
ข่าวออนไลน์สำนักข่าว SBS วันที่ 23 พ.ค. 2020 สำนักงานให้บริการด้านการใช้ความรุนแรงภายในครอบครัวกล่าวว่านักศึกษาต่างชาติในนครซิดนีย์ถูกสามีฆ่าตายก็เนื่องจากเธอไม่มีที่จะไป”
23 พ.ค. 2020 ข่าวนักศึกษาต่างชาติถูกสามีฆ่าอย่างโหดเหี้ยมภายในที่พักในนครซิดนีย์ แม้ฝ่ายหญิงจะมีคำสั่ง AVO (ห้ามกระทำการใด ๆ ที่เข้าข่ายว่าจะใช้ความรุนแรงภายในครอบครัว) เป็นเกราะคุ้มกันแล้วก็ตาม ได้เป็นข่าวที่สื่อมวลชนทุกสำนักเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อวานนี้
บัดนี้ได้มีการเรียกร้องให้รัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์เพิ่มมาตรการที่ดีกว่าในการสนับสนุนผู้ถือวีซ่าชั่วคราว ผู้เผชิญต่อการใช้ความรุนแรงจากคนในครอบครัวในช่วงของไวรัสโคโรนา 2019 ระบาด
นาง Kamaljeet Sidhu นักศึกษาจากประเทศอินเดียวัย 27 ปีถูกนาย Baltej Lailna วัย 31 ปีสามีเชื้อชาติเดียวกันแทงเสียชีวิตภายในบ้านทาวน์เฮาส์สองชั้นที่ถนน Ramona Ave. ย่าน Quakers Hill เขต City of Blacktown ในตอนกลางคืนของวันพุธที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน ทั้งสองได้มีปากเสียงกันถึงขั้นลงไม้ลงมือจนต้องขึ้นโรงพักที่สถานีตำรวจ Quakers Hill จบลงด้วยตำรวจต้องออกคำสั่ง AVO แก่ทั้งคู่ อย่างไรก็ตามทั้งสองยังได้รับอนุญาตให้อยู่ร่วมกันในบ้านทาวน์เฮาส์ที่แชร์กับคนอื่น
แหล่งข่าวกล่าวว่านาย Lailna ผู้เป็นสามีได้สังหารนาง Sidhu ด้วยการใช้มีดทำครัวขนาด 15 ซม.แทงและปาดคอ
น้องชายของนาง Sidhu ซึ่งอยู่อาศัยที่ทาวน์เฮาส์หลังนั้นด้วย ได้พบเธอนอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ภายในห้องนอน หลังจากที่เขากลับจากทำงาน
ในขณะที่นาย Lailna ถูกพบยืนอยู่ที่ทางเข้าห้อง ที่แขนของเขามีเลือดออกมาจากการถูกมีดบาด ต่อมาเขาถูกตำรวจจับกุมที่ภายนอกบ้าน
นาย Lailna ถูกนำตัวขึ้นศาลท้องถิ่น Parramatta ในวันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม ที่ซึ่งศาลประทับรับฟ้องในข้อหาฆาตกรรมและปฏิเสธการให้ประกันตัว โดยมีกำหนดขึ้นศาลครั้งต่อไปในวันที่ 17 กรกฎาคม
นาย Lailna และนาง Sidhu เดินทางมาจากประเทศอินเดียเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาทั้งสองแต่งงานอยู่กินกันมาได้ 4 ปี ที่ออสเตรเลียนาย Lailna ทำงานเป็นพยาบาลไม่เต็มเวลาที่สถานดูแลคนชรา ส่วนนาง Sidhu เรียนหนังสือเต็มเวลา
ภายในทาวน์เฮาส์หลังที่เกิดเหตุยังมีคู่สามีภรรยาอีกคู่หนึ่งและสตรีอีกคนหนึ่งร่วมเช่าบ้านทาวน์เฮาส์ด้วยกัน ยังไม่รวมน้องชายของผู้ตายซึ่งเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ โดยพวกเขามีเวลาอยู่อาศัยในบ้านไม่ตรงกัน ทุกคนมาจากประเทศอินเดียและถือวีซ่านักเรียนด้วยกันทั้งสิ้น
กลุ่มผู้สนับสนุนเหยื่อออกมากล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการเตือนให้รัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์ต้องแกไข้ด้วยการให้สิทธิ์สตรีผู้ถือวีซ่าอยู่อาศัยชั่วคราวเท่ากับสตรีทั่วไปในการเข้าถึงความช่วยเหลือจากการที่พวกเธอต้องเผชิญกับการใช้ความรุนแรงภายในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของการจัดหาที่อยู่อาศัย
นาง Hayley Foster ผู้อำนวยการ Women’s Safety NSW กล่าวว่า ในสภาพความเป็นจริงแล้วมีสตรีผู้ถือวีซ่าชั่วคราวได้มาขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของเธอ แต่พวกเขาก็มีโอกาสน้อยมากที่จะเข้าถึงการได้ที่พักชั่วคราว
นาง Foster กล่าวว่าในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมามีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ให้ความเห็นถึงเหตุการณ์ที่ Quakers Hill ว่าผู้ตายควรออกมาจากบ้านหลังนั้น แต่คำตอบง่าย ๆ ของเธอก็คือ นาง Sidhu “ไม่มีทางเลือก เพราะเธอไม่มีที่จะไป”
ภายใต้เงื่อนไขของกระทรวงบริการชุมชนและยุติธรรมรัฐน.ซ.ว.กำหนดให้ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวอาจได้รับการพิจารณาให้ที่พักชั่วคราวเป็นเวลาไม่กี่วัน (for a few days) ถ้าพวกเธอหลบหนีออกมาจากการใช้ความรุนแรงภายในครอบครัวภายใต้ “สถานการณ์พิเศษ” และไม่มีทางเลือกในการหาที่พักอื่น
เมื่อเปรียบเทียบกับสตรีชาวออสเตรเลียผู้หลบหนีมาจากการใช้ความรุนแรงในครอบครัวสามารถได้ที่พักชั่วคราวในรัฐน.ซ.ว.เป็นเวลา 28 วัน
แต่รัฐน.ซ.ว.ยังตามหลังรัฐวิกตอเรีย, แทสเมเนียและออสเตรเลียแคพิตอลเทร์ริทอรี (ACT) ที่เพิ่มเวลาอยู่อาศัยยาวนานออกไปในช่วงเวลาที่ไวรัส COVID-19 ยังคงระบาด ในขณะที่รัฐน.ซ.ว.ยังไม่มีความช่วยเหลือนี้
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply