการไทยจะรับรู้ว่า Lisa หลบหนีออกนอกประเทศไปนานแล้ว ก็เมื่อถึงเวลาที่ศาลนัดขึ้นพิจารณาคดี
ภาพประกอบข่าว Lisa Marie Smith ตามเข็มนาฬิกาจากบนซ้าย ภาพที่หนึ่งและสองเป็นภาพ Lisa ในปัจจุบัน, ภาพสามและหกในปี 2014 และภาพเจ็ดขณะถูกจับในปี 1996
Lisa หายตัวอย่างไร้ร่องรอย จนกระทั่งในกลางปี 2014 หรืออีก 18 ปีต่อมาสื่อ Herald Sun แกะรอยไปพบเธอเปิดคาเฟ่ Hippetys Bar ในกรุงดับลิน
ส่วนนาย Smith บิดาและนาง Bobyn Smith ปัจจุบันอยู่อาศัยในย่านผู้มีอันจะกินติดชายหาดของนครเมลเบิร์นไม่ขอให้ความเห็นถึงเหตุการณ์ปัจจุบันและในอดีต ที่รวมถึงการได้มาซึ่งหนังสือเดินทางออสเตรเลียหรือสหราชอาณาจักรในปี 1996 ที่เป็นใบเบิกทางให้ Lisa หลบหนีออกจากประเทศไทย ซึ่งนาย Smith เป็นผู้ถือทั้งสัญชาติออสเตรเลียและสัญชาติอังกฤษ
ในเหตุการณ์ครั้งนั้น Lisa อ้างว่าชายชาวปากีสถานซึ่งเธอพบที่บาร์ในกรุงเทพฯได้ชักชวนเธอไปเที่ยวต่อที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนออกเดินทางเขาฝากให้เธอช่วยนำกระเป๋าขอเขาไปญี่ปุ่น เพราะน้ำหนักกระเป๋าของเขาเกิน โดยเขาจะตามไปที่หลัง แต่เมื่อเธอมาจะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองก็มีตำรวจมารอเธออยู่แล้ว หลังจากมีผู้ให้เบาะแสแก่ตำรวจ
ชาวออสเตรเลียหลายคนเชื่อว่า Lisa เป็นเหยื่อของชายชาวปากีสถาน ที่เข้ามาตีสนิทเธอ ผู้เป็นอดีตนักเรียนโรงเรียนกินนอนหญิงล้วน St Michael’s Collegiate ในรัฐแทสเมเนียที่ยังอ่อนต่อโลก
ขณะนั้นถูกจับเธอเป็นนักศึกษาวัย 20 ปี เดินทางมาท่องเที่ยวนอกประเทศตามลำพังเป็นคร้งแรก โดยนาย Smith ผู้เป็นบิดาขณะทำงานอยู่ที่ฮ่องกงให้ของขวัญบุตรสาวให้มาท่องเที่ยวประเทศไทย ประเทศที่นาย Smith โปรดปรานที่สุด
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวคนไทยในออสเตรเลีย, ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply