ข่าวออนไลน์สำนักข่าว ABC วันที่ 17 มิ.ย. 2020 เสนอข่าว รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวให้ความเห็น พรมแดนออสเตรเลียมีท่าทีว่าจะปิดตัวไม่รับการท่องเที่ยวระหว่างชาติชาติไปอีกจนกว่าจะถึงปีหน้า
17 มิ.ย. 2020 ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมในออสเตรเลียในช่วงสองวันนี้เพิ่มขึ้น 35 รายเป็น 7,370 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 102 คน และผลการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศทำไปแล้ว 1,876,117 คน พบอัตราการติดเชื้อโดยเฉลี่ยที่ 0.4%
ในวันนี้เหลือผู้ป่วยติดเชื้อทั้งสิ้น 398 คน เป็นผู้เข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ 16 คน รักษาตัวในห้องไอซียู 3 คน ส่วนที่เหลือเก็บตัวพักฟื้นอยู่ตามศูนย์กักตัวและสถานที่พักส่วนบุคคล
ออสเตรเลียมีท่าทีจะปิดประเทศงดท่องเที่ยวจนกว่าจะถึงปีหน้า
นาย Simon Birmingham รัฐมนตรีการท่องเที่ยวกล่าวว่าการปิดพรมแดนของประเทศเพื่อป้องกันไวรัส COVID-19 ยังมีต่อไป โดยจะยังไม่เปิดต้อนรับการท่องเที่ยวทั่วไปจนกว่าจะถึงปีหน้า
อย่างไรก็ตามออสเตรเลียยังไม่ปิดการเจรจาคู่ประเทศท่องเที่ยว travel bubble ที่รวมถึงกับประเทศนิวซีแลนด์ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด แต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดกรอบของเวลาว่าจะเริ่มเมื่อใด
ในปีที่ผ่านมาชาวออสเตรเลียได้ใช้จ่ายเงินจำนวน 65 พันล้านเหรียญในการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ นาย Birmingham ได้ขอให้ชาวออสเตรเลียเปลี่ยนมาท่องเที่ยวภายในประเทศสำหรับช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้
ถึง ณ วันนี้มีเพียงรัฐนิวเซาท์เวลส์, รัฐวิกตอเรีย และออสเตรเลียแคพิทอลเทร์ริทอรีเท่านั้นที่เปิดพรมแดนรับชาวออสเตรเลียจากทุกรัฐและดินแดนเข้ามาเยือน
นสพ. The Advertiser ฉบับ 17 มิ.ย. 2020 เสนอข่าวรัฐเซาท์ออสเตรเลียเปิดพรมแดนต้อนรับเพียงแค่สองรัฐและหนึ่งดินแดนเท่านั้น หากพิจารณาจากแผนที่ตรงมุมขวาล่างรัฐ SA สีเขียวเปิดประตูรับผู้มาจาก NT, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียและรัฐแทสเมเนีย แต่ยังแสดงการเลือกที่รักมักที่ชังด้านเชื้อโรคกับรัฐสีขาวที่มีกากบาทคือรัฐน.ซ.ว., รัฐวิกตอเรีย, ควีนสแลนด์และ ACT
สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกล่าสุด
ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมทั่วโลก 50 ประเทศแรก ณ เวลา 23.00 น. ของวันที่ 17 มิถุนายน 2020 จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้ว 8,217,627 คน แยกเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา 2,143,193 คน, บราซิล 923,189 คน, รัสเซีย 552,549 คน, อินเดีย 354,065 คน, สหราชอาณาจักร 300,715 คน, สเปน 244,683 คน, อิตาลี 237,828 คน, เปรู 237,156 คน, อิหร่าน 195,051 คน, ฝรั่งเศส 194,347 คน, เยอรมนี 188,474 คน, ชิลี 184,449 คน, ตุรกี 181,298 คน, เม็กซิโก 154,863 คน, ปากีสถาน 154,760 คน, ซาอุดิอาระเบีย 141,234 คน, แคนาดา 101,102 คน, บังคลาเทศ 98,489 คน, จีน 84,432 คน, กาตาร์ 83,174 คน, แอฟริกาใต้ 76,334 คน, เบลเยี่ยม 60,244 คน, เบลารูส 56,032 คน, โคลัมเบีย 55,083 คน, สวีเดน 54,562 คน, เนเธอร์แลนด์ 49,412 คน, เอกวาดอร์ 47,943 คน, อียิปต์ 47,856 คน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 42,982 คน, อินโดนีเซีย 41,431 คน (แซงสิงคโปร์อีกครั้ง), สิงคโปร์ 41,216 คน, โปรตุเกส 37,672 คน, คูเวต 37,533 คน, อาร์เจนตินา 34,159 คน, ยูเครน 33,986 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 31,183 คน, โปแลนด์ 30,701 คน, ฟิลิปปินส์ 27,238 คน, อัฟกานิสถาน 26,874 คน, โอมาน 26,079 คน, ไอร์แลนด์ 25,334 คน, อิรัก 24,254 คน, สาธารณรัฐโดมินิกัน 24,105 คน, โรมาเนีย 22,760 คน, ปานามา 21,962 คน, โบลิเวีย 19,883 คน, อิสราเอล 19,637 คน, บาห์เรน 19,553 คน, อาร์มาเนีย 18,033 คน,และญี่ปุ่น 17,530 คน,/ ออสเตรเลีย 7,370 คน,และประเทศไทย 3,135 คน (ไทยอยู่อันดับที่ 91 ของโลก ในสองวันนี้มีผู้ป่วยเพิ่ม 0 คน ทำให้ประเทศไทยไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศมาเป็นเวลา 23 วันติดต่อกัน)
และผู้เสียชีวิตจากข้อมูลของมหาวิทยลัยจอห์นฮอปกินส์มีทั้งสิ้น 445,012 คน แยกผู้เสียชีวิตจากมากไปหาน้อยดังนี้ สหรัฐ 117,129 คน, บราซิล 45,241 คน, สหราชอาณาจักร 42,238 คน, อิตาลี 34,448 คน, ฝรั่งเศส 29,550 คน, สเปน 27,136 คน (ยอดไม่เคลื่อนไหวมาหลายวันแล้ว), เม็กซิโก 18,310 คน, อินเดีย 11,903 คน, เบลเยี่ยม 9,675 คน, อิหร่าน 9,185 คน, เยอรมนี 8,844 คน, แคนาดา 8,277 คน, รัสเซีย 7,468 คน, เปรู 7,056 คน, เนเธอร์แลนด์ 6,093 คน, สวีเดน 5,041 คน, ตุรกี 4,842 คน, จีน 4,638 คน, เอกวาดอร์ 3,970 คน, ชิลี 3,383 คน, ปากีสถาน 2,975 คน, อินโดนีเซีย 2,276 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 1,956 คน, โคลัมเบีย 1,887 คน, อียิปต์ 1,766 คน, ไอร์แลนด์ 1,709 คน, แอฟริกาใต้ 1,625 คน, โปรตุเกส 1,523 คน, โรมาเนีย 1,451 คน, บังคลาเทศ 1,305 คน, โปแลนด์ 1,286 คน, ฟิลิปปินส์ 1,108 คน, ซาอุดิอาระเบีย 1,091 คน, ยูเครน 953 คน,และญี่ปุ่น 935 คน,/ ออสเตรเลีย 102 คน (แยกเป็นน.ซ.ว. 48 คน, วิกตอเรีย 19 คน, แทสเมเนีย 13 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 9 คน, ควีนสแลนด์ 6 คน, เซาท์ออสเตรเลีย 4 คนและ ACT 3 คน) และประเทศไทย 58 คน
มีผู้ป่วยได้รับการรักษาจนหายแล้วข้อมูลจากสารนุกรมเสรีวิกิพีเดียมีทั้งสิ้น 4,013,202 คน เรียงจากมากไปหาน้อย สหรัฐอเมริกา 680,277 คน, บราซิล 477,364 คน, รัสเซีย 304,342 คน, อิตาลี 179,455 คน, อินเดีย 186,935 คน, เยอรมนี 173,557 คน, อิหร่าน 154,812 คน, ตุรกี 154,640 คน, สเปน 150,376 คน (ยอดไม่เคลื่อนไหวมาหลายวันแล้ว), เปรู 125,205 คน, เม็กซิโก 116,178 คน, ซาอุดิอาระเบีย 91,662 คน, จีน 78,379 คน (เหลือผู้ป่วย 252 คน), ฝรั่งเศส 73,335 คน, การ์ต้า 62,172 คน, แคนาดา 61,796 คน, ปากีสถาน 58,437 คน, ชิลี 44,946 คน (ยอดไม่เคลื่อนไหวมาหลายวันแล้ว), แอฟริกาใต้ 42,063 คน, บังคลาเทศ 38,189 คน (ประเทศนี่ยอดพุ่งฉิวมาก), เบลารุส 32,735 คน, สิงคโปร์ 31,163 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 28,900 คน, คูเวต 28,896 คน, สหรัฐอาหรับอิมิเรทต์ 28,861 คน, โปรตุเกส 23,580 คน, ไอร์แลนด์ 23,308 คน (เหลือผู้ป่วย 323), โคลัมเบีย 20,366 คน, เบลเยี่ยม 16,684 คน, อินโดนีเซีย 16,243 คน, โรมาเนีย 16,117 คน,และออสเตรีย 16,099 คน (เหลือผู้ป่วย 507 คน),/ ญี่ปุ่น 15,850 คน (เหลือผู้ป่วย 847 คน), เกาหลีใต้ 10,774 คน (เหลือผู้ป่วย 1,145 คน), ออสเตรเลีย 6,870 คน (เหลือผู้ป่วย 395 คน ยอดคงเหลือที่แท้จริง 398), ประเทศไทย 2,996 คน (เหลือผู้ป่วย 81 คน), (หมายเหตุ ที่มีวงเล็บต่อท้ายเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยจนเหลือต่ำกว่า 2,500 คน และสหราชอาณาจักรเป็นประเทศเดียวที่ไม่มีรายงานผู้หายป่วยมาตั้งแต่แรก)
ภาพกร๊าฟของกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียแสดงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระหว่างวันที่ 22 ม.ค. 2020 ถึง 17 มิ.ย. 2020 ในรูปแบบของกร๊าฟแท่งสีฟ้าแสดงยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ในช่วงระหว่างวันที่ 12 เม.ย. ถึง 17 มิ.ย. 2020 ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่เฉลี่ยวันละ 16.13 คน / ส่วนกร๊าฟเส้นสีเหลืองแสดงยอดผู้ป่วยสะสมในระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2020 ถึง 17 มิถุนายน 2020
ข่าวออนไลน์นสพ. The Mercury วันที่ 17 มิ.ย. 2020 เสนอข่าว แม้รัฐแทสเมเนียจะไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 หลงเหลือ แต่ตำรวจยังคงตรวจเช็ค และขอให้ประชาชน 920 คนที่อยู่ในการกักกันตัวภาคบังคับให้ความร่วมมือ หลังจากมียอดผู้ถูกจับละเมิดกฎกักกันตัวหลายราย
รายงานยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในออสเตรเลีย
ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากตัวเลขล่าสุดโดยกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย ณ 15.00 น. ของวันที่ 17 มิถุนายน 2020 มีผู้ติดเชื้อสะสม 7,370 คน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในช่วงสองวัน 35 คนนับจากเวลา 15.00 น.ของเมื่อวานนี้สามารถแยกผู้ป่วยเป็น (ม.จอห์นฮอปกินส์ระบุออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อ 7,370 คน ส่วนวิกีพีเดียระบุ 7,367 คน)
รัฐน.ซ.ว. 3,135 คน (เพิ่มขึ้น 4 คน), รัฐวิกตอเรีย 1,762 คน (เพิ่มขึ้น 30 คน), รัฐควีนสแลนด์ 1,066 คน (เพิ่มขึ้น 1 คน), รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย 602, รัฐเซาท์ออสเตรเลีย 440 คน, รัฐแทสเมเนีย 228 คน, ออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี 108 คน, นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี 29 คน
ในจำนวนนี้เสียชีวิตสะสมที่ 102 คน มีผู้รักษาหาย 6,870 ราย, มีการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศแล้วกว่า 1,876,000 คน โดยพบผู้ติดเชื้อในอัตรา 0.4%
ในจำนวนผู้ติดเชื้อรวมถึงผู้มาจากเรือสำราญ Diamond Princess จำนวน 10 คน แยกเป็นรัฐวิกตอเรีย 4 คน, ควีนสแลนด์ 3 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 2 คน และเซาท์ออสเตรเลีย 1 คน
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขเครือรัฐออสเตรเลียวันที่ 17 มิถุนายน แสดงจำนวนวันที่แต่ละรัฐและดินแดนปลอดจากผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่ จะเห็นว่ารัฐแทสเมเนียปลอดผู้ติดเชื้อเป็นวันที่ 33 และนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีเข้าสู่วันที่ 46 ติดต่อกัน
ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศนิวซีแลนด์และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ส่วนยอดผู้ติดเชื้อในนิวซีแลนด์ในวันนี้อยู่ที่ 1,506 คน มีผู้เสียชีวิต 22 คน และรักษาหายแล้ว 1,482 คน
ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สะสมเรียงจากมากไปหาน้อยดังนี้ อินโดนีเซีย 41,431 คน (แซงหน้าสิงคโปร์อีกครั้งในวันนี้), สิงคโปร์ 41,216 คน, ฟิลิปปินส์ 27,238 คน, มาเลเซีย 8,515 คน, ไทย 3,135 คน, เวียดนาม 335 คน, พม่า 262 คน, บรูไน 141 คน, กัมพูชา 128 คน, ติมอร์-เลสเต 24 คน,และลาว 19 คน (ลาวมีผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์มา 65 วันติดต่อกัน ปลอดผู้ติดเชื้อ 100% มาตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน)
ยอดผู้เสียชีวิตในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วยอินโดนีเซีย 2,276 คน, ฟิลิปปินส์ 1,108 คน, มาเลเซีย 121 คน, ประเทศไทย 58 คน, สิงคโปร์ 26 คน, พม่า 6 คน, บรูไน 3 คน, เวียดนาม 0 คน, กัมพูชา 0 คน, ลาว 0 คนและติมอร์-เลสเต 0 คน
นสพ. The West Australian ฉบับ 17 มิ.ย. 2020 เสนอข่าวผลการวิจัยของ Pained Dog Research บริษัทวิจัยตลาดในนครเพิร์ทพบว่าชาวรัฐน.ซ.ว.และรัฐวิกตอเรียขาดความเข้าใจที่เชื่อว่ารัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียไม่มีบทบาทสำคัญในการส่งออก แท้จริงแล้วบัวใต้น้ำทั้งสิ้น / อันนี้ขออนุญาตเสริมเมื่อครั้งที่เศรษฐกิจโลกดี รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียส่งสินแร่ไปขายในประเทศจีนเป็นจำนวนมาก รัฐ WA เคยเป็นรัฐที่มีเศรษฐกิจดีที่สุดในประเทศอยู่ช่วงหนึ่งทีเดียว
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply